Rebound

Rebound

ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปิดปรับตัวลง 9 จุด ถูกกดดันจากแรงขายทำกำไรในหุ้น DELTA (-3.45%) และกลุ่ม ENERG ที่ปรับตัวลงตามทิศทางราคาน้ำมัน

นอกจากนี้ จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ภายในประเทศยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่ ตลาดภูมิภาคอยู่ในแดนบวกสลับลบ เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่หนุน ประกอบกับตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำการ ทำให้ขาดดัชนีชี้นำ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,510.13 จุด -9.00 จุด -0.59% มูลค่าการซื้อขาย 74,438.29 ลบ. ต่างชาติ -134.57 ลบ. TFEX -6,177 สัญญา ตราสารหนี้ +1,257 ลบ.

ปัจจัยบวก

+การประชุมครม. พิจารณามาตรการด้านการเงิน เยียวยา ผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 รอบสอง “คนละครึ่ง-เราชนะ ”และเกณฑ์ซอฟท์โลนช่วยเหลือลูกหนี้ของธนาคาร
+ BOI เปิดเผยถึงแนวโน้มการลงทุนไทยปี 64 มีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นพร้อมกับที่สภาพัฒน์คาดว่าการลงทุนภาคเอกชนปีนี้จะขยายตัว 4.2% ฟื้นจากปี 63 ที่ลดลง 8.9%
+ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดเพิ่มขึ้น 29.85 จุด +0.84%
-ดัชนีนิกเกอิปิดลดลง 276.97 จุด -0.97% เช้าเปิด +163.28 จุดจากแรงช้อนซื้อเก็งกำไร
+ ดัชนี MSCI หุ้นเอเชีย-แปซิฟิกไม่รวมญี่ปุ่น+0.2% เช้านี้ได้ระดับ สูงสุด เป็นประวัติการณ์

ปัจจัยลบ

+/-ตลาด(เงิน หุ้น น้ำมัน ทองคำ) นิวยอร์กปิดทำการวันจันทร์ที่ 18 ม.ค.เนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์
+/-ค่าเงินบาทปิด30.11บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าลงสอดคล้องกับสกุลเงินส่วนใหญ่ในเอเชีย เช้าเปิดตลาด”อ่อนค่า” ที่ 30.12 บาทต่อดอลลาร์ กังวลอนาคตศก.ไทย
-ทั่วโลกติดเชื้อโควิดทะลุ 95.5 ล้านราย ตายกว่า 2.04 ล้านราย ขณะที่จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ภายในประเทศรายใหม่ยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง มาเลเซียพบผู้เชื้อใหม่วันเดียว 3,306 ราย

แนวโน้มตลาดวันนี้ 

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาส Rebound หลังปรับตัวลงต่อเนื่อง โดยมีแรงหนุนจากโครงการ “เราชนะ” เข้า ครม. วันนี้ เพื่อเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-1 ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ากระทบตลาด คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,500-1,530 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

• หุ้นได้ประโยชน์จากการ Work from home : ADVANC DTAC TRUE JAS COM7 SIS SYNEX VCOM IIG AS YGG
• หุ้นที่ได้ผลดีจากนโยบายไบเดน : BGRIM GPSC EA RATCH BCPG
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากโครงการเราชนะ : TNP KK CPALL BJC MAKRO

หุ้นรายงานพิเศษ

         TISCO       Bloomberg Consensus 96.57 บาท

TISCO รายงานกำไรสุทธิปี 63 เท่ากับ 6,063 ล้านบาท -16.6%YoY ดีกว่า consensus 2% โดยมีรายได้ก่อนหักสำรองฯ (PPOP) 7,562 ลบ. +7.2% แต่มีคชจ.ตามมาตรฐานบัญชี TFRS9 ซึ่งเป็นผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) 3.3 พันลบ. +200% ส่งผลให้กำไรสุทธิ ลดลง 16.6%YoY ทั้งนี้ %NPL ลดเหลือ 2.5% จากปลายปี 62 และมี Coverage Ratio เพิ่มขึ้นสู่ 210.5% จาก 183.7% ณ ปลายปี 62 ขณะที่เงินกองทุนยังแข็งแกร่งที่ 22.8% (Tire I เท่ากับ 18.1%)

ความเห็น เรามีมุมมองบวกมากขึ้นหลังจากผู้บริหารชี้แจงว่ามีเฉพาะธนาคารทิสโก้ที่ติดข้อกำหนดของธปท.ในการจ่ายเงินปันผลปี 63 (ไม่เกินอัตราที่จ่ายในปี 62 และ payout ratio ไม่เกิน 50% ของกำไรสุทธิปี 63) เราจึงคาดว่าน่าจะเห็น TISCO จ่ายเงินปันผลในระดับเกินกว่า 50% ซึ่งคาดว่าจะอยู่ในช่วง 70-80% (payout ratio ปี 62 เท่ากับ 85%) เมื่อพิจารณาจากกำไรต่อหุ้นปี 63 เท่ากับ 7.57 บาท จึงคาดว่าเงินปันผลน่าจะอยู่ระหว่าง 5.30 – 6.06 บาทต่อหุ้น ซึ่งมี yield 5.8 – 6.6% แนะนำ ถือ รับเงินปันผล

หุ้นมีข่าว

(+/-) LHFG (ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 1.03 บาท) รายงานผลการดำเนินงานงวด 4Q63 มีกำไรสุทธิ 204.2 ล้านบาท -77%YoY -61%QoQ เนื่องจากมีผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นที่เพิ่มขึ้น 820.3% ปี 63 มีกำไรสุทธิ 2,056.9 ล้านบาท -36%YoY (ต่ากว่า consensus 17%) เนื่องจากผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นตาม TFRS9 เพิ่มขึ้น 110.8% ขณะที่สินเชื่อสุทธิ +8.5%YTD NPL +71%YOY ส่งผลให้ %NPL เพิ่มขึ้นสู่ 2.77% จาก 1.55% ณ ปลายปี 62 เงินกองทุนรวม 19.3% Tier I เท่ากับ 16.5%

(+) RS (Bloomberg Consensus 21.73 บาท) ลุ้นงบไตรมาส 4/63 กำไรสุทธิ 124 ล้านบาท พุ่งแรง 89% หลังยอดขายธุรกิจพาณิชย์โต 45% หนุนกำไรสุทธิปี 63 โต 51% แตะ 548 ล้านบาท คาดปันผลปี 63 หุ้นละ 0.40 บาท ส่วนปี 64 คาดโต 54% เบ่งกำไรสุทธิ 844 ล้านบาท โบรกฯ เชียร์ “ซื้อ” เป้าราคา 23.90 บาท ฟากบอร์ด RS อนุมัติให้บริษัทย่อย “RSX” ทุ่มงบ 920 ล้านบาท เข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุน “เชฎฐ์ เอเชีย (Chase)” 2.74 ล้านหุ้น เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจไปสู่ธุรกิจใหม่ (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) TASCO (Bloomberg Consensus 19.03 บาท) แย้มอยู่ระหว่างเจรจาหาแหล่งน้ำมันดิบใหม่หลายราย คาดไม่เกินกลางปี 2564 ได้ข้อสรุป ประเมินโอกาสเซ็นสัญญาจัดซื้อแหล่งน้ำมันดิบใหม่นั้นแถบอเมริกาใต้มีความเป็นไปได้สูง ขณะที่มองผลการดำเนินงานปี 2564 เติบโตดีกว่าปีก่อน ด้านโบรกคาดกำไรจะเติบโตได้ดีจนถึงไตรมาส 2/2564 กำไรระยะยาวยังขึ้นอยู่กับการซื้อน้ำมันดิบล็อตใหม่ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) BCPG (Bloomberg Consensus 15.46 บาท) แย้มข่าวดีโรงไฟฟ้าลม 600 เมกะวัตต์ใน สปป.ลาว คืบ มีลุ้นเซ็น PPA อีกไม่นาน ชี้มีมูลค่าซ่อนจากที่ดิน 4 แสนไร่ ผลิตไฟฟ้าได้เพิ่มอีกนับพันเมกะวัตต์ พร้อมสายส่งขนาดใหญ่ 500 KV ทำรายได้ระยะยาว ให้คำมั่นปกป้องผลกระทบจากการไดลูตหุ้นเพิ่มทุนปีนี้ เล็งซื้อโรงไฟฟ้าเข้ามาอย่างต่ำ 300 เมกะวัตต์ ปั๊มกำไรทันที (ที่มา ทันหุ้น)

ปัจจัยจับตา

ในประเทศ

ภายใน 21 ม.ค. หุ้นธนาคารส่งงบการเงินประจำปี 63

19 ม.ค. กำหนดประชุมครม.

20 ม.ค. ส.อ.ท. แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์

สัปดาห์ที่ 3 กระทรวงพาณิชย์แถลงตัวเลขการส่งออก-นำเข้า

สัปดาห์ที่ 4 สศอ. แถลงดัชนีอุตสาหกรรม สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค

29 ม.ค. ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย

3 ก.พ. ประชุมกนง.นัดแรก

ต่างประเทศ

19 ม.ค. อียูเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ

20 ม.ค. ธนาคารกลางจีนกำหนดอัตราดบ.เงินกู้ LPR
           อียู เปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนธ.ค.
           สหรัฐจัดพิธีสาบานตนรับตำแหน่งของว่าที่ปธน.สหรัฐของนายโจ ไบเดน และเปิดเผยดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย

21 ม.ค. ญี่ปุ่นเปิดเผยดุลการค้าเดือนธ.ค.
           ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประชุมนโยบายการเงิน
           สหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีการผลิตเดือนม.ค. และตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนธ.ค.

22 ม.ค. อียู เปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนม.ค.
           สหรัฐ เปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนม.ค. ยอดขายบ้านมือสองเดือนธ.ค. และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์