'แอมเนสตี้' จี้รัฐบาลไทยคุ้มครองสิทธิ 3 เยาวชน หลังอัยการสั่งฟ้องละเมิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

'แอมเนสตี้' จี้รัฐบาลไทยคุ้มครองสิทธิ 3 เยาวชน หลังอัยการสั่งฟ้องละเมิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

"แอมเนสตี้" ย้ำให้ทางการไทยคุ้มครองสิทธิเด็กในการชุมนุม หลังอัยการสั่งฟ้อง 3 เยาวชนละเมิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

จากกรณีพนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีเยาวชนและครอบครัวสั่งฟ้องเยาวชนจำนวน 3 คนได้แก่ ลภนพัฒน์ หวังไพสิฐ (มิน) อายุ 18 ปีเบญจมาภรณ์ นิวาส (พลอย) อายุ 16 ปี กลุ่มนักเรียนเลว และคณพศ แย้มสงวนศักดิ์ (ภูมิ) อายุ 16 ปี กลุ่มนักเรียนไท ในข้อหาฝ่าฝืน... ฉุกเฉินฯ .. 2548 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จากกรณีเข้าร่วมการชุมนุมที่แยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2563 จากการดำเนินคดีของภาครัฐต่อเยาวชน

ปิยนุช โคตรสาร ผู้อำนวยการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ให้ความเห็นว่า เด็กและเยาวชนไม่ควรถูกดำเนินคดีจากการแสดงความคิดเห็นของตนโดยสงบ เพื่อเรียกร้องการปฏิรูปการศึกษาและสิทธิมนุษยชน ทางการไทยต้องคุ้มครองสิทธิของบุคคลโดยเฉพาะเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ที่ได้เข้าร่วมการชุมนุมตามกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองและอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ซึ่งทางการไทยได้ให้คำมั่นสัญญาไว้

นอกจากนั้น รัฐยังมีพันธกิจเชิงรุกในการปกป้องสิทธิเด็ก และจะต้องดำเนินการโดยตระหนักว่าอาจมีเด็กอยู่ในพื้นที่ชุมนุมและปกป้องพวกเขาจากอันตรายใด ที่อาจเกิดขึ้นจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมาย รวมทั้งปฏิบัติตามพันธกิจที่จะลดความตึงเครียดของสถานการณ์ โดยต้องยุติการใช้กฎหมายในสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างมิชอบ ยุติการจับกุมและการใช้กฎหมายคุกคามผู้ชุมนุม

ทั้งนี้ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทยยังคงเน้นย้ำทางการไทยให้เคารพพันธกรณีระหว่างประเทศที่จะต้องคุ้มครองสิทธิมนุษยชนที่จะมีสิทธิในเสรีภาพการแสดงออกและการชุมนุมโดยสงบ ที่เป็นไปตามกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR) รวมทั้งให้คุ้มครองสิทธิของบุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ที่ได้เข้าร่วมการชุมนุมตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กซึ่งมีผลบังคับใช้ต่อประเทศไทยทั้งสองฉบับ