สัมพันธ์จีน-สหรัฐตึงเครียดยุค'ไบเดน'

สัมพันธ์จีน-สหรัฐตึงเครียดยุค'ไบเดน'

สัมพันธ์จีน-สหรัฐตึงเครียดยุค'ไบเดน' หลังพูดคุยกันทางโทรศัพท์และมีหลายประเด็นที่ยังมีความเห็นไม่ตรงกัน

สหรัฐต่อสายเจรจากับจีนครั้งแรกหลังประธานาธิบดีโจ ไบเดนขึ้นบริหารประเทศอย่างเป็นทางการ เน้นหารือประเด็นเมียนมาและไต้หวัน โดย"แอนโทนี บลิงเคน" รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐเรียกร้องให้จีนออกมาประณามเหตุการณ์ก่อรัฐประหารในเมียนมา และเตือนรัฐบาลจีนว่า รัฐบาลสหรัฐจะร่วมงานกับชาติพันธมิตร เพื่อให้จีนรับผิดชอบเกี่ยวกับความพยายามคุกคามเสถียรภาพของนานาประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณช่องแคบไต้หวัน

บลิงเคนพูดคุยทางโทรศัพท์กับ“หยาง เจียฉือ” ผู้อำนวยการสำนักกิจการต่างประเทศของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน เมื่อวันศุกร์(5ก.พ.)ที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐและจีนได้มีการพูดคุยกันนับตั้งแต่ประธานาธิบดีไบเดนเข้ารับตำแหน่ง และระหว่างการพูดคุยนายบลิงเคนได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของสิทธิมนุษยชน ในขณะที่นายหยางเรียกร้องให้สหรัฐเคารพอำนาจอธิปไตยของจีน

ด้าน"เน็ด ไพรซ์" โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า “ท่านรัฐมนตรีบลิงเคนได้มีการย้ำเตือนว่าสหรัฐจะยังคงยืนหยัดเพื่อสิทธิมนุษยชนและคุณค่าทางประชาธิปไตยต่อไป รวมถึงในซินเจียง ทิเบต และฮ่องกง และขอให้จีนเข้าร่วมกับประชาคมโลกในการประณามการก่อรัฐประหารของกองทัพเมียนมา

การพูดคุยทางโทรศัพท์ระหว่างเจ้าหน้าที่ทูตระดับสูงของทั้งสองประเทศมีบรรยากาศตึงเครียด บ่งชี้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างมหาอำนาจทั้งสองน่าจะยังไม่ดีขึ้นภายใต้การบริหารของปธน.ไบเดน โดยหยาง ตอบโต้ว่าสหรัฐไม่ควรเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องภายในประเทศของจีนอย่างประเด็นซินเจียง ทิเบต และฮ่องกง พร้อมเตือนบลิงเคนว่าความพยายามที่จะใส่ร้ายป้ายสีจีนไม่ว่าในทางใดๆ จะไม่ได้ผลอย่างแน่นอน

นอกจากหยางแล้ว “กุย เทียนข่าย” เอกอัครราชทูตจีนประจำสหรัฐ ยังออกมาให้ความเห็นว่า การแก้ไขปัญหาระหว่างประเทศของบรรดาเพื่อนบ้านในเอเชีย ไม่จำเป็นต้องให้ประเทศนอกภูมิภาคเข้ามาแทรกแซง ซึ่งจะทำให้แก้ไขปัญหาได้ง่ายกว่าและมีโอกาสสำเร็จมากขึ้น

กุย ให้ความเห็นในโอกาสให้สัมภาษณ์ประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐแก่สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น โดยกล่าวว่า “เมื่อคุณดูแผนที่ คุณจะพบว่าปัญหาทั้งหมดนั้น มีทั้งเรื่องภายในประเทศของจีนเอง หรือไม่ก็พื้นที่อื่นๆ ที่ติดกับจีน” กุย กล่าว พร้อมทั้งชี้แจงถึงนโยบายต่างประเทศที่แข็งกร้าวของรัฐบาลจีน

“พูดถึงตรงนี้ คุณลองดูจากแผนที่ก็ได้ว่า ประเทศไหนคอยรุกราน ประเทศไหนคอยตั้งรับ ประเทศเหล่านี้อยู่ไกลจากสหรัฐทั้งนั้น” กุยกล่าว

เอกอัครราชทูตจีนย้ำว่าจีนดำเนินนโยบายต่างประเทศอย่างเสมอต้นเสมอปลาย “เรามีนโยบายที่มุ่งสร้างความสงบสุขอย่างอิสระ แน่นอนว่า เราต้องปกป้องอำนาจอธิปไตยและเอกราชของตนเอง เพราะเป็นสิ่งที่ต้องทำอยู่แล้ว”

กุยกล่าวต่ออีกว่า จีนและประเทศเพื่อนบ้านสามารถแก้ไขปัญหาข้อพิพาทด้วยการเจรจาและประนีประนอม อย่างที่จีนได้ทำสนธิสัญญาและข้อตกลงกับประเทศเพื่อนบ้านว่าด้วยเรื่องพรมแดน

“ปัญหาทั้งหมดแก้ไขได้ด้วยการเจรจาอย่างสงบ ตอนนี้มีเพียง 2-3 ปัญหานั้นที่ยังค้างอยู่ แต่เราก็พร้อมที่จะแก้ไข เจรจา และพร้อมที่จะรักษาเสถียรภาพ รวมถึงความผาสุกในภูมิภาค” กุยชี้แจงและเสริมว่า “การแก้ไขปัญหาในหมู่ประเทศเพื่อนบ้านด้วยกันเองโดยที่ประเทศอื่นไม่ต้องเข้ามายุ่งเกี่ยว ย่อมแก้ได้ง่ายกว่าและเป็นไปได้มากกว่า”