ไซด์เวย์/ปรับลงได้บ้าง... ทิศทางราคาหุ้น DELTA* ชี้นำดัชนีฯ

มุมมอง SET Index: ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินดัชนีฯ วันพุธทรงๆ ตัว / หรือปรับลงได้บ้าง... หลังจากเมื่อวานนี้ตลาดหุ้นไทยปรับขึ้น สวนตลาดหุ้นเอเชีย และแข็งกว่าที่เราคาด (DELTA* +10.32% และมีผลบวกต่อดัชนีฯ 5.82 จุด จากทั้งหมดที่บวกไป 11.21 จุด)... ขณะที่ในวันนี้แม้ว่าปัจจัยต่างประเทศเป็นบวกมากขึ้นแต่นักลงทุนน่าจะยังชะลอเพื่อติดตามผลประชุม ธ.กลางสหรัฐฯ (เฟด) ในคืนวันนี้ตามเวลาบ้านเรา และติดตามการเจรจาในสภาคองเกรสเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ฯขณะที่ในบ้านเรา ตลท. ขยายเวลาเกณฑ์ cash balance หุ้น DELTA* ไปถึง 16 ก.พ. อาจกดดันราคาหุ้นดังกล่าวและดัชนีฯ ในวันนี้

ปัจจัยต่างประเทศ - เป็นบวกเล็กน้อย: i) IMF ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP โลกปี 2564 จากเดิม 5.2% เป็น 5.5% หลักๆ มาจากการทยอยฉีดวัคซีนทั่วโลก รวมทั้งจากการปรับเพิ่ม GDP สหรัฐฯ ตามมาตรการกระตุ้นที่ใหญ่ขึ้น ii) จิตวิทยาหุ้นในเอเชียที่เชื่อมโยงกลุ่ม tech น่าจะแข็งแกร่งหลัง Microsoft รายงานงบไตรมาส 4/63 ดีกว่าที่ consensus คาด iii) ผลประชุมเฟดคืนนี้ นักเศรษฐศาสตร์ KGI และ consensus คาดเฟดคงดอกเบี้ย และคงมาตรการ QE ที่เดือนละ 1.2 แสนล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ นักลงทุนติดตามแนวทางของเฟดระยะถัดไปว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ภายใต้ ปธน. และ รมว. คลังสหรัฐฯ คนใหม่

ปัจจัยในประเทศ - เป็นกลาง: i) ที่ประชุม ศบค. ชุดเล็กในวันนี้จะมีการพิจารณาการผ่อนคลายมาตรการเกี่ยวกับสถานศึกษาและการใช้ชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะใน 5 จังหวัดที่เป็นโซนสีแดง ซึ่งจะมีการนำเสนอศบค. ชุดใหญ่ในวันศุกร์นี้ ii) ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจไทยเดือน ธ.ค. ในวันนี้ได้แก่ ดัชนีผลผลิต
อุตสาหกรรม (MPI)

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน

เก็งกำไร GPSC*, RS*, CWT

- GPSC* (เป้าพื้นฐาน 87.5 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 81.5 บาท และ 80 บาท / แนวต้านแรก 85 บาท หากวันนี้ยืนเหนือแนวราคานี้ได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป 90 บาท (Stop loss 79 บาท) 2) ประเมินประเด็นเรื่องหุ้นพลังงานสะอาดที่ฝ่ายวิจัยฯเคยออกบทวิเคราะห์ไปก่อนหน้านี้ จะยังหนุนให้กระแสเม็ดเงิน Fund flow ไหลเข้าหุ้นอย่าง GPSC* โดยเฉพาะประเด็นเรื่องของการพัฒนาธุรกิจแบตเตอรี่ ... นักลงทุนอาจพิจารณาเก็งกำไรหุ้นที่เกี่ยวข้องธีมนี้ อาทิ EA*, BCPG*, EP เป็นต้น

