‘โบอิง-แอร์บัส’ชวดออร์เดอร์3สายการบินยักษ์จีน

สามสายการบินยักษ์ใหญ่สัญชาติจีนคือ ไชนา เซาธ์เทิร์น แอร์ไลน์ส ไชนา อิสเทิร์น แอร์ไลน์ส และแอร์ ไชนา ระงับการสั่งซื้อเครื่องบินโดยสารจากแอร์บัส และโบอิง แต่สั่งซื้อเครื่องบินโดยสารจากคอมเมอร์เชียล แอร์คราฟต์ คอร์ป ของจีน (โคแมค) สะท้อนถึงนโยบายที่เน้นสั่งซื้อสินค้าจากบริษัทจีนด้วยกันเอง ในยุคการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ทำให้บริษัททั่วโลกต้องรัดเข็มขัดเพื่อเอาตัวรอด

ความเคลื่อนไหวครั้งนี้สะท้อนถึงความสำคัญเชิงกลยุทธของโคแมคแต่ก็บ่งชี้ถึงการเป็นจ้าวตลาดในอุตสาหกรรมเครื่องบินโลกของผู้ผลิตเครื่องบินชั้นนำสองแห่งทั้งจากสหรัฐและยุโรป โดยคาดว่า บรรดาสายการบินจีนจะสั่งซื้อเครื่องบินโดยสารเพื่อนำมาเสริมในฝูงบินในระยะสองสามปีข้างหน้าด้วยการสั่งซื้อเครื่องบินจากผู้ผลิตในประเทศหรือที่อื่นแทนที่แอร์บัส และโบอิง เพื่อรองรับความต้องการการเดินทางภายในประเทศที่เพิ่มขึ้น

เว็บไซต์นิกเคอิ รายงานว่า สายการบินใหญ่ของจีนสามแห่งคือ ไชนา เซาธ์เทิร์น แอร์ไลน์ส ไชนา อิสเทิร์น แอร์ไลน์ส และแอร์ ไชนา ระงับการสั่งซื้อเครื่องบินโดยสารจากโบอิง 58 ลำ และจากแอร์บัส 53 ลำ ในปี 2563

สายการบินไชนา เซาธ์เทิร์น แอร์ไลน์ส ซึ่งเป็นสายการบินใหญ่ที่สุดในบรรดาสายการบินสามแห่ง มีแผนที่จะสั่งซื้อเครื่องบิน 86 ลำ พร้อมทั้งระวางเครื่องบิน 37 ลำในฝูงบินให้เหลือเครื่องบินในฝูงบิน 911 ลำภายในปลายปี2563 แต่ในความเป็นจริงกลับเพิ่มเครื่องบินสุทธิได้เพียง 5 ลำ ทำให้ฝูงบินทั้งฝูงมีเครื่องบินโดยสาร 867 ลำ ส่วนการสั่งซื้อเครื่องบินจากแอร์บัสเหลือแค่ 3 ลำ ต่ำกว่าที่วางแผนไว้ ส่วนคำสั่งซื้อจากโบอิงลดลงเหลือประมาณ 41 ลำ

ในกรณีของไชนา อิสเทิร์น และแอร์ ไชนานั้น แอร์บัสถูกเลื่อนการส่งมอบเครื่องบินโดยสารมากกว่าโบอิง โดยสายการบินทั้งสองแห่งวางแผนที่จะสั่งซื้อเครื่องบินของแอร์บัสจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นเครื่องบินรุ่น A320 ในปี 2563 แต่ขณะที่ทั้งสองสายการบินมีแผนที่จะเพิ่มเครื่องบินแอร์บัสในฝูงบินประมาณ 37 ลำและ31ลำตามลำดับ การส่งมอบเครื่องบินสุทธิจริงๆกลับมีเพียงรายละ 9 ลำเท่านั้น

ในตอนแรก สายการบินจีนทั้งสองแห่งสั่งซื้อเครื่องบินโดยสารจากโบอิงแค่ไม่กี่ลำ แต่สั่งซื้อเครื่องบินจากแอร์บัสรวมทั้งสิ้น 18 ลำ โบอิงสูญเสียคำสั่งซื้อเครื่องบินสุทธิ 13 ลำ อย่างไรก็ตามทั้งแอร์บัส และโบอิง ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเกี่ยวกับคำสั่งซื้อเครื่องบินจากลูกค้าที่เป็นสายการบินจีนทั้งสามแห่ง

