เปิดฉากดาวอสออนไลน์-เตรียมพร้อมสู่สิงคโปร์

เปิดฉากดาวอสออนไลน์-เตรียมพร้อมสู่สิงคโปร์

การประชุมเวิลด์ อิโคโนมิค ฟอรัม (ดับเบิลยูอีเอฟ) หรือการประชุมสภาเศรษฐกิจโลก เปลี่ยนจากบรรยากาศขาวโพลนของหิมะในเมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์เป็นบรรยากาศการประชุมทางไกลผ่านระบบออนไลน์ระหว่างวันที่ 25-29 ม.ค.นี้

บรรดาผู้นำธุรกิจตลอดจนผู้นำรัฐบาลประเทศต่างๆ ต่างหารือร่วมกันในประเด็นต่างๆทางออนไลน์เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการประชุมสุดยอด“ดาวอสแห่งเอเชีย”แบบเห็นหน้าค่าตากันจริงๆ ในเดือน พ.ค.นี้ที่สิงคโปร์

หัวข้อการประชุมสัปดาห์นี้คือ “การสร้างความไว้วางใจใหม่” พร้อมทั้งกำหนดแนวทางเพื่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจากวิกฤตโควิด-19 ท่ามกลางคำถามที่ยังคงวนเวียนอยู่ในใจของผู้เข้าร่วมงานจำนวนมากว่าการมาประชุมร่วมกันที่สิงคโปร์ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้จะเป็นเรื่องที่ปลอดภัยหรือไม่ ขณะที่การระบาดของโควิด-19 ในประเทศต่างๆทั่วโลกยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

“ความไว้วางใจเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อเอาชนะวิกฤติด้านสาธารณสุขโลกครั้งนี้ไปให้ได้ แต่ขณะเดียวกันก็ต้องมีความคิดที่มุ่งสู่อนาคตตลอดจนการสร้างโลกสำหรับวันพรุ่งนี้ ความไว้วางใจที่ว่าจำเป็นต้องพึ่งพาความร่วมมือระดับโลกและความเกี่ยวข้องของทุกฝ่าย จึงเป็นเรื่องน่ายินดีที่จะบอกว่า การประชุมปีนี้ก็เหมือนกับทุกปีที่บรรดาผู้นำโลกจะมาร่วมเสนอแนวคิดเพื่อผลักดันให้ ดาวอส อะเจนดา เดินหน้าต่อไป”เคลาส์ ชวาบ ผู้ก่อตั้งและประธานดับเบิลยูอีเอฟ กล่าว

การประชุมดาวอสปีก่อนซึี่งครบรอบ 50 ปีการก่อตั้งดับเบิลยูอีเอฟ มีนักการเมือง ผู้นำธุรกิจและผู้นำทางสังคมเข้าร่วมงานประมาณ 3,000 คน แต่การระบาดของโรคโควิด-19 ที่ทำให้ทั่วโลกเลื่อนการประชุมออกไปก่อนจะตัดสินใจจัดการประชุมที่สิงคโปร์ในปีนี้ ในฐานะเป็นประเทศหนึ่งที่มีความพร้อมมากที่สุดที่จะบรรเทาความเสี่ยงด้านสุขภาพ โดยคาดการณ์ว่า การประชุมเสมือนจริงในสัปดาห์นี้จะดึงดูดผู้เข้ามาร่วมงานกว่า 1,500 คน สร้างแรงขับเคลื่อนสำคัญสำหรับการประชุมในสิงคโปร์

นอกเหนือจากเรื่องโควิด-19ที่เป็นเรื่องหลักแล้ว ประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมยังเป็นหัวใจสำคัญ รวมทั้งการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์ในระบบห่วงโซ่อุปทานด้วย

โครงการดาวอส อะเจนดาและการเปลี่ยนไปประชุมที่สิงคโปร์ย้ำถึงอิทธิพลทางเศรษฐกิจของเอเชียที่เติบโตเพิ่มขึ้น“เราต่างก็รู้ว่าปีนี้เป็นปีที่เอเชียมีอัตราการเติบโตของจีดีพีประมาณ50% ของจีดีพีโลก และเอเชียยังมีประชากรประมาณ50% ของประชากรโลกด้วย ”บอร์ก เบรนเด้ ประธานสภาเศรษฐกิจโลก กล่าวเมื่อวันที่ 18ม.ค.ที่ผ่านมา

ประธานาธิบดีสีของจีนกล่าวสุนทรพจน์ในวันจันทร์ ถือเป็นการหวนคืนสู่เวทีประชุมนี้อีกครั้ง หลังจากเคยปรากฏตัวที่เวทีประชุมสภาเศรษฐกิจโลกที่เมืองดาวอสเมื่อปี 2560 มาแล้ว

ส่วนนายกรัฐมนตรีโมดี นายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ ซูกะ นายกรัฐมนตรีลี เซียน ลุงของสิงคโปร์ และประธานาธิบดีมุน แจ-อินจากเกาหลีใต้ต่างมีกำหนดการปรากฏตัวในการประชุมครั้งนี้เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม เกิดคำถามถึงความจำเป็นที่จะต้องจัดการประชุมสุดยอดแบบมาประชุมด้วยตัวเอง ซึ่งดับเบิลยูอีเอฟ ยืนยันว่าการเข้าประชุมด้วยตัวเองมีความสำคัญที่จะช่วยให้เกิดความร่วมมือระดับโลก

“การพูดคุยกันแบบตัวต่อตัวมีความสำคัญต่อการสร้างความไว้วางใจในระดับที่สูงขึ้น ด้วยเหตุนี้เราจึงจัดสัปดาห์ดาวอส อะเจนดาเสริมขึ้นมาที่สิงคโปร์ ซึ่งจะเป็นการประชุมสุดยอดด้วยตัวเองครั้งแรกของโลก นับตั้งแต่เกิดการระบาดของโรคโควิด-19”ชวาบ กล่าว

ขณะที่เบรนเด้ กล่าวว่า “ผมไม่คิดว่าจะมีที่ไหนเหมาะสมเท่าสิงคโปร์อีกแล้ว เราต่างรู้ดีกว่าสิงคโปร์มีความพร้อมด้านสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เราให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพและความปลอดภัยเป็นอันดับต้นๆ เพื่อสร้างหลักประกันว่าผู้เข้าร่วมการประชุมทุกคนจะปลอดภัย”

แต่ก็มีแรงกดดันให้สิงคโปร์ระงับการจัดงานใหญ่ระดับโลกออกไปก่อนเพราะไม่มีใครรับประกันได้ว่าจะมีการวัคซีนแก่ประชาชนอย่างทั่วถึงในช่วงเดือนพ.ค. ด้านเจ้าหน้าที่รัฐบาลสิงคโปร์กลับเห็นว่าการตัดสินใจของดับเบิลยูอีเอฟสะท้อนถึงความมั่นใจในการบริหารจัดการไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ของรัฐบาลสิงคโปร์ได้อย่างดี