Electronics Sector (29 ม.ค.64)

Electronics Sector (29 ม.ค.64)

Overheating!!!

Event

ประมาณการ 4Q63 และแนวโน้มปี 2564

lmpact

ประมาณการ 4Q63: กำไรจากธุรกิจหลักจะเพิ่มขึ้น YoY แต่ลดลง QoQ

เราคาดว่าบริษัทอิเล็กทอนิกส์ที่เราดูแลอยู่ (Delta Electronics (Thailand) (DELTA.BK/DELTA TB)*,Hana Microelectronics (HANA.BK/HANA TB)*, KCE Electronics (KCE.BK/KCE TB)*, and SVI (SVI.BK/SVI TB)) จะมีกำไรจากธุรกิจหลักรวมกันใน 4Q63 อยู่ที่ 2.7 พันล้านบาท (+150% YoY แต่ -18% QoQ) ซึ่งจะทำให้กำไรจากธุรกิจหลักรวมในปี 2563 อยู่ที่ 1.02 หมื่นล้านบาท (+74% YoY) จากยอดขาย (ในสกุลดอลลาร์ฯ) ที่คาดว่าจะโต 6% YoY จากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นในยุค digital transformation หลังจากที่ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกผ่อนคลายมาตรการ lockdown ลง ส่งผลให้อัตรากำไรเพิ่มขึ้น 3.5ppts YoY จากการประหยัดต่อขนาด

แนวโน้มปี 2564: วัฏจักรขาขึ้นที่ยาวนานของอุตสาหกรรมช่วยหนุนยอดขาย และอัตรากำไรยังท้าทาย

เรามองว่าวัฏจักรขาขึ้นของอุตสาหกรรมในปัจจุบันอาจจะกินเวลายาวนานขึ้น เนื่องจากมีการเปลี่ยนมาใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ มากขึ้นหลังสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 โดยมีปัจจัยสนับสนุนดังนี้ i) ยอดขาย semiconductors โลกโต 7% YoY ในเดือนพฤศจิกายน และ WSTS คาดว่าจะเร่งตัวขึ้นเป็น 8%
YoY ในปี 2564 (Figure 2-3) ii) ยอดส่งออก server โลกโตถึง 5-8% ปี 2564-65 จากการที่ CSPs รายใหญ่ใช้งบลงทุน (CAPEX) เพิ่มขึ้นถึง 11% YoY และ 8% YoY (Figure 5-6) iii) penetration rate ของเทคโนโลยี 5G เร่งตัวขึ้นเป็น 36% ในปี 2564 และเป็น 53% ในปี 2565 (Figure 14) และ iv) อุตสาหกรรมยานยนต์โลกจะฟื้นตัวขึ้น 9% ในปี 2564 และอีก 5% ในปี 2565 (Figure 17) ดังนั้น เราจึงคิดว่าวัฏจักรขาขึ้นของอุตสาหกรรมรอบนี้จะช่วยหนุนยอดขายของบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ไทย อย่างไรก็ตาม ค่าเงินบาทที่แข็งขึ้น, ราคาทองแดงที่สูงขึ้น, และ ปัญหาขาดแคลน Chip เป็นปัจจัยหน่วงที่จะฉุดอัตรากำไรของบริษัทในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ เราได้ใส่ทั้งปัจจัยบวกจากด้านยอดขาย และปัจจัยลบจากด้าน margin เข้าไปในประมาณการ ทำให้เราปรับลดประมาณกำไรสุทธิปี 2564 ลง 7% แต่ปรับเพิ่มประมาณการปี 2565 ขึ้นอีก 3% (Figure 23)

ราคาหุ้น Overheat ไปแล้ว

ราคาหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ให้ผลตอบแทนมากกว่า 100% ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา สูงกว่าของ SET ที่ 36% ซึ่งอาจจะเป็นเพราะแนวโน้มที่สดใสของอุตสาหกรรม เรามองว่าราคาหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์น่าจะ overheat ไปแล้ว โดยราคาหุ้นอยู่ในระดับที่แพงมาก (Figure 27) โดยขึ้นไปเกือบถึงระดับสูงสุดเมื่อปี 2560 แล้วแต่ผลประกอบการของตลาดยังไม่ถึงระดับนั้น (Figure 28) ถึงแม้เราจะประเมินราคาเป้าหมาย โดยกำหนด PER แบบมี premium (Figure 30) และขยับไปใช้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2565 ด้วย แต่ราคาปิดล่าสุดก็ยังมี downside มากอย่างมีนัยสำคัญอยู่ดี (Figure 32) เรายังมีการแสดงราคาเป้าหมายในกรณีที่ให้ PER แบบ extreme ที่ +3.0 S.D ซึ่งก็แสดงให้เห็นว่ายังคงไม่มี Upside ให้ Outperform (Figure 33)

Valuation & Action

เรายังคงมองว่าอุตสาหกรรมจะยังคงอยู่ในขาขึ้นต่อไปจากกระแส 5G, AI, และ IoT แต่เรามองว่าราคาหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์น่าจะ overheat ไปแล้ว ถึงแม้ว่าเราจะกำหนด PER โดยให้ premium และขยับไปใช้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2565 แล้ว แต่ราคาปิดล่าสุดก็ยังมี downside มากอย่างมีนัยสำคัญอยู่ดี ดังนั้น เราจึงปรับลดน้ำหนักหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ลงจาก Neutral เป็น Underweight

Risks

ภัยธรรมชาติ, มีการปิดโรงงานนอกแผน, ลูกค้าเปลี่ยนไปสั่งสินค้าจาก supplier รายอื่น, การจัดส่งสินค้าล่าช้า, ขาดแคลนวัตถุดิบ, และเงินบาทแข็งค่าขึ้น (เราใช้สมมติฐานอัตราแลกเปลี่ยนปี 2564-65 ที่ 29.50 บาท/ดอลลาร์ฯ)