'ม็อบ 3 นิ้ว' ปรับกระบวนท่า ตั้งกรรมการกลาง 'ปูลิตบูโร'

'ม็อบ 3 นิ้ว' ปรับกระบวนท่า ตั้งกรรมการกลาง 'ปูลิตบูโร'

การชุมนุมโดยธรรมชาติ นำมาซึ่งปัญหามากมาย การมีหลากหลายกลุ่ม ส่งผลให้เกิดเรื่องทะเลาะวิวาทกัน เรื่องเงินๆทองๆ มีการแอบอ้างชื่อเบิกเงิน เปิดรับการบริจาคกันเอง ด้วยเหตุนี้ จึงต้องมี "ปูลิตบูโร"

ทุกคนคือราษฎรหรือทุกคนคือแกนนำเป็นคำขวัญเชิงยุทธศาสตร์ของการชุมนุมของนักเรียน นักศึกษาและประชาชน ตลอดเวลาเกือบ 6 เดือนในปีที่ผ่าน

ช่วงปลายปี 2563 แทบไม่มีการชุมนุมใหญ่ เหมือนม็อบราษฎรพักยกเพื่อมีเวลาในการถอดบทเรียน และประเมินสถานการณ์ เพื่อวางแผนการเคลื่อนไหวในปี 2564

การต่อสู้ของ ราษฎร ยังยืนยัน 3 ข้อเรียกร้อง ให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ให้ พล..ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลาออก และการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์

แกนนำราษฎรคนหนึ่งเล่าว่า มีการประชุมถอดบทเรียนที่เชียงใหม่ ประเด็นหนึ่งที่มีการพูดถึง คือม็อบย่อย ที่มีมากเกินไป ส่งผลภาพลักษณ์ ม็อบใหญ่เสียหาย

เนื่องจากแกนนำราษฎร ชูคำขวัญทุกคนคือแกนนำจึงมีการจัดม็อบแบบธรรมชาติ ใครนึกจะนัดชุมนุมกันที่ไหน วันไหน ก็ทำโดยเสรี

ผลก็คือ ม็อบย่อยมีคนชุมนุมหลักสิบหลักร้อย จึงถูกฝ่ายตรงข้ามนำไปขยายผลว่าม็อบแผ่ว ทั้งที่การนัดชุมนุมใหญ่แต่ละครั้ง ก็มีผู้ร่วมชุมนุมเรือนหมื่น

ที่ประชุมจึงมีมติว่า ไม่ควรทำม็อบย่อย และควรมีองค์กรนำหรือคณะกรรมการกลางคอยบริหารจัดการม็อบ เหมือนองค์กร นปช.

จะว่าไปแล้ว มีนักวิชาการปีกซ้ายบางกลุ่มเสนอให้กลุ่มราษฎร จัดตั้งองค์กรนำ แต่ดูเหมือนว่าแกนนำรุ่นใหม่ไม่เห็นด้วย เพราะต้องการให้เกิดการชุมนุมตามธรรมชาติ

ผลจากการชุมนุมโดยไม่มีองค์กรนำ ก่อให้เกิดการนำเดี่ยวจึงเกิดม็อบเพนกวิน ม็อบไมค์ ม็อบโตโต้ ม็อบชินวัตร ฯลฯ

บางคนอาจคิดว่า นี่คือ ม็อบออร์แกนิก นวัตกรรมการชุมนุมยุคดิจิทัล แต่หารู้ไม่ว่า มันแฝงไว้ด้วยท่วงทำนองวีรชนเอกชนของแกนนำม็อบบางคน และอาจนำพาการชุมนุมมวลชนไปสู่อนาธิปไตยได้

กรณีของ การ์ดวีโว่ ภายใต้การนำของ โตโต้-ปิยรัฐ จงเทพ ที่ได้แยกตัวออกมาเคลื่อนไหวโดยอิสระ ในลักษณะของม็อบจรยุทธ์ดูจะสุ่มเสี่ยงเกินไป

นอกจากนั้น การชุมนุมโดยธรรมชาติ ยังนำมาซึ่งปัญหามากมาย เฉพาะปัญหาการ์ด ที่มีหลากหลายกลุ่ม ส่งผลให้เกิดเรื่องทะเลาะวิวาทกัน มินับเรื่องเงินๆทองๆ ที่มีการแอบอ้างชื่อไปเบิกเงิน รวมถึงการเปิดรับการบริจาคกันเอง

ด้วยเหตุนี้ จึงต้องมีคณะกรรมการกลางเปรียบเช่นปูลิตบูโรเป็นผู้กำกับและชี้นำการเคลื่อนไหวทางการเมือง

เมื่อมีคณะกรรมการกลางของราษฎร ใครจะทำกิจกรรมใดๆ หรือจัดการชุมนุม ต้องแจ้งต่อปูลิตบูโร ถ้ากรรมการเห็นด้วยก็จะส่งแกนนำหลักให้ไปเข้าร่วม และมีทีมงานด้านต่างๆ เข้าไปสนับสนุน เพื่อตัดปัญหาไปทำม็อบกันเองแล้วก็เกิดปัญหา

เบื้องต้น มีการแต่งตั้งรุ้งปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล เป็นโฆษกอย่างเป็นทางการของกลุ่มราษฎร พร้อมกระบอกเสียงแฟนเพจราษฎร

คาดว่า "โควิด" ซา คงมีเปิดเผยโฉมหน้า "ปูลิตบูโร" แห่งราษฎร และการนัดหมายชุมนุมใหญ่ครั้งแรกในปี 2564