GPSC - ถือ

GPSC - ถือ

ประมาณการ 4Q63: กำไรเพิ่มขึ้น YoY

Event

ประมาณการ 4Q63, ปรับลดคำแนะนำ และราคาเป้าหมาย

Impact

คาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักใน 4Q63 จะเพิ่มขึ้น YoY แต่ลดลง QoQ

เราคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักของ GPSC ใน 4Q63F จะอยู่ที่ 2.0 พันล้านบาท (+43.4% YoY, -30.3%QoQ) โดยกำไรที่เพิ่มขึ้น YoY จะเป็นผลมาจาก i) ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยลดลง และ ii) ต้นทุนก๊าซลดลง (-10.3% YoY, -17.3% QoQ) ในขณะที่กำไรที่ลดลง QoQ จะเป็นเพราะ i) ปัจจัยฤดูกาลของ IPP ii) รายได้ equity income จาก XPCL ลดลงเนื่องจากเป็นช่วง low season และ iii) ค่าใช้จ่าย SG&A เพิ่มขึ้น สำหรับรายการที่ไม่เกี่ยวกับการดำเนินงาน เราคาดว่า GPSC จะมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่รับรู้ 10 ล้านบาท และค่าใช้จ่าย amortization ของ GLOW อีก 350 ล้านบาท ทำให้กำไรสุทธิใน 4Q63 อยู่ที่ 1.7 พันล้านบาท (+46.4% YoY, -34.9% QoQ) ซึ่งหากผลประกอบการ 4Q63 เป็นไปตามคาดจะทำให้กำไรจากธุรกิจหลักในปี 2563F เท่ากับ 98.2% ของประมาณการกำไรปี 2563F ที่ปรับใหม่ของเรา

ปรับลดประมาณการกำไรจากธุรกิจหลักในปี 2564 ลง 14.6% จากค่าเงินบาท และ GHECO-One

เราปรับลดประมาณการกำไรจากธุรกิจหลักในปี 2564 ลงจากเดิม 14.6% เพื่อสะท้อนถึง i) AP ที่ลดลงของ GHECO-One และ ii) สมมติฐานค่าเงินบาทปีนี้ที่แข็งขึ้นจากเดิมที่ 31 บาท/ดอลลาร์ฯ เป็น 29.50 บาท/ดอลลาร์ฯ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อทั้ง IPPs, SPPs และโรงไฟฟ้าพลังน้ำ (XPCL) ซึ่งรายได้ผูกอยู่กับสกุลดอลลาร์ฯ นอกจากนี้ เรายังปรับสมมติฐานค่าเงินบาทในระยะยาวจากเดิม 31 บาท/ดอลลาร์ฯ เป็น29 บาท/ดอลลาร์ฯ ซึ่งจะทำให้ราคาเป้าหมายลดลง 1.9%

โรงงานผลิตแบตเตอรี่ semi solid state ขนาด 30MWh จะเริ่มทำการผลิต และทำให้กำไรมี upside

GPSC คาดว่าจะเริ่มเปิดดำเนินการโรงงานผลิตแบตเตอรี่ semi state ได้ใน 2Q64 ซึ่งจะทำให้ GPSC มีโอกาสเข้าร่วมการประมูลโครงการ E-Bus ของ ขสมก. (2,500 คัน) เราเชื่อว่า GPSC จะหาพันธมิตรเพื่อเข้ามาร่วมประมูลโครงการนี้ ซึ่งการที่จะทำได้ตามข้อกำหนดการใช้ชิ้นส่วนในประเทศ (local content) ขั้นต่ำที่ 50% จำเป็นต้องใช้แบตเตอรี่ (หนึ่งในสามของต้นทุน) ที่ผลิตภายในประเทศ และ GPSC ก็เป็นหนึ่งในสองผู้ผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมในประเทศไทย อย่างไรก็ตาม เรายังไม่ได้รวมปัจจัยนี้เข้าไว้ในประมาณการกำไร และการประเมินมูลค่าหุ้น

Valuation & Action

เราปรับลดคำแนะนำจาก ซื้อ เป็น ถือ โดยประเมินราคาเป้าหมาย DCF ปี 2564 ที่ 79.25 บาท เนื่องจากเหลือ upside จำกัด เราคิดว่าความคืบหน้าในการเข้าซื้อกิจการ (พลังงานหมุนเวียนในอินเดีย) จะเป็นปัจจัยกระตุ้นในระยะสั้น ซึ่งเรายังไม่ได้รวมเข้ามาในประมาณการของเรา

Risks

ความล่าช้าในการจัดสรรกำลังการผลิตใหม่, มีการเปลี่ยนกฎเกณฑ์ของทางการ, โรงไฟฟ้าหยุดผลิตไฟฟ้า, และความล่าช้าในการก่อสร้างโครงการใหม่