- RS* (เป้าพื้นฐาน 28.8 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 22.0 บาท และ 21.8 บาท / แนวต้าน 24 - 25 บาท (Stop loss 20.8 บาท) 2) ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินกำไรปี 2564 โต +44% YoY จาก i) การขยายกลุ่มสินค้าใหม่ๆที่จะขาย ii) กำไรที่จะเพิ่มจากการลงทุนในธุรกิจใหม่ บริหารสินทรัพย์-สินเชื่อรายย่อย (คาดกำไรจากธุรกิจใหม่นี้ราว 77 ล้านบาทในปี 2564 คิดเป็น 9% ของประมาณการฯกำไรปี 2564) 3) PE ปี 2564 = 25.5 เท่า ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มค้าปลีกที่ +30 เท่า

- CWT (เป้าพื้นฐาน 4.26 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 3.6 บาท / แนวต้าน 4.0 – 4.2 บาท (Stop loss 3.4 บาท) 2) ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานธุรกิจโรงฟอกหนังฟื้นตัวแรงตั้งแต่ 4Q63 จาก i) คำสั่งซื้อจากอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ฟื้น ii) รับประโยชน์จากต้นทุนหนังโคที่ปรับลง (ดีมานด์สินค้าฟุ่มเฟือยทั่วโลกลดลง) iii) รับอานิสงส์จากค่าเงินบาทแข็งค่า (CWT นำเข้าหนังโค) 3) Upside จากโอกาสขอ PPA โรงไฟฟ้าขยะ (ตอนนี้เริ่มทำธุรกิจบริหารจัดการขยะชุมชนแล้ว)

หุ้นมีข่าว

(+) ครม.ขยายเวลาลดภาษีที่ดินฯ-ค่าธรรมเนียมการโอนเหลือ 0.01% ถึงสิ้นปี 64 ที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบ ให้ต่อมาตรการลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในอัตรา 90% อีก 1 ปี หรือ สิ็นสุดในปี 64 ขณะเดียวกัน ยังได้ขยายเวลามาตรการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการโอนอสังหาริมทรัพย์จากเดิม 2% เหลือ 0.01% และลดค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์จากเดิม 1% เหลือ 0.01% เฉพาะการซื้อขายที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท จากเดิมมีผลวันที่ 2 พฤศจิกายน 2562 ถึง 24 ธันวาคม 2563 (efinancethai)

ความเห็น: เรามีมุมมองเชิงบวกเล็กน้อยจากการขยายเวลาของมาตรการดังกล่าว ในแง่ของผู้ซื้อรายใหม่นโยบายดังกล่าวอาจไม่มีนัยสำคัญที่จะกระตุ้นกำลังซื้อเนื่องจากธนาคารยังคงเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อโดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-ล่าง ในแง่ของผู้ซื้อที่อยู่อาศัยที่อยู่ระหว่างการโอน นโยบายดังกล่าวย่อมช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย อย่างไรก็ตาม เราพบว่าโครงการที่อยู่อาศัยที่เปิดขายในปัจจุบันส่วนใหญ่ได้ทำโปรโมชั่น “ฟรีทุกค่าใช้จ่ายวันโอน” ให้ผู้ซื้ออยู่แล้ว คาด LPN*, PSH*, และ SPALI* มีแนวโน้มได้รับอานิสงส์เชิงบวกมากกว่าคู่แข่งในอุตสาหกรรม

(+) PTTGC* มีแผนจะลงทุนในโครงการปรับปรุงโรงงานโอเลฟินส์#2 เพื่อสามารถเพิ่มการใช้โพรเพนเป็นวัตถุดิบ (SET)  ความเห็น: โครงการนี้คาดว่าจะใช้เงินลงทุนรวมประมาณ US$165mn และจะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ใน 1Q23 โดยหลังจากโครงการแล้วเสร็จ โรงงาน Olefins#2 ที่มีกำลังการผลิต
450KTA จะสามารถเพิ่มการใช้โพรเพนจาก 16-29% เป็น 24-40% ในขณะที่สัดส่วนการใช้อีเทนและแนฟทาเป็นวัตถุดิบจะลดลงเหลือ 28-41% และ 31-46% ตามลำดับ ทั้งนี้ เรามีมุมมองเป็นบวกต่อโครงการปรับปรุงโรงงาน Olefins#2 ซึ่งจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้วัตถุดิบและเพิ่มความสามารถ
การแข่งขันในระยะยาว ดังนั้น เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ PTTGC ที่ราคาเป้าหมายไม่เปลี่ยนแปลงที่ 67.00 บาท

