2 พรรคล็อกเป้าพี่ใหญ่ 'ประวิตร'

2 พรรคล็อกเป้าพี่ใหญ่ 'ประวิตร'

ศึกซักฟอก "รัฐบาล" ของ "ฝ่ายค้าน" เที่ยวนี้ จะเป็นบทพิสูจน์ครั้งสำคัญว่าเป็นของจริงที่ประชาชนสามารถจะไว้ใจ ให้เป็นหูเป็นตา ตรวจสอบความไม่ชอบมาพากลต่างๆ ได้หรือไม่ หรือเป็นเพียงปาหี่ เกี๊ยเซี๊ยะแบบที่มีเสียงเล่าลือ

ฝ่ายค้านโหมโรงกันยกใหญ่พร้อมอภิปรายไม่ไม่วางใจรัฐบาล ท่ามกลางความระส่ำในช่วงที่โควิด-19 ระบาดรอบใหม่ในประเทศ จนรัฐบาลต้องหว่านเงินกู้เยียวยาประชาชนกันอีกยกใหญ่อันเป็นผลมาจากมาตรการซีลชายแดนเกิดรูรั่ว มีการเล็ดลอดของแรงงานต่างด้าวจนเชื้อระบาดระลอกใหม่ ยังไม่นับรวมถึงการระบาดคลัสเตอร์ใหญ่อย่างบ่อนการพนัน ที่สร้างปัญหาอย่างมากไม่เฉพาะกับการจัดการโควิด แต่ปัญหาที่อยู่ใต้พรมก็ปรากฎขึ้นชนิดที่รัฐบาลก็ปฏิเสธไม่ได้ ถึงขนาดดิ้นพล่านตั้งกรรมการตรวจสอบกันจ้าละหวั่น

โดยเป้าหมายใหญ่หนีไม่พ้น พล..ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ที่เปรียบเป็นศูนย์กลางของปัญหาในสายตาฝ่ายค้าน โดยเฉพาะประเด็นการบริหารราชการแผ่นดินผิดพลาด จนเกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวง ที่ปล่อยให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เกิดขึ้นในประเทศรอบใหม่ สาเหตุจากการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายของแรงงานต่างด้าว ที่อาจมีเจ้าหน้าที่หลายภาคส่วนรู้เห็นเป็นใจ ทั้งเรื่องแรงงานต่างด้าว และบ่อนการพนัน จนมีข้อสังเกตมามีบิ๊กในรัฐบาลได้ผลประโยชน์ตามน้ำไปด้วยหรือไม่

งานนี้ พล..ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ดูท่าจะไม่แคล้วคลาดเหมือนการอภิปรายคราวก่อน เที่ยวนี้ฝ่ายค้านโดยพรรคก้าวไกล และเสรีรวมไทย จับมือกันแน่นล็อกเป้าประวิตรไม่ให้หลุดมือ ในฐานะกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน จะถูกยื่นอภิปรายในประเด็นแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายด้วย รวมถึงนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน

รอบนี้หากฝ่ายค้านตีประวิตรให้ช้ำได้มากเท่าไหร่ ย่อมสะเทือนถึงรัฐบาลและพรรคพลังประชารัฐได้มากเท่านั้น เพราะเป็นที่รู้กันดีว่าประวิตรเป็นเส้นเลือดใหญ่ของรัฐบาลอย่างแท้จริง แม้เจ้าตัวจะบอกว่า ไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่ได้คุมหน่วยงานอะไรก็ตาม แต่เบื้องหลังก็เป็นที่รู้กันดีประวิตรคุมกลไกทางการเมืองฝ่ายรัฐบาล เป็นที่เคารพของคนในเครื่องแบบทุกวงการ

ส่วน จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ที่จะถูกยื่นอภิปรายในประเด็นการกักตุนหน้ากากอนามัย รวมถึงกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าอาจมีการทุจริตในกรณีจัดหาถุงมือยาง อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข จะถูกอภิปรายในประเด็นการบริหารจัดการโควิด โดยเฉพาะวาทะโควิดกระจอกยังตราตรึงใจใครหลายคน

พล..อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ที่จะถูกอภิปรายในหลายประเด็น ได้แก่ โรงไฟฟ้าขยะแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย บ่อนการพนัน การต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวให้กับบีทีเอส เรียกว่ามีงานร้อนๆ รอให้เคลียร์เพียบ จับตาดูดีๆ ว่าพล..อนุพงษ์ จะงัดเทคนิคเอาตัวรอดอย่างไร แต่ที่รู้ๆ มท.1 ยุคนี้ มีพระดีอยู่รอดปลอดภัยอยู่เสมอ

ขณะที่ ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ที่คาดว่าจะถูกอภิปรายในประเด็นเอื้อประโยชน์เอกชนที่ประกอบธุรกิจดิวตี้ฟรี รวมถึงประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานในส่วนที่เกี่ยวข้องกับรถไฟฟ้าสายสีส้ม รวมถึงประเด็นการต่อสัญญารถไฟฟ้าสายสีเขียว

ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ ที่จะถูกอภิปรายในประเด็นการปฏิรูปการศึกษา โดยเฉพาะการเรียนออนไลน์ที่ไม่มีประสิทธิภาพ จุติ ไกรฤกษ์ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในประเด็นการดูแลเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด นิพนธ์ บุญญามณีรมช.มหาดไทย ในประเด็นโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ .สงขลา

ทั้งหมดนี้เป็นรัฐมนตรีที่ติดโผซักฟอก ซึ่งครั้งนี้ น่าสนใจว่าฝ่ายค้านจะน็อครัฐบาลคาสภาฯ ได้จริงตามที่ตีปี๊บหรือไม่ ถือเป็นบทพิสูจน์ และเป็นโอกาสเรียกศรัทธากลับคืน หลังถูกครหาเป็นมวยล้มต้มคนดูมาแล้วหลายต่อหลายยก