คนไทยแห่ลงทุนนอก ชี้‘รีเทิร์น’ต่ำกว่าปี63

คนไทยแห่ลงทุนนอก  ชี้‘รีเทิร์น’ต่ำกว่าปี63

“มอร์นิ่งสตาร์” เผย นักลงทุนไทยแห่ลงทุนต่างประเทศเพิ่มขึ้นตั้งแต่ต้นปีนี้ หลังพบกองทุนรวมต่างประเทศเติบโตต่อเนื่อง พร้อมเตือนลงทุน ‘หุ้นเทคโนโลยี-หุ้นโลก-หุ้นจีน’ เหตุ ปีนี้ผลตอบแทนอาจดีไม่เท่าปีก่อน

นางสาวชญานี จึงมานนท์ นักวิเคราะห์อาวุโส บริษัท มอร์นิ่งสตาร์รีเสิร์ช (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมกองทุนรวมต่างประเทศ (ไม่รวม Term Fund) หรือ กองทุน FIF ในปี2564 มีแนวโน้มเติบโตขึ้นจากก่อน เนื่องจากปัจจุบันการลงทุนหุ้นไทยยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงเซคเตอร์ที่ชัดเจน ทำให้ในช่วง 2-3 สัปดาห์แรกของเดือนม.ค.นี้ ส่วนใหญ่ยังเห็นเม็ดเงินไหลเข้าในกองทุนต่างประเทศ อย่างกองหุ้นจีนและหุ้นเทคโนโลยี ที่มีผลตอบแทนสูงเมื่อปีก่อน

ณ สิ้นปี2563 กองทุน FIF มีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิรวม8.4แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น27.5% จากปีก่อน ทำให้กองทุนดังกล่าวมีสัดส่วนที่21% ของตลาดกองทุนรวมไทยจากที่เคยมีสัดส่วนราว10%ในปี2559 โดยกองทุนหุ้นจีน กลายเป็นกลุ่มที่มีมูลค่าทรัพย์สินสูงสุดที่ 1.2 แสนล้านบาท เติบโต185% จากปีก่อนทั้งจากผลตอบแทนที่สูงเกือบ19%

อย่างไรก็ตามการลงทุนกองทุน FIF ในลักษณะดังกล่าว เป็นสิ่งที่ผู้ลงทุนต้องระวังเรื่องของผลตอบแทนในปีนี้อาจไม่หวือหวาเท่าปีที่ผ่านมาหรืออัพไซด์จำกัดแล้ว เนื่องจากในปีที่ผ่านมาผลตอบแทนกองทุนดังกล่าวปรับขึ้นมาค่อนข้างมาก ณ สิ้นปี 2563 ผลตอบกองทุนรวม นำโดยหุ้นเทคโนโลยี 48.97% , หุ้นโลก 23.73% , หุ้นเอเชีย 18.98% ,หุ้นเฮลธ์แคร์ 22.63%, หุ้นจีน 18.89%, หุ้นตลาดเกิดใหม่ 9.36%

นางสาวชญานี กล่าวว่า ทางด้านผลตอบแทนกองทุนรวมในประเทศ อย่างกองทุนหุ้นไทยในปีนี้มีโอกาสปรับขึ้นมาใกล้เคียงระดับปกติได้ ตามแนวโน้มตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวในปีนี้ จากการแพร่ระบาดของโควิด-19รอบใหม่ น่าจะคุมได้ดี ทำให้กิจกรรมต่างๆน่าจะปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง

ณ สิ้นปี 2563 ผลตอบแทนกองทุนหุ้นไทย(ขนาดใหญ่) -10.41% แต่ถ้าเฉลี่ยผลตอบแทน10ปี อยู่ที่ 4.77% ถือว่าไม่ได้แย่กว่ากลุ่มอื่นมากนัก และยังอยู่สูงกว่าหลายกลุ่ม เช่น หุ้นจีน หุ้นญี่ปุ่น หรือกลุ่มตลาดเกิดใหม่

อย่างไรก็ตามผลตอบแทนจากหุ้นไทยจากนี้อาจขึ้นอยู่กับสภาวะหรือโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจว่าจะมีการเติบโตของธุรกิจที่มีรูปแบบหรือนวัตกรรมใหม่ในประเทศให้ทันโลกที่เปลี่ยนแปลงไปได้มากน้อยเพียงใด