'ปชป.' ย้ำจุดยืนค้านญัตติ “ไพบูลย์” ยื่นศาลตีความ รัฐสภามีอำนาจแก้ รธน.ทั้งฉบับได้หรือไม่

วันที่ 8 ก.พ. นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) แถลงผลการประชุม ส.ส. ของพรรคว่า ที่ประชุมมีการพิจารณาประเด็นที่สืบเนื่องจากการเสนอญัตติด่วนให้รัฐสภา มีมติให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของสภาผู้แทนราษฎรตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 210 (2) ตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2562 ข้อที่ 48 ซึ่งเป็นญัตติที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ และนายสมชาย แสวงการ ส.ว. เป็นผู้เสนอเพื่อขอความเห็น โดยมติจากที่ประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อให้ส่งญัตติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญไปให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าเป็นร่างที่ขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญหรือไม่นั้นเรื่องนี้พรรคมีมติไปแล้วในการประชุมครั้งก่อน

"ยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่เห็นด้วยกับญัตติดังกล่าว ที่จะส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย ด้วยเหตุผลว่าในการลงรายมือชื่อในญัตติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญนั้น ก็ได้ยืนยันไปแล้วว่า เป็นญัตติการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ดังนั้นเมื่อมีการยื่นญัตติเพื่อให้ส่งร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญไปให้ศาลรัฐธรรมนูญนั้น ที่ประชุม ส.ส.ก็มีมติย้ำอีกรอบว่า ไม่เห็นด้วยกับญัตติของนายไพบูลย์ ที่จะส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย"นายราเมศ กล่าว

นายราเมศ กล่าวต่อว่า กรณีนี้ขณะที่มีการลงรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ก็เห็นแล้วว่าเป็นร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญชอบด้วยรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ส่วนกระบวนการในการตรวจสอบร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ มีกระบวนการอยู่แล้วคือ ภายหลังจากที่เสร็จสิ้นจากการพิจารณาในวาระที่ 3 เมื่อผ่านวาระ 3 แล้วในกฎหมายรัฐธรรมนูญได้ระบุไว้ชัดว่า ก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯ ให้สมาชิกรัฐสภาที่เห็นว่ามีส่วนไหนที่ขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญก็ให้สิทธิ์ในการส่งศาลรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว ซึ่งเป็นขั้นตอนที่กฎหมายกำหนดไว้ค่อนข้างชัดเจน แต่ขณะนี้กลับกลายเป็นว่านายไพบูลย์มายื่นขณะที่ร่างรัฐธรรมนูญนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาในวาระที่ 2 พรรคประชาธิปัตย์จึงมีมติชัดเจน ย้ำมติอีกหนึ่งครั้งให้ ส.ส.ทราบว่ามีมติไม่เห็นด้วยกับญัตติของนายไพบูลย์

นายราเมศ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ที่ประชุม ส.ส.ยังได้พิจารณาถึง ร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ ที่จะเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมร่วมกันของรัฐสภาในวันพรุ่งนี้ด้วย โดยพรรคประชาธิปัตย์มีมติเห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว แต่ ส.ส.ของพรรคได้แสดงความเห็นอย่างกว้างขวาง ซึ่งเห็นว่ามีหลายประเด็นที่เป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับประชาชน และประเด็นเรื่องการแต่งตั้งโยกย้าย ดังนั้นจะได้มีการนำรายละเอียดต่างๆ เพื่ออภิปรายในวาระรับหลักการ และจะมีการยื่นแปรญัตติในวาระที่ 2 ซึ่งที่ประชุม ส.ส.มีมติตั้ง กมธ.วิสามัญ และส่งรายชื่อ ส.ส. ของพรรค เพื่อไปเป็น กมธ.วิสามัญชุดดังกล่าว ประกอบด้วย นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส. จังหวัดตรัง พล.ต.อ. สุรินทร์ ปาลาเร่ ส.ส.จังหวัดสงขลา และ น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