ค้าปลีกเสริมทัพโซเชียล-อีคอมเมิร์ซ

ขณะที่ภาคธุรกิจค้าปลีกเผชิญภาวะ “ติดลบ 12%" หนักสุดเป็นประวัติการณ์ในปีที่ผ่านมา ต่อเนื่องมายังไตรมาสแรกปีนี้แม้ "ตัวเลขติดลบลดลง" แต่สถานการณ์ยังเปราะบาง ซึ่งผู้ประกอบการต้องพลิกตำรา! ปรับกลยุทธ์กันเป็นระลอกเพื่อกระตุ้นยอดขาย ควบคู่มาตรการสุขอนามัยและความปลอดภัยแบบการ์ดไม่ตก! สร้างความเชื่อมั่นให้ผู้มาใช้บริการ

มยุรี ชัยพรหมประสิทธิ์  กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายส่งเสริมการตลาดและองค์กรสัมพันธ์ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้าสยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และ สยามดิสคัฟเวอรี่ ในนาม วันสยาม (OneSiam) โกลบอลเดสทิเนชั่น  และหนึ่งในพันธมิตรเจ้าของโครงการไอคอนสยาม กล่าวว่า สยามพิวรรธน์ เตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งทำให้วิถีการดำรงชีวิตของทุกคนเปลี่ยนแปลงไปในทุกมิติ โดยได้นำ E&S-commerce (Electronic commerce & Social Media commerce) มาช่วยสนับสนุนการขายของกลุ่มวันสยามและไอคอนสยาม 

“E&S-commerce” เป็นมาตรการด้านธุรกิจเพื่อตอบสนองการใช้ชีวิตวิถีใหม่แบบ New Normal Innovative Lifestyle ให้ลูกค้ามีช่องทางในการเข้าถึงสินค้าและจับจ่ายใช้สอยได้อย่างสะดวกผ่านโปรแกรมช้อปให้สะดวก อยู่ที่ไหนก็ช้อปได้ง่าย มีการรวมสินค้าหลากหลายตั้งแต่แฟชั่น บิวตี้ ไลฟ์สไตล์ แกดเจ็ต และอาหาร ให้บริการ 4 ช่องทาง ได้แก่ 

"Chat&Shop" ลูกค้าแชทสั่งซื้อสินค้าได้ผ่านไลน์ @OneSiam หรือข้อความใน Facebook Messenger ของเพจ Siam Center, Siam Discovery, Siam Paragon และ OneSiam หรือไลน์ @ICONSIAM หรือข้อความใน Facebook Messenger ของเพจ ICONSIAM

“Call&Shop” บริการเอ็กซ์คลูซีฟเพื่อความสะดวกและความปลอดภัยของลูกค้าคนสำคัญ สำหรับสมาชิก VIZ Card และ Platinum M Card ช้อปสินค้าทางโทรศัพท์ได้ทุกแผนกตั้งแต่ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหาร จนถึงลักชัวรีแบรนด์  

"Click&Shop" ช้อปได้ตลอด 24 ชั่วโมงทุกที่ ทุกเวลา โดยคัดสรรสินค้าหลากหลายแบรนด์ฮิตสำหรับไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างจากหลากหลายสโตร์มาแรง 

สุดท้าย Siam Paragon และ ICONSIAM Luxury Chat & Shop แชทและช้อปแบรนด์เนมระดับโลก ลูกค้าแชทผ่านข้อความกับ “ผู้ช่วยส่วนตัว” ตัดสินใจเลือกสินค้า เลือกชำระเงินตามเงื่อนไข และรอรับสินค้าที่บริการส่งตรงให้ถึงบ้าน 

“ตั้งแต่ปี 2563 การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด ส่งผลกระทบต่อคนทั่วโลก วิถีการดำรงชีวิตของทุกคนเปลี่ยนแปลงไปในทุกด้าน สยามพิวรรธน์ มุ่งตอกย้ำความผู้นำความคิดสร้างสรรค์ที่ล้ำสมัย และนำเสนอสิ่งแปลกใหม่ให้ชีวิต หรือ The Icon of Innovative Lifestyle"

ขณะเดียว วันสยาม และไอคอนสยาม ยังประเดิมเทศกาลจับจ่ายแห่งปี โหมบิ๊กโปรโมชั่นทั้งช้อปในศูนย์การค้าและออนไลน์ใน “เทศกาลตรุษจีน” ซึ่งปกติชาวไทยเชื้อสายจีนจะออกมาจับจ่ายใช้สอยกันเป็นจำนวนมาก 

