TKN ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ 5.2พันล้าน เล็งจับมือพันธมิตรขยายธุรกิจ

TKN ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ 5.2พันล้าน เล็งจับมือพันธมิตรขยายธุรกิจ

“เถ้าแก่น้อย”เปิดแผนปี 64 พร้อมลุยตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดจีน สหรัฐ พร้อมจับมือพันธมิตรหนุนยอดขายเพิ่ม ด้าน ผู้ถือหุ้นใหญ่ “อิทธิพัทธ์”ยันข่าวลือไม่เป็นความจริง ยังคงเดินหน้ารุกธุรกิจทั้งในประเทศ-ต่างประเทศ

    นายคู่สูรย์ รัตนะพร ผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด(มหาชน)หรือ TKN กล่าวว่า แผนการดำเนินธุรกิจปี 2564 เบื้องต้นบริษัทตั้งเป้ายอดขายปีนี้อยู่ที่ราว 5-5.2 พันล้านบาท เติบโตมากขึ้นหากเทียบกับปี 2563 ที่ผ่านมา แม้จะเจอผลกระทบจากไวรัสโคโรนา สายพันธ์ุใหม่ หรือโควิด-19 เนื่องจาก คาดว่ายอดขายจากธุรกิจหลักน่าจะเติบโตมากขึ้น

    โดยเฉพาะการเติบโตจากต่างประเทศ ซึ่งประเทศที่จะมีการเติบโตดี คือตลาดสหรัฐ ที่ปัจจุบันสัดส่วนยอดขายเพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาอยู่ที่ราว 5% หากเทียบกับยอดขายทั้งหมด

    ดังนั้นถือว่ายังมีโอกาสขยายตัวอีกมากด้านยอดขาย เพราะตลาดผู้บริโภคใหญ่ที่สุดในโลกอยู่ที่สหรัฐ แต่สินค้าที่เกี่ยวกับขนมตลาดยังเล็กมาก อีกทั้งผลิตภัณฑ์ของบริษัท ยังเป็นสินค้าที่เกี่ยวกับสินค้าที่ให้สารอาหาร ซึ่งถือเป็น Global trends ของโลกที่กำลังเป็นที่สนใจ ดังนั้นมองว่า ในอนาคตตลาดนี้จะสามารถเติบโตได้ก้าวกระโดด

    “ปัจจุบันบริษัทมียอดขายกว่า 40 ประเทศทั่วโลก ซึ่งประเทศที่มีการเติบโตที่ดี คือประเทศจีน ซึ่งปัจจุบันสัดส่วนยอดขายจากจีน อยู่ที่ราว 40% ขณะที่ยอดขายในประเทศอื่นๆอีก 20% และยอดขายจากในประเทศไทยอีก 40%”

    รวมถึงการเติบโตยอดขายของบริษัทในอนาคต จะมาจากผลิตภัณฑ์ และสินค้าของบริษัทที่จะมีหลากหลายมากขึ้น โดยปีนี้บริษัทมีแผนออกสินค้าใหม่ภายใต้แบรนด์เถ้าแก่น้อยทุกไตรมาส และออกสินค้าใหม่ผ่านการโคแบรนด์ 3 แบรนด์ และเตรียมออกผลิตภัณฑ์น้ำดื่มอีก 1 แบรนด์ในปีนี้ โดยบริษัทมีงบที่พร้อมลงทุนปีนี้กว่า 200ล้านบาท ทั้งการออกผลิตภัณฑ์ใหม่และขยายกำลังการผลิตเพิ่มเติม

    นอกจากนี้บริษัทมีแผนจับมือกับพันธมิตรใหม่ๆทางธุรกิจ ในการขยายสินค้าออกไปขายในต่างประเทศมากขึ้น ทั้งที่สหรัฐ จีน และจะขยายไปสู่ประเทศใกล้เคียงเพิ่มมากขึ้น

    รวมถึงการลงทุนในบริษัทใหม่ๆเพื่อขยายธุรกิจในอนาคตปัจจุบันมีพันธมิตรใหม่ๆสนใจเข้ามาพูดคุยกับบริษัทเข้ามาค่อนข้างมาก เพื่อเข้ามาร่วมทำธุรกิจในอนาคต ซึ่งบริษัทก็ไม่ได้ปิดโอกาส หากเป็นโอกาสของบริษัทในการสร้างการเติบโตในอนาคตได้บริษัทก็พร้อม

   นายคู่สูรย์ กล่าวถึงกระแสข่าวลือผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท มีแผนจะขายหุ้นให้กับพันธมิตรรายหนึ่ง และดำเนินการเพิกถอนหุ้นของบริษัทออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)นั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด

    ทั้งนี้ปัจจุบันผู้ถือหุ้นใหญ่ ยังคงสัดส่วนการถือหุ้นกว่า50% โดยไม่มีแผนขายหุ้นให้กับนักลงทุนหรือพันธมิตรรายใดรายหนึ่งออกแน่นอน เพราะยังมองโอกาสในการเติบโตของธุรกิจบริษัทได้อีกมากในอนาคต

    อีกทั้งการขายหุ้นล่าสุดบนกระดาน คิดเป็นเพียงไม่ถึง 1% ซึ่งถือว่าน้อยมาก หากเทียบกับสัดส่วนหุ้นที่ผู้ถือหุ้นใหญ่ถืออยู่ ซึ่งการขายหุ้นดังกล่าวถือเป็นการบริหารพอร์ตปกติ เพราะที่ผ่านมา ผู้ถือหุ้นใหญ่มีการซื้อ และขายหุ้น TKN ต่อเนื่องเป็นปกติอยู่แล้ว

    “การซื้อขายหุ้นบนกระดานเป็นเรื่องปกติของการบริหารพอร์ต ที่ผ่านมาซื้อก็เยอะแต่ไม่เป็นข่าว ซึ่งการขายครั้งนี้ก็เพื่อบริหารพอร์ตเท่านั้น แต่ยืนยันว่าผู้ถือหุ้นใหญ่ยังไม่มีแผนขายหุ้นออกมา วันนี้ยังถืออยู่ 50%ปลายๆ"

    นายอิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TKN กล่าวว่า ขอยืนยันว่ากระแสข่าวลือดังกล่าวไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด

    ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังเดินหน้าขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศตามแผนที่ตั้งไว้ บริษัทฯได้บุกตลาดในประเทศ โดยเปิดตัวสินค้าใหม่ เป็นผลิตภัณฑ์นมพาสเจอไรซ์รสชานม‘จัสท์ดริ้งค์’ รวมทั้งมีแผนออกผลิตภัณฑ์ โคแบรนด์ โดยยังคงเป้ายอดขายเดิม 10,000 ล้านบาทภายในปี 2567