KBANK - ซื้อ

KBANK - ซื้อ

ผลประกอบการ 4Q63 & 2563: ความเสี่ยงหนี้เสียไม่แย่อย่างที่คาดไว้

Event

ผลประกอบการ, ประชุมนักวิเคราะห์, ปรับเพิ่มคำแนะนำ

lmpact

กำไร 4Q20 ดีกว่าคาดมาก เพราะคชจ.ตั้งสำรองฯ แทบไม่มี

กำไรสุทธิของ KBANK ใน 4Q63 อยู่ที่ 1.32 หมื่นล้านบาท (+98% QoQ และ +51% YoY) ดีกว่าประมาณการของเรา และ consensus อย่างมากเนื่องจากคชจ.สำรองฯ (credit cost) เกือบเป็นศูนย์ (จาก 200bps ใน 3Q63) หากไม่รวมคชจ.สำรองฯ กำไรจากการดำเนินงาน (PPOP( สูงกว่าที่เราคาดไว้ 9% ใน 4Q63 ได้แรงหนุนจากการบันทึกกำไรจากการลงทุนตามราคาตลาด การฟื้นตัวของรายได้ค่าธรรมเนียม ในขณะที่กำไรสุทธิปี 2563 อยู่ที่ 2.95 หมื่นล้านบาท (-24%) โดยได้แรงหนุนจากกำไรจากการลงทุน แต่มีค่าใช้จ่ายในการกันสำรองสูง

คชจ.สำรองฯตํ่า 4Q63 เพราะความเสี่ยงหนี้เสียไม่ได้แย่มากนัก

KBANK ตั้ง credit cost ใน 4Q63 ไว้แค่ 12bps (200bps ใน 3Q62) และในปี 2563 ไว้ที่ 205bps เนื่องจากลูกหนี้ในโครงการผ่อนผันหนี้สามารถฟื้นตัวและกลับมาชำระหนี้ได้มากกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ โดยยอดหนี้ที่ยังอยู่ในโครงการผ่อนผันหนนี้ลดลงจาก 8.60 แสนล้านบาทใน 3Q63 เหลือแค่ประมาณ 4.23 แสนล้านบาทใน 4Q63 ซึ่งในจำนวนนี้ 93% กลับมาชำระหนี้ได้ โดยมีเพียงแค่ 7% ที่ยังเปราะบางอยู่ ทำให้คชจ.สำรองฯในงวด 9M63 ซึ่งตั้งเป็นจำนวนมากนั้นเพียงพอแล้วต่อภาพรวมของคุณภาพหนี้ ทั้งนี้ นโยบายการกันสำรองอาจจะเปลี่ยนไปแบบปีต่อปี ซึ่งหมายความว่าการตั้งสำรองส่วนเกิน (manage overlay) จะลดลง และคชจ.สำรองฯจะสะท้อนความเสี่ยงที่เป็นจริง ทั้งนี้โดยรวมแล้ว NPL เพิ่มขึ้น 4%Q0Q และ 20% YoY ในขณะที่ NPL coverage อยู่ที่ 133%

รายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้น ในขณะที่บริหารค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานได้ดีขึ้นใน 4Q63

รายได้ค่าธรรมเนียมที่ลดลงมาตลอดในช่วง 9M63 กลับมาเป็นบวกที่ +6% QoQ แต่ยัง -12% YoY ใน 4Q63 และ -11% ในปี 2563 โดยค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุน, ค่าธรรมเนียมธุรกิจบัตร, และค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวกับสินเชื่อฟื้นตัวขึ้น ในขณะที่ค่าธรรมเนียมธุรกรรมโอนยังคงลดลงต่อเนื่อง แต่ใน
อีกด้านหนึ่ง ธนาคารก็บีบค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลงในช่วงที่ธุรกิจยากลำบาก และสามารถดึงให้สัดส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายลดลงมาอยู่ที่ 45% ในปี 2563

ปรับกำไรปี 2564/65 เพิ่ม 42%/11% และปรับเพิ่มราคาเป้าหมายปี 2564F เป็น 161 บาท (P/BV ที่ 0.8x)

เราปรับประมาณการเพื่อสะท้อนการปรับลด credit cost ลงเหลือ 220bps/200bps ในปี 2564/65 (จากเดิมที่ 250bps/200bps) และปรับลดสัดส่วนต้นทุน/รายได้ลงเหลือ 43%/43% (จากเดิมที่ 45%/43%) เราได้ re-rate P/BV เป็น 0.8x (เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 0.7x) ทำให้ได้ราคาเป้าหมายปี 2564F ใหม่ที่ 161 บาท และทำให้เราปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น ซื้อ

Risks

ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้น, NPL พลิกมาเป็ นขาขึ้น และตั้งสำรองหนี้เสียสูงเกินคาด