ปีนี้สยามพิวรรธน์ขานรับนโยบายภาครัฐ ได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบของการจัด “ซิกเนเจอร์อีเวนท์” และกิจกรรมมงคลเพื่อความเป็นสิริมงคลชีวิต ภายใต้มาตรการสุขอนามัย แต่ยังคงสร้างประสบการณ์การชอปปิงทั้ง “ออฟไลน์” และ “ออนไลน์” แบบไร้รอยต่อ หรือ ออมนิชาแนล (Omni Channel) สร้างประสบการณ์การชอปปิงไร้ขีดจำกัด ซึ่งได้ผนึกกำลังพันธมิตรทุ่มงบกว่า 100 ล้านบาท ชูกลยุทธ์แคมเปญสุดคุ้ม! “OneSiam The Great Luck with Prosperity Chinese New Year 2021” ยิงยาวถึง 28 ก.พ.เมื่อช้อปตามเงื่อนไข รับสยามกี๊ฟท์การ์ดรวมมูลค่ากว่า 6.3 ล้านบาท ช้อปผ่านบัตรเครดิตที่ร่วมรายการรับเงินคืนสูงสุด 15% ไฮไลท์ ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ 12-14 ก.พ. ช้อปครบตามเงื่อนไขแจกกี๊ฟท์การ์ดเพิ่มอีกรวมมูลค่า 1.5 ล้านบาท พร้อมกันนี้กว่า 300 ร้านค้าและพารากอนดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ แจกคูปองส่วนลด “OneSiam อั๋งเปา” 

สำหรับ“The ICONSIAM Eternal Prosperity Chinese New Year 2021” ช้อปครบตามเงื่อนไขรับสยามกี๊ฟท์การ์ดและบัตรจอดรถฟรี 3 เดือนรวมมูลค่ากว่า 12 ล้านบาทและช้อปผ่านบัตรเครดิตที่ร่วมรายการรับเงินคืนสูงสุด 15%  ช้อปออนไลน์ตามเงื่อนไขรับสยามกิ๊ฟท์การ์ดสูงสุด 500 บาท รวมมูลค่า 1.85 ล้านบาท

อีกทั้งยังใช้กลยุทธ์ “Digitization” นำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาจัดแคมเปญเน้นความคุ้มค่า และกิจกรรมเสริมความสิริมงคลสร้างสีสันตลอดเทศกาลตรุษจีน เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อลูกค้าแบบการ์ดไม่ตกด้วยมาตรการสุขอนามัยและปลอดภัย

ทางด้านยักษ์ใหญ่ “เซ็นทรัลรีเทล” เดินหน้ากลยุทธ์ออมนิชาแนลเต็มสูบในคอนเซปต์ ”Central and Robinson with you during Covid-19" ผลักดันเรือธงทั้งห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลและโรบินสัน ตั้งรับโควิดรอบใหม่อย่างเปี่ยมประสิทธิภาพ 

นิโคโล กาลันเต้ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ฉะนั้น ต้องทำให้ลูกค้าได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ธุรกิจต้องพร้อมปรับตัวอย่างรวดเร็วเช่นกัน 

โดยเซ็นทรัลรีเทลวาง4 กลยุทธ์หลักเคลื่อนธุรกิจ ประกอบด้วย 

“Stores Clean&Safe” ห้างเซ็นทรัลและโรบินสัน สะอาดปลอดภัยให้ลูกค้ามาใช้บริการที่หน้าร้านได้อย่างมั่นใจกับมาตรการเข้มด้านสุขอนามัย เพิ่มความสะดวกด้วย 

“แอพลิเคชั่น” CENTRAL APP นับเป็ฯครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กับออมนิชาแนลบนแอพพลิเคชั่นที่เสมือนยกห้างเซ็นทรัลมาไว้บนมือถือ ช้อปได้ทุกที่ ทุกเวลา 

“บริการผู้ช่วยช้อปส่วนตัว” หรือ Personal Shopper สำหรับทุกคนเมื่อโทรมาที่เบอร์ 1425

สุดท้าย “New Sale Channels” กับช่องทางการช้อปหลายรูปแบบตามความถนัดของลูกค้า ทั้งช้อปผ่านเว็บไซต์ www.central.co.th และ www.robinson.co.th, Chat&Shop แชทบอกผู้ช่วยส่วนตัวผ่านไลน์, Call&Shop โทรช้อปสินค้าผ่านเบอร์ 1425, ช้อปผ่าน Facebook Live และ Facebook Inbox รวมถึง Drive Thru บริการรับสินค้าสำหรับผู้ที่สั่งสินค้า และมารับสินค้าด้วยตัวเองที่ห้างเซ็นทรัลและโรบินสันทั่วประเทศ

