เลือกเก็งกำไรรายตัว ทยอยซื้อหุ้นใหญ่ในช่วงตลาดผันผวน และคงภาพบวกระยะกลาง

เลือกเก็งกำไรรายตัว ทยอยซื้อหุ้นใหญ่ในช่วงตลาดผันผวน และคงภาพบวกระยะกลาง

ผลกระทบจาก PTTOR ต่อตลาดหุ้นคาดจำกัด

หากคิดที่ราคาสูงสุดของช่วงการจองที่ 18 บาท ขนาดมูลค่าตลาดของบริษัทจะอยู่ที่ 2.16 แสนล้านบาท และได้รับการจัดเข้าสู่ SET50 โดยขนาดของการระดมทุนที่ 5.4 หมื่นล้านบาท เราคาดเม็ดเงินหมุนเวียนจากการขายทำกำไรหุ้นในตลาดเพื่อเตรียมเงินจองซื้ออยู่ที่ไม่เกิน 40% หรือ 2 หมื่นล้านบาท คาดความผันผวนต่อตลาดคล้ายที่เกิดกับ AWC และ SCGP ซึ่งเกิดขึ้นเพียงระยะสั้น โดยผลกระทบอาจเกิดกับกลุ่มอุตสาหกรรมที่ใกล้เคียงกัน อาทิ การปรับลดสัดส่วนการลงทุนกลุ่มค้าปลีกอย่าง CPALL และ BJC ที่ซื้อขายด้วย PER สูงถึง 58x และ 36x ขณะที่ PTG แม้ทำธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน แต่ซื้อขายด้วย PER 18x ซึ่งถูกกว่า PTTOR ที่ 26x ทำให้เป็นเป้าหมายของการเก็งกำไร re-rating ขึ้นซื้อขายด้วย PER ที่สูงขึ้น

ภาพระยะกลางยังอิงการฟื้นตัวเศรษฐกิจโลกไม่เปลี่ยน การรายงานตัวเลข GDP จีนไตรมาส 4/63 แข็งแกร่ง ประกอบกับการฟื้นตัวขึ้นของส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี โดยเฉพาะ PTA/PET spread ที่เพิ่มขึ้น +40% WoW (บวกกับ IVL) ยังเป็นปัจจัยสนับสนุนธีมการลงทุนการลับมาขิงเงินเฟ้อ (reflation) ซึ่งบวกต่อหุ้นพลังงานและโภคภัณฑ์ โดยให้ใช้จังหวะผันผวนจากการแข็งค่าของเงินเหรียญสหรัฐฯ ในการทยอยสะสม การเก็งกำไรช่วงสั้น เรายังคงชอบหุ้นรายตัวที่ได้ประโยชน์จากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึงการฟื้นตัวของกำลังการบริโภคจากต่างประเทศ (ส่งออก) อาทิ STA, AMA, TVO, TU, CPF, GFPT หรือที่มีปัจจัยบวกรายตัว อาทิ ETC, PTG, EA //สำหรับหุ้นใหญ่ในกลุ่มโภคภัณฑ์ เราชอบ PTT, PTTGC, IVL // และหุ้นลงทุนระยะยาว ทยอยสะสม SCGP, BDMS, MINT, CPALL, DCC

ภาพรวมกลยุทธ์ ระยะสั้นแม้ผันผวน แต่ยังคงมุมมองเชิงบวกต่อ ภาพระยะกลาง-ยาว และกลยุทธ์เลือกรายตัว โดยเน้นซื้อในเชิงตั้งรับ // หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร AMA*, ETC*, PTG*, CPF*

แนวรับ 1,478-1,520 จุด / แนวต้าน : 1,528 จุด สัดส่วน : เงินสด 60% : พอร์ตหุ้น 40%

 

ประเด็นการลงทุน

เศรษฐกิจจีนโตสวนวิกฤตโควิด. NBS รายงาน GDP จีนไตรมาส 4/63 ขยายตัว 6.5% ทั้งปี 63 โต 2.3% สอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะโตเกิน 2 หลัก ส่งผลให้จีนเป็นประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ประเทศเดียวที่มีการขยายตัวในปี 2563

รมว.คลังสหรัฐยันไม่ใช้นโยบายดอลลาร์อ่อนเพิ่มความได้เปรียบ. นางเจเน็ต เยลเลน ว่าที่รัฐมนตรีคลังคนใหม่ของสหรัฐแสดงความเชื่อมั่นต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน $1.9 ล้านล้าน ของนายโจ ไบเดน พร้อมระบุว่าสหรัฐจะดำเนินนโยบายอัตราแลกเปลี่ยนตามกลไกตลาดโดยไม่จงใจให้เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเพื่อเพิ่มความได้เปรียบทางการแข่งขัน

หนี้สหรัฐพุ่ง $7 ล้านล้าน. ระดับหนี้สาธารณะของสหรัฐในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาภายใต้การบริหารของคณะรัฐบาลทรัมป์พุ่งขึ้นทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ $7 ล้าน และยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อในยุคของว่าที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน

อย. จ่ออนุมัติฉีดวัคซีนฉุกเฉิน. อธิบดีกรมควบคุมโรคเผยว่าขณะนี้บริษัท แอสตร้าเซนเนก้าด้มีการยื่นเอกสารขอขึ้นทะเบียนวัคซีนในไทยกับทาง อย. แล้ว ซึ่งคาดว่า อย. จะอนุญาตฉีดวัคซีนโควิดเป็นกรณีฉุกเฉินในสัปดาห์นี้ซึ่งจะสอดรับการเริ่มฉีดวัคซีนในปลายเดือนกุมภาพันธ์

BTS – W5 – ซื้อขายวันสุดท้าย 21 ม.ค.64 ขณะที่หุ้นแม่จะจ่ายปันผล 0.15 บาท/หุ้น XD 29 ม.ค.64

Bitkub บอร์ดก.ล.ต.มีมติให้ Bitkub แก้ไขระบบงานใน 5วัน เพื่อคุ้มครองผู้ลงทุน

เตรียมลดความเข้มคุมโควิด – ศบค.เตรียมพิจารณาลดระดับความเข้มข้นในการควบคุมการระบาด เตรียมเปิดแพกุ้งมหาชัย 27 ม.ค.

 

ประเด็นติดตาม: - 20 ม.ค. : พิธีสาบานตนของประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ // 21 ม.ค. : ECB meeting // 27 ม.ค. – ฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)