'สมศักดิ์'แจง'สรยุทธ'ต้องใส่กำไลEM2ปี4เดือนหลังพักโทษปล่อยตัว

'สมศักดิ์'แจง'สรยุทธ'ต้องใส่กำไลEM2ปี4เดือนหลังพักโทษปล่อยตัว

"สมศักดิ์" แจง ปล่อยตัว "สรยุทธ" จากการพักโทษ เหตุพิเศษ ยังต้องใส่ กำไลEM 2ปี4เดือน จนกว่าพ้นโทษ ชี้ หากทำผิดต้องกลับเรือนจำ ระบุ ที่ผ่านมา ได้อภัยโทษ 2 ครั้ง เข้าเกณฑ์พิจารณา ทั้งประพฤติตัวดี ช่วยงานราชทัณฑ์

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา อดีตพิธีกรรายการข่าวชื่อดัง เตรียมได้รับการพิจารณาพักโทษโดยเหตุพิเศษและจะได้รับการปล่อยตัวว่า แม้ว่านายสรยุทธ์จะได้รับการปล่อยตัวแต่ยังไม่ใช่การพ้นโทษ เป็นการพักโทษจากเหตุพิเศษ ซึ่งเมื่อออกจากเรือนจำต้องสวมกำไล EM เป็นระยะเวลา 2 ปี 4 เดือน คือตั้งแต่วันที่ 14 มี.. 2564 - 26 .. 2566 และต้องรายงานตัวกับกรมคุมประพฤติตามกำหนดจนกว่าจะพ้นโทษคือในวันที่ 26 ..2566 โดยที่ผ่านมานายสรยุทธ์ได้รับพระราชทานอภัยโทษ โดยการลดโทษมาแล้ว 2 ครั้งเหลือโทษจำคุก 2 ปี 4 เดือนจากโทษเดิม 6 ปี 24 เดือน ทำให้เข้าข่ายในการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาพักโทษ ซึ่งได้พิจารณาผู้ต้องขังเข้าเกณฑ์การพักการลงโทษเหตุพิเศษ การประพฤติตัวของนายสรยุทธ์อยู่ในเกณฑ์ที่ดี มีการช่วยงานของกรมราชทัณฑ์หลายอย่าง เช่นการช่วยประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 ให้กับผู้ต้องขัง ซึ่งหลังจากที่ผู้บริหารมีความกังวลใจว่าจะประชาสัมพันธ์การป้องกันโรคอย่างไร ก็ได้เล็งเห็นความสามารถของนายสรยุทธ์ จึงได้ให้มาช่วยงานในส่วนนี้ นอกจากนี้ยังช่วยทำให้ผู้ต้องขังไม่ตื่นกลัว หลังจากมีการแหกคุกโดยอ้างว่ากลัวโควิด ซึ่งการช่วยประชาสัมพันธ์ทำให้สถานการณ์ดีขึ้น

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ในส่วนของผู้ที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษนั้น หากคดีปล้นฆ่า ข่มขืน ผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ หรือคดีร้ายแรงตามที่เราจัดชั้นนักโทษไว้ จะไม่ได้รับการพระราชทานอภัยโทษ แต่ผู้ต้องขังคดีไม่ร้ายแรงและมีความประพฤติดีเท่านั้นที่จะได้รับการพระราชทานอภัยโทษ ซึ่งการพักโทษของนายสรยุทธ์ เราไม่ได้ห้ามทำมาหากิน เพราะเรามีแนวคิดคืนคนดีสู่สังคม และอาจจะให้มาช่วยโปรโมท ทำให้นายจ้างยอมรับคนพักโทษและพ้นโทษได้มากขึ้นแต่หากนายสรยุทธ์มีการทำผิดในระหว่างนี้จะส่งถูกส่งตัวกลับเข้าเรือนจำและถูกคุมขังจนกว่าจะพ้นโทษ

ทั้งนี้ขณะนี้เรือนจำทั่วประเทศมีผู้ต้องขังประมาณ 320,000 คน และในกลางเดือนนี้จะมีผู้ต้องขังได้รับการพักโทษจากเหตุพิเศษติดกำไล EM อีกประมาณ 10,000 คน ซึ่งจะช่วยลดความแออัดในเรือนจำได้เป็นอย่างมากตามนโยบายที่เราได้วางเอาไว้