การเก็งกำไรเริ่มกลับเข้าสู่สภาวะปกติ โฟกัสของนักลงทุนกลับมายังผลประกอบการ

ราคาหุ้น GameStop (GME) ปิดที่ 90 ดอลลาร์สหรัฐฯ หลังเคบขึ้นไปสูงสุดถึง 483 ดอลลาร์สหรัฐฯ ภาวะการเก็งกำไรเริ่มกลับเข้าสู่ปกติ ทั้งนี้หากถอดบทเรียนสำคัญจากการเก็งกำไรที่ผ่านมา จุดสำคัญไม่ใช่การรวมตัวของรายย่อย แต่คือความผิดพลาดของกองทุนและเฮดจ์ฟันด์ที่กำการขายชอร์ตหุ้นจนมากกว่าปริมาณหุ้นหมุนเวียนถึง 38% ส่งผลให้เกิดช่องโหว่ของการบริหารความเสี่ยง และทำให้เกิดเกมศืของการไล่หุ้นเพื่อบีบให้ปิดสถานะขายชอร์ต (Short squeeze) ซึ่งเป็นปัจจัยเฉพาะกรณี ขณะที่ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ ทยอยประกาศออกมาโดยรวมค่อนข้างดี ทำให้ภาพรวมการเก็งกำไรเริ่มกลับสู่ปกติ และกลับมามองยังผลประกอบการ

คาดกนง.คงดอกเบี้ย โฟกัสนักลงทุนกลับสู่ผลประกอบการ เราคาดกนง.จะเลือกคงดอกเบี้ยนโยบาย เนื่องจากปัญหาทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นมาจากกำลังซื้อในระบบที่หายไปจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ซึ่งการลดดอกเบี้ยจะไม่ช่วยในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้อาจเห็นแรงขายทำกำไรในกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการลดดอกเบี้ยที่ถูกเก็งขึ้นมาก่อนหน้าอย่างกลุ่มไฟแนนซ์ และอสงัหาริมทรัพย์ อย่างไรก็ตามภาพรวมผลประกอบการของทั้งสองกลุ่มมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี และเป็นการฟื้นตัวต่อเนื่องหลังสถานการณ์โควิด ทำให้การปรับตัวลงจะเป็นโอกาสทยอยเลือกลงทุน ในกลุ่มดังกล่าว

ภาพรวมคาดการณ์งบกลุ่มไฟฟ้า ภาพรวมกำไรไตรมาส 4 ลดลง 14% QoQ แต่เพิ่มขึ้น 13% YoY ตัวที่อาจรายงานกำไรผิดคาดคือ EGCO -50% QoQ และ – 52% YoY จากโรงไฟฟ้าเคซอนที่ยังมีปัญหาในการดำเนินงาน ขณะที่รายได้จากกลุ่มพลังงานทดแทนได้รับผลกระทบจากแดดที่ไม่ดีนัก ส่วนหุ้นที่คาดมีกำไรเป็นบวกเด่น BPP +32% QoQ +120% YoY จากโรงไฟฟ้าหงสาที่กลับมาดำเนินงานได้เป็นปกติ สำหรับหุ้นเด่นกลุ่มไฟฟ้าปัจจุบันคือ BPP

คงมุมมองบวกภาพระยะกลาง ขณะที่ระยะสั้นเลือกเก็งกำไรรายตัว ด้วยสภาพคล่องในระบบที่ยังอยู่ในระดับสูง และไม่ได้มีการส่งสัญญาณใช้นโยบายการเงินที่ตึงตัวจากธนาคารกลางขนาดใหญ่ทำให้เราคงมุมมองบวกต่อภาพระยะกลาง อย่างไรก็ตามความเสี่ยงจากการแข็งค่าของเงินเหรียญสหรัฐฯ และการขายพันธบัตรเพื่อใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจกดดันต่อเงินทุนไหลออกระยะสั้น และทำให้บรรยากาศการเก็งกำไรช่วงสั้นจะกลับมายังหุ้นขนาดกลาง-เล็กที่มีปัจจัยเฉพาะตัวและไม่พึ่งเม็ดเงินต่างชาติ

ภาพรวมกลยุทธ์ ฟื้นตัวทดสอบ 1,500 จุด โดยยังเป็นการหมุนในกลุ่มนำตลาด ปิโตรเคมี, การเงิน, ธนาคาร โดยติดตามความผันผวนจากการแข็งค่าของเงินเหรียญสหรัฐฯ   // หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร SPALI, TNP*, PTG*, SAPPE*

แนวรับ 1,479 จุด / แนวต้าน : 1,500 จุด สัดส่วน : เงินสด 60% : พอร์ตหุ้น 40%

ประเด็นการลงทุน

ไฟเซอร์ยันสามาคส่งมอบวัคซีน 200 ล้านโดสให้สหรัฐในเดือน พ.ค.. พร้อมระบุว่าจะสามารถส่งมอบวัคซีนจำนวน 2 พันล้านโดสให้แก่ประเทศต่างๆทั่วโลกภายในปีนี้

EU GDP หดตัว 0.7% ในไตรมาส 4/63. ยูโรสแตท รายงานตัวเลข GDP ยูโรโซนหดตัว 0.7% ในไตรมาส 4/63 รับผลกระทบจากผลของมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดระลอกสอง

AMATA. เผยว่าเหตุการณ์รัฐประหารในเมียนมาส่งผลกระทบต่อแผนการพัฒนาและลงทุนนิมคมอุตสาหกรรม (YASEC) ในเมืองย่างกุ้ง ส่งผลให้การเปิดนิคมฯในเฟสแรกอาจต้องเลื่อนแผนจากเดิมในปีนี้เพื่อรอความชัดเจนการเมือง

คาดส่งออก 64 โต 3-4% - ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือ (สรท.) เผยตัวเลขส่งออกปี 63 -6.01% ดีกว่าที่เคยคาดว่าจะหดตัว -10% แสดงถึงเศรษฐกิจต่างประเทศเริ่มฟื้นตัว และแนวโน้มที่น่าจะดีขึ้นหลังจากได้รับวัคซีน

อภิปรายไม่ไว้วางใจ – วันที่ 16-19 ก.พ. ลงมติ 20 ก.พ.

SVI – ผู้บริหาร ถูกกลต.ลงโทษฐานใช้ข้อมูลภายใน และต้องห้ามในการดำรงตำแหน่งในบจ.มีกำหนด 12 เดือน

ประเด็นติดตาม: - 3 ก.พ. : ประชุม กนง. // 4 ก.พ. : TH Consumer Confidence เดือน ม.ค., BOE meeting, US Employment Report

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)