'ก้าวไกล' ล็อคเป้าจ่อยื่นชงซักฟอก 'อนุทิน-นิพนธ์' ด้าน 'พท.' ขออภิปราย นายกฯ

รายงานข่าวจากที่ประชุมพรรคฝ่ายค้าน แจ้งว่า ในการประชุมเพื่อสรุปเนื้อหาการอภิปรายไม่ไว้วางใจ รวมทั้งรัฐมนตรีที่จะถูกอภิปราย มีแกนนำเข้าร่วมอย่างพร้อมเพียง อาทิ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายพิธาลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาตินายวันมูหะหมัด นอร์มะทา หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ นายนิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย เข้าร่วมอย่างพร้อมเพียง โดยที่ประชุมพรรคก้าวไกลก้าวเสนอให้อภิปรายนายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในประเด็นโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ อ.จะนะ จ.สงขลา

นอกจากนี้พรรคก้าวไกล ยังเสนออภิปรายนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประเด็นการบริการสถานการณ์โควิด-19 ด้วย แต่ทางพรรคเพื่อไทยไม่เห็นด้วย โดยยกเหตุผลการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จัดตั้งศูนย์ศบค.ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม รวบอำนาจการบริหารไว้ทั้งหมด ประเด็นโควิด จึงควรอภิปรายพล.อ.ประยุทธ์เป็นหลัก

ทั้งนี้ มีความพยายามเชื่อมโยงว่าที่พรรคเพื่อไทย ไม่ต้องการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี จากพรรคภูมิใจไทย เพราะต้องการให้พรรคภูมิใจไทย ช่วยโหวตไม่ไว้วางใจ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่จะโดยอภิปรายไม่ไว้วางใจประเด็นโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ซึ่งแนวทางของพรรคภูมิใจไทย ไม่เห็นด้วยกับการต่อสัญญาสัมปทานเหมือนกับพรรคเพื่อไทย

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ในการประชุมแต่ละพรรคได้เสนอประเด็นต่างๆ และรายชื่อรัฐมนตรีให้ที่ประชุมทราบในเบื้องต้น เบื้องต้นจะยื่นอภิปรายรัฐมนตรี ราว 10-11 คน อาทิ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม , พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ, นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์, นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข, พล.อ.อนุพงษ์เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย, นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม, นายสุชาติ ชุมกลิ่น รมว.แรงงาน และ นายนิพนธ์ บุญญามณีรมช.มหาดไทย เป็นต้น

ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้ นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้า และฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย เป็นผู้ร่างญัตติ และจะมีการสรุปกันอีกครั้งวันที่ 24 ม.ค.ก่อนยื่นญัตติต่อประธานสภาฯในวันที่ 25 ม.ค.นี้