"ส.ว." เห็นชอบ ร่างพ.ร.บ.ทำแท้ง หลังถก3วาระรวด นาน8ชั่วโมง

"ส.ว." เห็นชอบ ร่างพ.ร.บ.ทำแท้ง หลังถก3วาระรวด นาน8ชั่วโมง

วุฒิสภา ผ่านร่างพ.ร.บ.ทำแท้ง หลังถก3วาระรวด นาน 8 ชั่วโมง ยืนเนื้อหาตามร่างที่รับมาจากสภาฯ​ ด้าน "วิษณุ" รับข้อท้วงติงส.ว. จ่อหารือ วงประชุม ครม.พรุ่งนี้

      ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการประชุมวุฒิสภา ซึ่งมีวาระพิจารณาพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่...) พ.ศ.... ซึ่งสภาผู้แทนราษฎรได้ลงมติเห็นชอบ ว่าด้วยการแก้ไขเนื้อหาเกี่ยวกับการทำแท้งของหญิงตั้งครรภ์   แบบ 3 วาระรวด โดยตั้งกรรมาธิการพิจารณาแบบเต็มสภา โดยหลังจากที่ประชุมได้ใช้เวลาอภิปรายก่อนรับหลักการ ตั้งแต่ช่วงบ่าย และใช้เวลาพิจารณากว่า 3 ชั่วโมง จึงได้ลงมติรับหลักการ แล้วด้วยคะแนนเสียง 187 เสียงต่อ 5 เสียง และงดออกเสียง 15 เสียง 
      ที่ประชุมได้เข้าสู่พิจารณาในวาระสอง เมื่อเวลา 16.44 น.​โดยในมาตราที่แก้ไข มาตรา 301 ว่าด้วย หญิงใดทำให้ตนเองแท้งลูกหรือยอมให้ผู้อื่นแท้งลูก ขณะมีอายุครรภ์เกิน12 สัปดาห์ ต้องโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือนหรือปรับไม่เกิน  1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นั้นที่ประชุมวุฒิสภาไม่ติดใจอภิปราย หรือขอแก้ไข
      ส่วนการแก้ไขมาตรา 305 ว่าด้วยเงื่อนไขที่เป็นบทยกเว้นการรับโทษของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมและตามหลัเกณฑ์ของแพทยสภา กรณีการทำแท้งให้หญิงที่ตั้งครรภ์ ใน 5 กรณี ซึ่งที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้แก้ไขและปรับเพิ่มในกรณี (5) ที่กำหนดว่า หญิงอายุครรภ์เกิน 12 สัปดาห์ แต่ไม่เกิน 20 สัปดาห์ (3-5 เดือน) ยืนยันยุติตั้งครรภ์ ภายหลังการตรวจและรับคำปรึกษาทางเลือกจากผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมและผู้ประกอบวิชาชีพอื่น ตามหลักเกณฑ์ และวิธีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขประกาศกำหนดโดยคำแนะนำของแพทยสภาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น ที่ประชุมวุฒิสภา ได้อภิปรายอย่างกว้างขวางและมีความเห็นให้ตัดออก เนื่องจากเป็นข้อยกเว้นการทำแท้งที่ไม่สอดคล้องกับมาตรา 301 อีกทั้งมองว่าเป็นการส่งเสริมต่อการตัดตอนชีวิตของทารภในครรภ์
      ทั้งนี้นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ ส.ว. เสนอให้แก้ไข มาตรา 305 (5)  โดยระบุให้ตัดออก และนำความที่ระบุให้ต้องผ่านการตรวจและปรึกษาจากหน่วยงานของแพทยสภา บัญญัติไว้ (4)  ที่มีเงื่อนไขหญิงที่ตั้งครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ ยืนยันยุติจะตั้งครรภ์  ทำให้ต้องรับคำปรึกษาจากหน่วยงานของแพทยสภา 
      นอกจากนั้นยังมีความเห็นของส.ว. ที่อภิปรายให้ปรับแก้อื่นๆ เช่น (2) ว่าด้วยความจำเป็นต้องทำแท้งเพราะมีเสี่ยงอย่างมากหรือมีเหตุผลทางการแพทย์อันควรเชื่อได้ว่าทารกคลอดออกมาจะมีความผิดปกติถึงขนาดทุพพลภาพอย่างร้ายแรง ที่ขอให้ตัดคำว่า ทุพพลภาพอย่างร้ายแรง 

      ทั้งนี้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ชี้แจงต่อการตั้งข้อสังเกตของส.ว.ที่อภิปรายว่าความห่วงใยของส.ว.ทีอภิปราย และให้คำแนะนำนั้น จะถูกนำไปกำหนดไว้ในระเบียบของแพทยสภา ซึ่งเชื่อว่าการอภิปรายของส.ว.หน่วยงานจะรับฟังและนำไปทำให้ดีที่สุด อย่างไรก็ตามในการประชุม ครม.​วันที่ 26 มกราคม ตนจะหารือกับฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมการด้านระเบียบ เผื่อให้การเปลี่ยนผ่าน ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ เป็นไปด้วยความโล่งอกของทุกฝ่าย
      ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในวาระสอง ที่ประชุมวุฒิสภา ได้ใช้เวลาพิจารณา กว่า 4 ชั่วโมง ก่อนจะลงมติวาระสอง รายประเด็นที่ส.ว.เสนอแก้ไข ทั้งส่วนของ มาตรา 305 (2) , (3) และ (5) พบว่าเสียงข้างมากยืนยันให้คงไว้ตามร่างเดิมที่รับมาจากสภาผู้แทนราษฎร จากนั้นได้ลงมติวาระสาม เห็นชอบร่างพ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว ด้วยคะแนนเสียงข้างมาก 165 เสียง ต่อ 7 เสียง  งดออกเสียง 21 เสียง และไม่ลงคะแนน 1 เสียง
      ซึ่งที่ประชุมวุฒิสภา ได้ใช้เวลาพิจารณาร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว รวมเวลาเกือบ 8 ชั่วโมง และจากผลการลงคะแนนดังกล่าวทำให้ร่างพ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวดำเนินการตามขั้นตอนการประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป.