อ่อนตัว

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้

คาดดัชนีฯ อ่อนตัว แนวต้าน 1530 / 1540 จุด แนวรับ 1508 / 1500 จุด แนะนำเก็งกำไร TISCO KKP IRPC ทางเทคนิค คาดดัชนีฯ อ่อนตัว เพื่อเป็นการปรับฐาน เพื่อขึ้นต่อในระยะยาว โดยมีแนวรับลุ้นรีบาวด์ที่ 1500 / 1480 จุด ปัจจัยลบ คือ การกลับมาแข็งค่าของค่าเงิน USD หลังจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 ส่งผลต่อการขยายมาตรการล็อกดาวน์และรายงานผู้เสียชีวิตจากการแพ้วัคซีนต้าน COVID-19 ในนอร์เวย์ ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตาม คือ รายงาน 4Q20E GDP จีน และรายงานผลกำไรบจ. ไทย นำโดย TISCO

ประเด็นที่มีผลต่อตลาดวันนี้

         1) ค่าเงิน USD กลับมาแข็งค่า จากการหันมาซื้อสกุลปลอดภัย หลังรายงานผู้ติดเชื้อ COVID-19 เพิ่มขึ้นและสื่อนสพ. สหรัฐฯ แจ้งวัคซีนในสหรัฐฯ หมดแล้ว (-ตลาดหุ้นโลก)

         2) จีน รายงานตัวเลขเติบโต 4Q20E GDP วันนี้ คาดเติบโตในกรอบ 5.5-7% YoY โดยจะเป็นบวกหากออกมาดีกว่าคาด (+กลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ และตลาดหุ้นเอเชีย)

         3) TISCO เป็นธนาคารแรกประกาศงบ คาดยิลด์ปันผลน่าสนใจ แม้จะจ่ายปันผลลดลง (+กลุ่มธนาคาร)

         4) นอร์เวย์ เผยมีผู้เสียชีวิตจากการแพ้วัคซีนต้าน COVID-19 จำนวน 23 ราย จากการฉีดทั้งหมด 33,000 ราย ให้คนอายุมากกว่า 80 ปี (-กลุ่มท่องเที่ยว)

         5) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันมาร์ตินลูเธอร์คิง

ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้  EU-ประชุมรมว. คลัง หารือการกระจายเงินโครงการ Recovery Fund, Earnings: TISCO / China-รายงาน 4Q20E GDP Growth คาด 5.5-7% YoY, 2-3.6% QoQ (Vs 3Q20 4.9% YoY, 2.7% QoQ), Retail Sales เดือน ธ.ค. คาด +5.5% YoY (Vs เดือน พ.ย. +5% YoY), Industrial Production เดือน ธ.ค. คาด +6.9% YoY (Vs เดือน พ.ย. +7% YoY) / Japan-Reuter Tankan Index เดือน ม.ค. คาด -8 (Vs เดือน ธ.ค. -9)

Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา

- ตลาดหุ้นไทยร่วงต่อเนื่อง: ตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในกรอบ 1513.48 – 1544.11 จุด โดยปรับตัวลดลงตลอดการซื้อขายก่อนรีบาวด์ขึ้นมาปิดตลาดที่ 1519.13 จุด –16.85 จุด –1.10% วอลุ่ม 1.01 แสนล้านบาท นำลงโดยกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ -6.6% สื่อและสิ่งพิมพ์ -1.86% พลังงานและสาธารณูปโภค -1.6% ธนาคาร -1.07% หุ้นบวก >4% NER IRCP CSS SMT TRUBB PLANET SRICHA NRF UV THAI หุ้นร่วง >4% EA DELTA ICHI PSL TTA SIS

