DELTA - ขาย

DELTA - ขาย

ประมาณการ 4Q63: กำไรเพิ่มขึ้น YoY แต่ลดลง QoQ

Event

ประมาณการ 4Q63 และแนวโน้มปี 2564

lmpact

ประมาณการ 4Q63: กำไรเพิ่มขึ้น YoY แต่ลดลง QoQ

เราคาดว่ากำไรสุทธิของ DELTA ใน 4Q63 จะอยู่ที่ 1.7 พันล้านบาท (+342% YoY, -36% QoQ) ซึ่งจะทำให้กำไรสุทธิในปี 2563 อยู่ที่ 7.2 พันล้านบาท (+144% YoY) แต่หากไม่รวมกำไร/ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน กำไรจากธุรกิจหลักในปี 2563 จะอยู่ที่ 6.9 พันล้านบาท (+129% YoY) ดีกว่าประมาณการของเรา 5% เราคาดว่ากำไรที่เพิ่มขึ้น YoY ในไตรมาสที่สี่จะมาจากยอดขายที่โต 20% YoY (ในสกุลดอลลาร์ฯ) จาก data center และรถยนต์ไฟฟ้ า (EVs) และอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้น 5.8ppts YoY เป็น 25% จากโครงสร้างยอดขายที่ดีขึ้น และการประหยัดต่อขนาด ในขณะเดียวกัน เราคาดว่ากำไรจะหดตัว QoQ เนื่องจากยอดคำสั่งซื้อลดลงในช่วงฤดูเลือกตั้ง ซึ่งทำให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลงไป 1ppt QoQ เนื่องจากโครงสร้างยอดขายแย่ลง เราคาดว่าสัดส่วน SG&A ต่อยอดขายจะอยู่ที่ 14.5% ใน 4Q63 จาก 12.4% ใน 3Q63 และ 18% ใน 4Q62 เนื่องจากโครงสร้างยอดขายค่อนไปทางสินค้ามาตรฐาน และต้นทุนด้าน logistic สูงขึ้น

แนวโน้มปี 2564: data center และ EVs มีแนวโน้มแข็งแกร่ง

ในบทวิเคราะห์ของ KGI Taiwan เรื่อง “IT hardware: Server market to rebound on Whitley platform launch” เผยแพร่เมื่อ 22 ธ.ค. 2563 ระบุว่าอุตสาหกรรม servers มีแนวโน้มเป็นบวกในปี 2564 เนื่องจากคาดว่างบลงทุน (CAPEX) ของผู้ประกอบการระดับ hyperscale ส่วนใหญ่จะโตถึงระดับสองหลักในปีนี้ (+11%) นอกจากนี้ ในบทวิเคราะห์ของ KGI Taiwan เรื่อง Electric vehicle sector: Era of electric vehicle” เผยแพร่เมื่อ 31 ธ.ค. 2563 ก็ระบุว่าตลาด EV น่าจะโตต่อเนื่องในปี 2564 โดยคาดว่ายอดขาย EV ทั่วโลกจะโตถึง 41% ในปีนี้ โดยมีอัตราการใช้งาน (penetration rate) อยู่ที่ 4.7% เราเชื่อว่า DELTA อยู่ในสถานะที่ดีที่จะได้อานิสงส์จากธุรกิจเหล่านี้ (25% ของยอดขายเกี่ยวข้องกับ data center และ 15% ของยอดขายเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์) เราได้ทบทวนและปรับสมมติฐาน (ยอดขาย, GPM,และ FX) (Figure 4) ทำให้เราปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2564 ลงอีก 5% และปี 2565 ลงอีก 2%

Valuation & Action

เรา re-rate PER จากเดิม 24.0x (ค่าเฉลี่ยในอดีต +1.5 S.D.) เป็น 28.0x (+2.0 S.D) เท่ากับ Delta Taiwanเพื่อสะท้อนถึงสถานะที่ดีของบริษัทในการจับกระแส data center และ EVs ของโลก และเมื่อบวกกับการขยับไปใช้ราคเป้าหมายสิ้นปี 2565 ก็ทำให้เราได้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 200 บาท จากเดิมที่ 150 บาท ถึงแม้ว่าบริษัทจะอยู่ในสถานะที่ดี แต่ราคาหุ้นก็วิ่งขึ้นไปสูงมากแล้ว (PER ที่ 70x-80x) และราคาปิดล่าสุดมี downside จากราคาเป้าหมายของเราถึง 59% ดังนั้น เราจึงยังคงคำแนะนำ "ขาย"

Risks

ภัยธรรมชาติ, มีการปิดโรงงานนอกแผน, ลูกค้าเปลี่ยนไปสั่งสินค้าจาก supplier รายอื่น, ขาดแคลนวัตถุดิบ, เงินบาทแข็งค่าขึ้น (เราใช้สมมติฐานอัตราแลกเปลี่ยนปี 2564-65 ที่ 29.50 บาท/ดอลลาร์ฯ)