“ฟินน์จัง” ปั้นสแน็คหมวดใหม่  รับเทรนด์สุขภาพ ชิงเค้ก 4 หมื่นล.

“ฟินน์จัง” ปั้นสแน็คหมวดใหม่   รับเทรนด์สุขภาพ ชิงเค้ก 4 หมื่นล.

แม้ปี 2563 จะเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จนกระทยหลากธุรกิจให้ซวนเซ เพราะผลการดำเนินงาน “ติดลบ” ยอดขายตก แต่ยังมีสินค้าบางหมวดหมู่ที่พอทัดทานวิกฤติไปได้ หนึ่งในนั้นคือ “ขนมขับเคี้ยว” หรือสแน็ค

เหตุผลที่สแน็คเติบโต เนื่องจากผู้บริโภคตระหนก จึงหยิบสินค้าไปตุนไว้บริโภค เมื่อต้องทำงานที่บ้าน อยู่บ้านกันมากขึ้น จึงเป็นสินค้าที่ขยายตัวพ่วงไปกับเครื่องดื่มอัดลม เมื่อตลาดสแน็คโต และผู้ประกอบการเห็นช่องว่างตลาดจึงพัฒนาสินค้านวัตกรรม สร้างแบรนด์ ขอแจ้งเกิด

ภาณุพงศ์ บุญเมือง คร่ำหวอดในแวดวงธุรกิจอีเวนท์ภายใต้บริษัท ไมโครโฟน และมีลูกค้าเป็นหน่วยงานภาครัฐ โดยเฉพาะสถาบันอาหาร มีการทำงานร่วมกันตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำให้กับลูกค้าอีกทอด ทำให้มีองค์ความมรู้เกี่ยวกับการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร

เมื่อธุรกิจอีเวนท์ซบเซา แต่ธุรกิจอาหารซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นยังมีโอกาสขยายตัว จึงลงขันกับหุ้นส่วนรวม 4 คน มาตั้งบริษัท แกงเลียง จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียนตั้งต้น 1 ล้านบาท ภายหลังเพิ่มทุนเป็น 10 ล้านบาท โดยตนนั่งเก้าอี้กรรมการผู้จัดการพร้อมกันนี้ได้ระดมไอเดีย สรรพกำลังปลุกปั้นแบรนด์ ฟินน์จัง บุกตลาดขนมขบเคี้ยวมูลค่าเกือบ 4 หมื่นล้านบาท ปี 2563 เติบโต 5%

ตลาดสแน็คเต็มไปด้วยบิ๊กแบรนด์ระดับโลก ที่ทุนหนา แบรนด์สินค้าเด่นดัง ส่วนหมวดหมู่ที่ใหญ่ยังเป็นมันฝรั่ง ขนมขึ้นรูป สาหร่าย ปลาเส้น ทำให้การปลุกปั้นฟินน์จังจึงฉีกกรอบหนีการแข่งขันที่ดุเดือด นำเสนอสินค้านวัตกรรมจากโปรตีนถั่วลิสงอบและไข่ขาวซึ่งมั่นใจว่าเป็นเจ้าแรกของโลก วางตำแหน่งสินค้าสแน็คเพื่อสุขภาพรับเทรนด์ผู้บริโภคที่ใส่ใจ ดูแลตัวเอง และเลือกสินค้าในการรับประทาน ทั้งเลี่ยงเนื้อสัตว์ มองหาเนื้อสัตว์จากพืชหรือแพลนท์เบสท์มากขึ้น

ส่วนการผลิตสินค้าใช้จ้างพันธมิตรหรือโออีเอ็มราว 4 ล้านตันต่อเดือน ในฐานะน้องใหม่จึงลุยตลาดเฉพาะ(Niche Market) รวมถึงช่องทางจัดจำหน่ายทีเป็นใบเบิกทางก็นิชมมาร์เก็ตเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น ร้านยาเพรียว ของยักษ์ค้าปลีกบิ๊กซี, เลมอน ฟาร์ม, วิลล่า มาร์เก็ต และร้านสุขภาพพอดี หลักหลายร้อยสาขา พร้อมเจาะออนไลน์ผ่านมาร์เก็ตเพลสอย่างลาซาด้าและช้อปปี้ เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย อนาคตยังวางแผนขยายช่องทางขายให้กว้างขึ้น ทั้งรุกฟิตเนส ร้านค้าปลีกใหม่ๆ เพิ่มเติมด้วย

ปีนี้เราโฟกัสนิช มาร์เก็ตก่อน เพราะต้องการสร้างแบรนด์ฟินน์จังให้แข็งแกร่งก่อน เกิดการรับรู้เป็นแบรนด์ซูเปอร์สแน็คเพื่อสุขภาพอย่างแท้จริง ไม่ใช่มุ่งเจาะตลาดวงกว้างหรือแมส แต่สินค้าบนชั้นวางไม่มี อาจส่งผลกระทบต่อการทำตลาดและแบรนด์ได้

ฟินน์จัง มีสินค้า 4 รายการ(เอสเคยู) ตามแผนจะพัฒนาสินค้าใหม่เติมพอร์ตโฟลิโอ 6 เดือน 1 รายการ ตอกย้ำโปรตีนจากถั่วและไข่ขาวจับคู่กันเสมอ แต่จะขยายสู่ถั่วชนิดใหม่ๆมากขึ้น เช่น อัลมอนด์ โดยปีแรกของการบุกตลาดตั้งเป้าหมายยอดขาย 40 ล้านบาท และภายใน 3 ปี ต้องการผลักดันให้แตะ 100 ล้านบาท

 ส่วนแผนระยะยาวต้องการขยายตลาดสู่ต่างประเทศ โดยเฉพาะยุโรป ซึ่งเป็นตลาดมีศักยภาพ แต่การลุยต่างแดนจะมีการพิจารณาสร้างแบรนด์ใหม่ตอบโจทย์แต่ละตลาด และผลักดันยอดขายภายใน 5 ปี แตะระดับ 1,000 ล้านบาท

ตลาดสแน็คมีขนาดใหญ่ เมื่อแบ่งย่อยหมวดสแน็คเพื่อสุขภาพมีสัดส่วนไม่มากนักราว 5-10% แต่มีการเติบโตที่ดี และแนวโน้มขยยายตัวต่อเนื่อง ส่วนภาพรวมตลาดปีที่แล้วมีการเติบโต เพราะผู้บริโภคแพนิกในการหยิบซื้อสินค้าไปตุนไว้ ปี 2564 คาดว่าการเติบโตคงไม่เท่าปีก่อน เพราะสถานการณ์ปัจจุบันผู้บริโภคเดินชอปปิงซื้อสินค้าในห้างค้าปลีกลดลง ด้านการแข่งขันตลาดสแน็คแม้จะมีรายใหญ่ แต่การที่ฟินน์จังเป็นแบรนด์เล็ก ถือว่ามีความยืดหยุ่น สแน็คเพื่อสุขภาพยังมีช่องว่างตลาด ผู้บริโภคคนไทยรักการกิน จึงเชื่อว่าเป็นปัจจัยเอื้อต่อการเติบโต

อย่างไรก็ตาม การบุกตลาดสแน็คถือจะเป็นจิ๊กซอว์ที่ช่วยให้บริษัทหาน่านน้ำการเติบโตใหม่ๆ รับโลกธุรกิจที่เต็มไปด้วยความผันผวนและเสี่ยง ที่สำคัญยังเป็นการสร้างทางรอดท่ามกลางวิกฤติโควิดระบาดระลอกใหม่ ที่ซ้ำเติมระลอกแรกด้วย