เซ็นทรัลยกระดับพนง.ขาย ปั้น‘1425-เพอร์เซอนัลชอปเปอร์’

ชอปปิงออนไลน์กลายเป็นช่องทางสำคัญในยุคโควิดที่ทำให้ผู้ค้าปลีกเข้าถึงลูกค้า! โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงที่ผู้คนไม่ต้องการเดินทางออกจากบ้าน ขณะที่ผู้ประกอบการทุกรายต่างยึดออนไลน์เป็นเครื่องมือสำคัญ ดังนั้นจะทำต่อยอด หรือสร้างความ “แตกต่าง” เหนือคู่แข่งอย่างไรเพื่อดึงดูดลูกค้ามาใช้บริการ 

ปิยะพงษ์ ธัญญศรีสังข์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงาน บริหารสาขา และซัพพลายเชน บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด และ รวิศรา จิราธิวัฒน์ ประธานบริหารฝ่ายการตลาด บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด และ บริษัท โรบินสัน จำกัด (มหาชน) ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า ห้างเซ็นทรัลและโรบินสันมีความพร้อมของ "ออมนิชาแนล" รับมือสถานการณ์แห่งความท้าทายครั้งนี้ 

“ตั้งแต่ต้นปี 2563 กระทั่งการแพร่ระบาดระลอกใหม่ ลูกค้าหันมาช้อปผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ดีมานด์เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด พบว่ายอดขายของห้างเซ็นทรัล และโรบินสัน อย่าง Chat&Shop/Call&Shop/FB Live&Inbox โตขึ้นถึง 12 เท่า ภายใน 1 ปี หรือมากกว่า 1,000%”

 เซ็นทรัลและโรบินสันมุ่งพัฒนาทักษะและยกระดับการให้บริการของพนักงานขาย! ที่จะต้องสอดรับการขายผ่าน CENTRAL APP ประตูสู่การชอปปิง! เสมือนยกห้างเซ็นทรัลมาไว้บนมือถือ มีสินค้าให้เลือกกว่า 6,000 แบรนด์ 2 แสนรายการ มีสินค้าเอ็กซ์คลูซีฟแบรนด์ที่มีขายเฉพาะห้างเซ็นทรัลเท่านั้น พร้อมรับคูปองโปรโมชั่นและสิทธิประโยชน์ ตลอด 24 ชั่วโมง

“การแข่งขันบนโลกออนไลน์ ลูกค้ามองหาแพลตฟอร์มหรือออนไลน์ชอปปิงที่ไว้ใจได้! หากสินค้ารับไปแล้วเปลี่ยนใจสามารถมาคืนที่ร้าน หรือจากที่บ้านได้ CENTRAL APP จะกลายเป็นเครื่องมือชอปปิงที่สำคัญของลูกค้าเพราะสามารถเชื่อมหน้าร้านและออนไลน์ได้ ประการสำคัญสินค้ากว่า 6,000 แบรนด์ 2 แสนรายการเป็นของแท้ 100%"

Personal Shopper หรือ ผู้ช่วยช้อปส่วนตัวสำหรับทุกคน (Personal butler) จะเป็นอีกหนึ่งความพิเศษที่ดูแลลูกค้าให้พร้อมรับมือโควิดระลอกใหม่ ใช้บริการผ่านเบอร์ 1425 ซึ่งบริการนี้ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้ามาอย่างยาวนาน ทำหน้าที่แนะนำให้บริการข้อมูลโปรโมชั่น พร้อมคำนวณ ส่วนลด สิทธิประโยชน์อื่นๆ ให้ลูกค้าแบบตัวต่อตัว หากคุณต้องการช้อปครั้งต่อไปก็สามารถโทรหาผู้ช่วยช้อปประจำตัว เพื่อจัดหาสินค้าที่ต้องการพร้อมส่งตรงถึงบ้านได้ทันที ให้บริการวันที่ 20 ม.ค.นี้เป็นต้นไป

ทั้งนี้ที่ผ่านมาได้มีการพัฒนาพนักงานขายและยกระดับสู่ผู้ช่วยช้อปส่วนตัว ปัจจุบันมี 1,000 คน อนาคตอาจขยายเพิ่มถึง 2,000 คนก็เป็นได้ 

ไม่ว่าจะเผชิญวิกฤติอะไร เซ็นทรัลรีเทล ย้ำว่าจะไม่เคยหยุดเสิร์ฟลูกค้า!