งานนี้ผู้ได้ประโยชน์ตัวจริงคือโคแมค โดยสายการบินจีนทั้งสามแห่งเพิ่มคำสั่งซื้อเครื่องบิน ARJ21 รวม12 ลำเข้ามาเพิ่มในฝูงบินของแต่ละแห่งตามแผนที่วางไว้ และทำให้เมื่อปีที่แล้ว การส่งมอบเครื่องบินของโคแมคประมาณครึ่งหนึ่งเป็นการส่งมอบให้แก่สายการบินจีนสามแห่งนี้ ส่วนที่เหลือเป็นการส่งมอบให้แก่สายการบินในประเทศรายเล็กๆ ที่รวมถึง เฉิงตู แอร์ไลน์ส เจงกิส ข่าน แอร์ไลน์ส และไชนา เอ็กซ์เพรสส์ แอร์ไลน์ส

“บรรดาสายการบินจีนที่สั่งซื้อเครื่องบิน ARJ21ไม่ได้เป็นการตัดสินใจทางธุรกิจเพียงอย่างเดียว ตามปกติ สายการบินจีนจะสั่งซื้อเครื่องบินโดยสารจากโคแมคอยู่แล้ว” ฟุ เสี่ยวเหวิน ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยฮ่องกง โปลีเทคนิค ซึ่งเชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ ให้ความเห็น

ขณะที่ "เดวิด หยู" นักวิชาการที่เชี่ยวชาญด้านการเงินจากนิวยอร์ก ยูนิเวอร์ซิตี เซี่ยงไฮ้ สะท้อนมุมมองนี้เพิ่มเติมว่า "รัฐบาลจีนให้การสนับสนุนโคแมคผลิตเครื่องบินป้อนให้สายการบินจีนอยู่แล้ว เพียงแต่จะผลิตได้มากแค่ไหนและเร็วแค่ไหน โดยปัจจุบัน โคแมค เป็นหัวใจของความทะเยอทะยานของรัฐบาลจีนในการสร้างเครื่องบินพาณิชย์ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ที่ทุกวันนี้ถูกผูกขาดโดยผู้ผลิตเครื่องบินสัญชาติสหรัฐและยุโรป

สายการบินจีนถือเป็นลูกค้ารายใหญ่ในระยะยาวของโคแมค โดยไชนา อิสเทิร์น ให้คำมั่นสั่งซื้อเครื่องบิน ARJ21 จำนวน 20ลำ และยังเป็นลูกค้ารายแรกที่สั่งซื้อเครื่องบิน C919 ของบริษัทด้วย เป็นเครื่องบินลำตัวแคบที่เจาะกลุ่มตลาดเครื่องบินลำตัวกว้างขนาดกลาง และยังคงอยู่ในขั้นทดลองบิน ส่วนไชนา เซาธ์เทิร์น ให้คำมั่นซื้อเครื่องบิน ARJ 21 จำนวน 35 ลำ ภายในปี 2567

อย่างไรก็ตาม เคลวิน หลอ นักวิเคราะห์ด้านการบินจากไดวา แคปิตัล มาร์เก็ต ในฮ่องกง ให้ความเห็นว่า แม้สายการบินจีนจะสั่งซื้อเครื่องบินโดยสารจากโคแมคเป็นหลัก แต่ก็ยังไม่สามารถเลิกสั่งซื้อเครื่องบินโดยสารจากแอร์บัส และโบอิงได้อย่างแท้จริง โดยแอร์ ไชนา มีแผนเพิ่มเครื่องบินในฝูงบินให้ได้ 51 ลำและปลดระวาง 2 ลำในปี2564 นั่นหมายความว่าจะต้องมีการส่งมอบเครื่องบินโดยสารส่วนใหญ่จากแอร์บัสบวกกับเครื่องบินARJ21 อีกหลายลำจากโคแมค

ส่วนสายการบินไชนา อิสเทิร์น ระบุว่า จะเพิ่มเครื่องบินโดยสาร30 ลำในปีนี้ ส่วนใหญ่เป็นการสั่งซื้อที่บริษัทชลอแผนซื้อจากเมื่อปี 2563