กรมธนารักษ์ ส่งมอบอาคารชดเชยให้กรมศุลกากรตามโครงการพัฒนาที่ราชพัสดุแปลง

กรมธนารักษ์ ส่งมอบอาคารชดเชยให้กรมศุลกากรตามโครงการพัฒนาที่ราชพัสดุแปลง

กรมธนารักษ์ ร่วมกับกรมศุลกากร จัดพิธีส่งมอบ – รับมอบอาคารพักอาศัย 8 ชั้น ขนาด 100 ครอบครัวซึ่งเป็นอาคารชดเชยตามโครงการพัฒนาที่ราชพัสดุแปลงที่ตั้งโรงภาษีร้อยชักสาม ให้กรมศุลกากรเพื่อใช้ประโยชน์ในทางราชการ

เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2564 ณ ที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ กท.352532  กท.352597 – 352599 บริเวณเชิงสะพานกรุงเทพ ถนนพระราม 3 แขวงบางคอแหลม เขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ และนายพชร  อนันตศิลป์  อธิบดีกรมศุลกากร ได้ลงนามในบันทึกการส่งมอบ – รับมอบอาคารชดเชยให้กรมศุลกากร ซึ่งเป็นอาคารพักอาศัย 8 ชั้น ขนาด 100 ครอบครัว จำนวน 1 หลัง มูลค่า 60.9 ล้านบาท โดยมีคณะผู้บริหารกรมธนารักษ์และคณะผู้บริหารกรมศุลกากรเข้าร่วมพิธีในครั้งนี้

นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า การดำเนินการก่อสร้างอาคารพักอาศัยกรมศุลกากรดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาที่ราชพัสดุแปลงที่ตั้งโรงภาษีร้อยชักสาม ซึ่งกำหนดให้กิจการร่วมค้าฯ บริษัท ยู ซิตี้ จำกัด (มหาชน) บริษัท อามันรีสอร์ท เซอร์วิสเซส ลิมิเต็ด และบริษัท ซิลเวอร์ลิงค์ รีสอร์ทส์ ลิมิเต็ด ผู้ได้รับสิทธิการพัฒนาโครงการ จะต้องดำเนินการก่อสร้างอาคารชดเชยให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (กองบังคับการตำรวจน้ำ) และก่อสร้างอาคารพักอาศัย 8 ชั้น ขนาด 100 ครอบครัว จำนวน 1 หลัง ชดเชยให้กรมศุลกากร ซึ่งปัจจุบันกิจการร่วมค้าฯ ได้ดำเนินการก่อสร้างอาคารชดเชยเสร็จเรียบร้อยแล้วและส่งมอบให้เป็นกรรมสิทธิ์ของกระทรวงการคลังและกรมธนารักษ์จึงได้ดำเนินการส่งมอบอาคารชดเชยดังกล่าวให้กรมศุลกากรเพื่อใช้ประโยชน์ในทางราชการต่อไป

สำหรับโครงการพัฒนาที่ราชพัสดุแปลงที่ตั้งโรงภาษีร้อยชักสาม ซึ่งกิจการร่วมค้าฯ จะต้องก่อสร้างอาคารโรงแรมพร้อมปรับปรุงซ่อมแซมอาคารโบราณสถานให้แล้วเสร็จภายในปี 2568 นั้น กิจการร่วมค้าฯ ได้รับการพิจารณาหลักฐานทางประวัติศาสตร์และรูปแบบการบูรณะอาคารโบราณสถานจากกรมศิลปากรแล้ว รวมทั้งคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณางานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมฯ ได้เห็นชอบรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) โครงการพัฒนาที่ราชพัสดุแปลงที่ตั้งโรงภาษีร้อยชักสามแล้ว ปัจจุบันอยู่ระหว่างกรมศิลปากรพิจารณาอนุญาตการบูรณะกลุ่มอาคารศุลกสถาน ทั้งนี้ กรมธนารักษ์จะได้ติดตามกำกับดูแลโครงการให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในสัญญาร่วมลงทุนเพื่อบริหารจัดการทรัพย์สินให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อไป อธิบดีกรมธนารักษ์กล่าวในตอนท้าย