เยียวยาผลกระทบโควิด ต้องทั่วถึงและเป็นธรรม

เยียวยาผลกระทบโควิด ต้องทั่วถึงและเป็นธรรม

การช่วยเหลือเยียวยาแต่ละรอบรัฐพุ่งเป้าไปที่กลุ่มผู้มีรายได้น้อยหรือกลุ่มคนตัวเล็ก ขณะที่กลุ่มคนตัวโตมองว่ามีความเข้มแข็งจากรายได้ประจำ แต่ต้องไม่ลืมว่าในกลุ่มคนตัวโตยังมีบางคนที่กลุ่มคนตัวเล็กอยู่ด้วย ถึงเวลาที่รัฐต้องทบทวนเพื่อให้เป็นธรรมกับทุกกลุ่ม

การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการกระขาดของโรคโควิด-19 นับตั้งแต่พบผู้ติดเชื้อรายแรกในประเทศไทยเมื่อเดือน ม.ค.2563 ทำให้รัฐบาลมีมาตรการเยียวยา “เราไม่ทิ้งกัน” ด้วยการจ่ายเงินช่วยเหลือกลุ่มอาชีพอิสระ กลุ่มเกษตรกร และกลุ่มเปราะบางคนละ 5,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน รวมคนละ 15,000 บาท เมื่อสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ดีขึ้น รัฐบาลได้ปรับมาตรการมาเน้นการฟื้นฟูเศรษฐกิจในด้านการท่องเที่ยวและการบริโภค นำมาสู่มาตรการ “เราเที่ยวด้วยกัน” และมาตรการ “คนละครึ่ง”

บางมาตรการได้ผลดีในการกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชน โดยเฉพาะมาตรการ “คนละครึ่ง” ที่เริ่มใช้เมื่อเดือน ต.ค.2563 ได้ประโยชน์ทั้งกลุ่มประชาชนและร้านค้ารายย่อยทุกระดับที่ได้ประโยชน์โดยตรงเพราะกันร้านค้าปลีกในแบบเฟรนไชส์ออกไป แต่ด้วยความด้อยประสิทธิในการบังคับใช้กฎหมายทำให้เกิดคลัสเตอร์การระบาดรอบใหม่จากแรงงานต่างชาติที่ลักลอบเข้าประเทศมาทำงานที่ จ.สมุทรสาคร และการระบาดในกลุ่มผู้ลักลอบเล่นการพนันในพื้นที่ภาคตะวันออก

การระบาดรอบ 2 นำมาสู่การมาตรการควบคุมการระบาดที่เข้มงวดและประกาศพื้นที่ควบคุมระดับสูง 28 จังหวัด ซึ่งแม้จะไม่มีการล็อคดาวน์แต่สถานการณ์บางพื้นที่อยู่ในระดับกึ่งล็อคดาวน์ ซึ่งทำให้รัฐบาลมีมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบรอบใหม่ขึ้นมา คือ “เราชนะ” เป็นการจ่ายเงินเยียวยาให้กลุ่มอาชีพอิสระและเกษตรกรอีกครั้งคนละ 3,500 บาท รวม 2 เดือน เป็นเงินคนละ 7,000 บาท ถึงแม้รอบนี้ไม่ได้โอนเงินเข้าบัญชี แต่โอนเงินเข้าแอพลิเคชั่นที่ใช้ได้เสมือนเงินสด

การช่วยเหลือเยียวยาแต่ละรอบรัฐบาลพุ่งเป้าไปที่กลุ่มผู้มีรายได้น้อยที่รัฐบาลมักเรียกว่า “กลุ่มคนตัวเล็ก” ในขณะที่ “กลุ่มคนตัวโต” รัฐบาลมองว่ามีความเข้มแข็งจากรายได้ที่ยังคงมีเข้ามาประจำทุกเดือน จึงไม่แปลกใจเมื่อมาตรการที่ออกมาสำหรับ “กลุ่มคนตัวโต” จะเป็นออกมาในรูปแบบการกระตุ้นให้คนกลุ่มนี้ออกมาจับจ่ายใช้สอยเพิ่มมากขึ้น เพื่อกระตุ้นการบริโภคผ่านหลายมาตรการทั้งมาตรการเราเที่ยวด้วยกัน มาตรการคนละครึ่ง รวมถึงมาตรการช้อปดีมีคืน

รัฐบาลต้องไม่ลืมว่าใน “กลุ่มคนตัวโต” ยังคงมี “กลุ่มคนตัวเล็ก” รวมอยู่ด้วย ซึ่งกลุ่มคนกลุ่มนี้ยังคงมีรายได้ประจำ แต่บางส่วนรายได้ถูกลดทอนลงทั้งจากการถูกลดเงินเดือนลดค่าจ้าง และการมีสถานะเป็นลูกจ้างงานเป็นรายวันของหน่วยงานเอกชนและภาครัฐ แต่ยังคงมีสถานะผู้ประกันตนที่ถูกขีดออกจากการรับมาตรการเยียวยาจากรัฐ ขณะนี้จึงไม่ช้าเกินไปที่รัฐบาลจะมีมาตรการเยียวยากลุ่มคนตัวเล็กนี้ให้ได้รับความช่วยเหลือ เพียงแต่จะช่วยเหลืออย่างไรให้กำหนดเงื่อนไขคัดกรองมาเพื่อให้เป็นธรรมกับคนทุกกลุ่ม