- ตลาดหุ้นโลกปิดร่วง: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ลงต่อ ผิดหวังผลกำไรกลุ่มธนาคาร และยอด ค้าปลีกแย่กว่าคาด รวมถึงวิตกไบเดนเก็บภาษีเพิ่ม เพื่อชดเชยขาดดุลงบประมาณ DJIA -0.57% (-177.26 จุด) S&P500 -0.72% Nasdaq -0.87% (ทั้งสัปดาห์ DJ -0.9% WoW S&P500 -1.48% WoW Nasdaq -1.54% WoW) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปกลับมา ปิดลบ DAX -1.44% FTSE -0.97% CAC40 -1.22% วิตกมาตรการล็อกดาวน์ ถ่วงการเติบโตของเศรษฐกิจ (ทั้งสัปดาห์ ตลาดหุ้นยุโรปร่วงลงครั้งแรกนับตั้งแต่กลางเดือน ธ.ค. DAX -1.86% WoW FTSE -2% WoW CAC40-1.67% WoW)

- น้ำมันดิบและทองปิดร่วง: WTI -USD1.21 ปิดที่ USD52.36/บาร์เรล Brent -USD1.32 ปิดที่ USD55.10/บาร์เรล วิตกความต้องการใช้น้ำมันดิบลดลง หลังหลายประเทศเพิ่มมาตรการล็อกดาวน์ ส่วนราคาทองคำดิ่งต่อ -USD21.50 ปิดที่ USD1,829.90 ต่อออนซ์ จากการกลับมาแข็งค่าของเงิน USD (ทั้งสัปดาห์ WTI +0.23% WoW Brent -1.59% WoW ทอง -0.3% WoW)

ประเด็นสำคัญ

+ Fund Flow: สัปดาห์ที่ผ่านมาต่างชาติกลับมาขายตลาดหุ้นเอเชีย 6 ชาติ ไม่รวมญี่ปุ่น -USD 268mn (Vs สัปดาห์ก่อน +USD 4,931mn) แต่ขายเฉพาะเกาหลีใต้ ส่วนตลาดหุ้นไทย ซื้อต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 4 ด้วยปริมาณลดลงเป็น +USD42 mn (Vs สัปดาห์ก่อน +USD175mn)

- USA: ยอดค้าปลีกเดือน ธ.ค. ร่วงเป็นเดือนที่สามเป็น -0.7% MoM (Vs คาด -0% MoM และเดือน พ.ย. -1.4% MoM) เนื่องจากมาตรการล็อกดาวน์และภาคครัวเรือนมีรายได้ลดลง จากการตกงานจำนวนมากขึ้น

- กลุ่มสถาบันการเงิน: BB Consensus คาดกลุ่มธนาคารรายงานกำไรรวม 29,287 ล้านบาท เติบโต -37.2% YoY, -3.2% QoQ โดย TMB กำไรดีสุด-1.2% YoY, TCAP กำไรแย่สุด -80% YoY ส่วนธนาคารฯ ที่ให้ยิลด์ปันผลสูง คือ TCAP LHFG KKP SCB

- USA: CDC เผยการฉีดวัคซีนของ Pfizer ช่วงวันที่ 14-23 ธ.ค. มี 21 ราย จาก 1.9 ล้านราย ที่มีอาการแพ้อย่างรุนแรง และมีอาการแพ้ 11.1 ราย ต่อการฉีดวัคซีน 1 ล้านโดส

- US Earnings: รายงานกำไรดีกว่าคาด แต่ราคาหุ้นวันศุกร์ดิ่ง Citigroup USD2.08 (คาด USD1.34) ราคาหุ้นร่วง 7%, Wells Fargo USD0.64 (คาด USD0.60) ราคาร่วง 8%

- ค่าเงิน USD: วันศุกร์ที่ผ่านมา ค่าเงิน USD +0.7% เป็น 90.78 จุด (+0.8% WoW แข็งค่าสุดในรอบ 11 สัปดาห์) เพราะวิตกต่อการแพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้การ ฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกล่าช้า

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: SCGP TISCO IRPC

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: TISCO KKP IRPC

Derivatives: แนะทยอยปิด Short S50H21 ที่เปิดไว้ เพื่อทำกำไรตามเป้า (ติดตามรายละเอียดเพิ่มใน KTZ-D Report)