(-) BTSGIF มึน! ปันผลไม่ได้ จ่ายได้เพียง'เงินลดทุน' ซีเอฟโอ BTS* รอประเมินสินทรัพย์รอบใหม่ (ข่าวหุ้น) ซีเอฟโอ บมจ.บีทีเอสฯ (BTS*) เผยอยู่ระหว่างประเมินความเสี่ยงมูลค่าสินทรัพย์รอบใหม่ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ล่าสุด ก่อนหาแนวทางล้างขาดทุนสะสมกว่า 3.3 พันล้านบาท ด้านแหล่งข่าวเผย หากยังมีขาดทุนสะสม ก็ยังจ่ายเงินปันผลไม่ได้ คงจ่ายได้เพียง “เงินลดทุน” และ “เงินคืนทุน” ส่วนราคาต่อหน่วยที่กลับมาฟื้นตัว เกิดจากปัจจัยบวกช่วงสั้น จับตากลุ่มนักลงทุนสถาบันทั้งบริษัทประกันชีวิต-วินาศภัย และกองทุนต่างๆ ถือรวมกันนับสิบแห่งอาจปรับพอร์ต

(+) PRINC อัดงบ3ปี แตะ5พันล้าน ขยายโรงพยาบาล เจาะลูกค้าระดับกลาง (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา) พริ้นซิเพิล แคปิตอล ตั้งงบลงทุนระยะ 3 ปี ระหว่างปี 2564-2566 จำนวน 5,000 ล้านบาทดันรายได้โตเท่าตัวแตะ 5,000 ล้านบาท ประเดิมปี 2564 จัดสรรเงินลงทุนราว 1,000 ล้านบาท ลุยขยาย
โรงพยาบาล คลินิก และศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้สูงอายุ เจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลาง พร้อมวางตัวเป็น Healthcare Enabler อ้าแขนรับพันธมิตรร่วมให้บริการทางการแพทย์

(+) TFG จับมือจุฬาฯวิจัยคลีนมีท เนื้อหมูห้องแล็บไร้สารตกค้าง (ข่าวหุ้น) “ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป” จับมือจุฬาฯ พัฒนา “คลีนมีท” เนื้อหมูที่เพาะเลี้ยงในห้องแล็บที่ปลอดโรค เป็นรายแรกในไทย และเป็นอันดับแรกๆ ของเอเชีย ไร้กังวลเรื่องสารตกค้างและไม่มีกระบวนการฆ่าสัตว์ ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพ

(+) SAMART เกมใหญ่ดิจิทัล สู่ธีมราชการทรานฟอร์ม (ทันหุ้น) แม่ทัพ SAMART ประกาศเกมใหญ่รุกดิจิทัล ชี้โซลูชั่นในมือเพียบครบ พร้อมลงทุนทรานฟอร์มหน่วยงานราชการให้บริการออนไลน์ ชูโมเดล B2G2C ขณะที่กลุ่มธุรกิจกลับมาฟื้น พร้อมดึงคนรุ่นใหม่-Start Up ลุย ด้านโบรกชี้โมเดลธุรกิจเด่น ชี้
โมเดลภาษีสรรพสามิตเบียร์ เป็นพอร์ตสำคัญในการเดินหน้า ชี้โอกาสโตสูง ไม่หวั่นเงินทุน เหตุร่วมงานรัฐกู้ได้