เปิดไทม์ไลน์ 'รัฐประหารเมียนมา'

เปิดไทม์ไลน์ 'รัฐประหารเมียนมา'

ไทม์ไลน์ตั้งแต่วันที่มีกระแสข่าว "รัฐประหาร" จนถึงวันที่กองทัพเมียนมาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นเวลา 1 ปี

เกิดกระแสข่าวเกี่ยวกับการรัฐประหารในเมียนมาตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว จนถึงเช้าวันนี้ (1 ก.พ.) โฆษกพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย(เอ็นแอลดี) แถลงว่า นางออง ซาน ซูจี และบรรดาแกนนำของพรรคหลายคน รวมทั้งประธานาธิบดี ถูกทหารจับกุมไปจากบ้านพักตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่

ต่อไปนี้คือไทม์ไลน์ตั้งแต่วันที่มีกระแสข่าวรัฐประหารจนถึงวันที่กองทัพเมียนมาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นเวลา 1 ปี

พ.ย. 2563: พรรคเอ็นแอลดี ภายใต้การนำของนางซูจี ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย สามารถคว้าที่นั่งในรัฐสภาไปทั้งหมด 396 ที่นั่ง จากทั้งหมด 498 ที่นั่ง เพิ่มจากการเลือกตั้งในปี 2558 จำนวน 5 ที่นั่ง โดยเหล่าบรรดาผู้สนับสนุนนางซูจีและพรรคเอ็นแอลดีฉลองชัยชนะหลังทราบผลการเลือกตั้ง

แต่พรรคยูเอสดีพี ที่ได้รับการสนับสนุนของกองทัพ มีเสียงในสภาล่าง 26 ที่นั่ง และสภาชนชาติ 7 ที่นั่ง ซึ่งลดลงจากเดิมสภาละ 4 ที่นั่ง นี่เป็นชนวนเหตุทำให้พรรคยูเอสดีพี ไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง พร้อมเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่จัดการเลือกตั้งอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม ซึ่งสอดคล้องกับท่าทีของผู้นำกองทัพเมียนมาที่กล่าวหาว่าพรรครัฐบาลร่วมมือกับคณะกรรมการการเลือกตั้งทุจริตการเลือกตั้ง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

26 ม.ค. 2564: โฆษกกองทัพเมียนมาไม่ปฏิเสธถึงความเป็นไปได้ที่กองทัพจะยึดอำนาจเด็ดขาดเพื่อจัดการกับสิ่งที่กองทัพถือว่าเป็นวิกฤติทางการเมือง

27 ม.ค. 2564: พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของเมียนมา กล่าวในงานให้โอวาทนักเรียนเตรียมทหารแห่งวิทยาลัยป้องกันประเทศของกระทรวงกลาโหม ถึงความเป็นไปได้ในการยกเลิกรัฐธรรมนูญของประเทศ ด้วยการบอกว่า รัฐธรรมนูญคือกฎหมายแม่ของกฎหมายทั้งปวง แต่คงจำเป็นต้องยกเลิกรัฐธรรมนูญ หากคนไม่ปฏิบัติตาม

28 ม.ค. 2564: บรรยากาศในนครย่างกุ้งเริ่มเปลี่ยนไปเมื่อมีรถถังหลายชนิดออกมาวิ่งบนท้องถนน โดยทหารอ้างว่าต้องการทดสอบเครื่องยนต์ และโฆษกพรรคเอ็นแอลดีกล่าวว่า สมาชิกพรรคเจรจากับผู้นำทหารแต่ไม่ประสบความสำเร็จ และว่าหากเกิดการรัฐประหาร พรรคเอ็นแอลดีจะไม่ตอบโต้ด้วยกำลัง

29 ม.ค. 2564: สถานเอกอัครราชทูตชาติต่าง ๆ อย่างน้อย 16 ประเทศ รวมถึงสหรัฐ สหภาพยุโรป (อียู) พร้อมด้วย สหประชาชาติ (ยูเอ็น) ต่างออกแถลงการณ์แสดงความวิตกต่อข่าวความเป็นไปได้ที่กองทัพเมียนมาอาจก่อรัฐประหาร ระหว่างสถานการณ์การเมืองถึงทางตัน

ขณะที่ประชาชนผู้สนับสนุนพรรคยูเอสดีพีหลายร้อยคนชุมนุมประท้วง กกต. ทั้งที่กรุงเนปิดอว์และกรุงย่างกุ้ง แต่ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บและไม่มีรายงานการใช้ความรุนแรง

30 ม.ค. 2564: กลุ่มชาวเมียนมาผู้สนับสนุนกองทัพ ร่วมด้วยพระสงฆ์สายชาตินิยม ชุมนุมประท้วงต่อต้านคณะกรรมการการเลือกตั้งที่ด้านนอกเจดีย์ชะเวดากองในนครย่างกุ้ง

ขณะที่กองทัพเมียนมาออกแถลงการณ์สยบความเป็นไปได้ในการรัฐประหารว่าข่าวที่ออกมาเป็นความเข้าใจผิด และยืนยันว่ากองทัพให้คำมั่นที่จะปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญของประเทศ และจะทำงานภายใต้กรอบของกฎหมาย ขณะเดียวกันก็พิทักษ์กฎหมายด้วย

31 ม.ค. 2564: กองทัพเมียนมาแถลงเรียกร้องให้บรรดานักการทูตต่างชาติในเมียนมาอย่าเพิ่งคาดเดาอะไรเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้ และขอให้ประชาคมโลกอย่ายอมรับผลการเลือกตั้งที่ผ่านมาว่าเป็นเรื่องปกติ

1 ก.พ. 2564: กองทัพเมียนมาบุกจับ นางซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึง ประธานาธิบดีวิน มินต์ และแกนนำพรรค เมื่อช่วงเช้าตรู่ ก่อนที่สมาชิกรัฐสภาชุดใหม่จะเปิดประชุมครั้งแรก

นอกจากนั้น กองทัพประกาศใช้สถานการณ์ฉุกเฉินเป็นเวลา 1 ปี พร้อมแต่งตั้ง มินต์ ฉ่วย อดีตนายพลซึ่งดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีที่มาจากฝั่งทหาร ทำหน้าที่รักษาการประธานาธิบดี