ผันผวนจากค่าเงินสหรัฐฯ แข็งค่า ติดตามประกาศผลประกอบการกลุ่มธนาคาร

ผันผวนจากค่าเงินสหรัฐฯ แข็งค่า ติดตามประกาศผลประกอบการกลุ่มธนาคาร

ไบเดนประกาศเป้าหมายการทำงาน 100 วันแรก เกี่ยวกับยอดรับวัคซีน

โดยมีเป้าหมายฉีดวัคซีน 100 ล้านคน (วันละ 1 ล้านคน จากปัจจุบันที่ 4 แสนคน) และ 250 ล้านคน ภายใน 6 เดือน โดยจะมีการประกาศใช้ Defense Production Act ซึ่งจะให้อำนาจรัฐในการบังคับให้ผู้ประกอบการทำการผลิตและส่งมอบสิ่งที่จำเป็นสำหรับการผลิตวัคซีน รวมถึงวัคซีนที่ผลิตแล้วให้รัฐบาลสหรัฐฯ เป็นปัจจัยบวกระยะยาว อย่างไรก็ตามประเด็นเรื่องการแย่งการเข้าถึงวัคซีนซึ่งจะทำให้ประเทศต่างๆอาจได้รับวัคซีนช้าลง รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจช่วงสั้นที่อาจชะลอเพราะผลกระทบของการระบาดระลอกใหม่ในแต่ละประเทศ จะเป็นประเด็นกดดันในระยะสั้นได้

สินทรัพย์เสี่ยงชะลอตัวระยะสั้นจากผลข้างเคียงของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ส่งผลให้ค่าเงินสหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา กดดันให้เกิดแรงทำกำไรระยะสั้นต่อสินทรัพย์เสี่ยงและทำให้มีแรงขายทำกำไรระยะสั้นในตลาดเอเชียและตลาดเกิดใหม่ (Emerging market) ซึ่งเป็นประเด็นที่เรากล่าวถึงในสัปดาห์ที่แล้ว ดังนั้นในระยะสั้นอาจมีแรงทำกำไรในหุ้นขนาดใหญ่ที่เป็นตัวแทนการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ การลงทุนเน้นการซื้อในเชิงตั้งรับ หรือเลือกหุ้นที่ยังปรับขึ้นน้อย ขณะที่หุ้นขนาดกลาง-เล็ก  มีโอกาสถูกหมุนมาเก็งกำไรมากขึ้น

ติดตามงบกลุ่มธนาคารและอาจมีแรวงปรับพอร์ตเตรียมจอง PTTOR ติดตามตัวเลขหนี้เสียกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่จะประกาศงบภายใน 21 ม.ค.นี้ ขณะที่อาจเห็นแรงขายเตรียมเงินเพื่อจอง PTTOR ในช่วงปลาย ม.ค.-ต้นก.พ.นี้ โดยหุ้นกำหนดราคาเสนอขายที่ 16-18 บาท จำนวน 3,000 ล้านหุ้น (รวมกรีนชู 390 ล้านหุ้น) จัดสรรให้รายย่อย 595.70 ล้านหุ้น (จองผ่าน ธนาคารกสิกรไทย, กรุงเทพ, กรุงไทย), กองทุนในประเทศ 1,264.30 ล้านหุ้น และนักลงทุนต่างประเทศ 450 ล้านหุ้น และสำหรับผู้ถือหุ้นของ PTT จำนวน 600 ล้านหุ้น มูลค่าระดมทุน 4.8-5.4 หมื่นล้านบาท จองซื้อ 24 ม.ค.-2 ก.พ., สรุปราคา 3 ก.พ. และคาดเข้าซื้อขาย 11 ก.พ.

ภาพรวมกลยุทธ์ แบ่งทำกำไรในหุ้นที่ปรับขึ้นมากและชะลอการไล่ราคา ระยะสั้นระวังแรงทำกำไรลดความร้อนแรง แต่ยังคงมุมมองเชิงบวกต่อ ภาพระยะกลาง-ยาว และกลยุทธ์เลือกรายตัว โดยเน้นซื้อในเชิงตั้งรับ // หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร AMA*, ETC*, PTG*, CPF*

แนวรับ 1,478-1,520 จุด / แนวต้าน : 1,528 จุด สัดส่วน : เงินสด 60% : พอร์ตหุ้น 40%

 

ประเด็นการลงทุน

แบงก์ชาติมองโควิดรอบใหม่กระทบเศรษฐกิจไม่มาก. ธปท.ระบุว่าการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกสองส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิตไทยไทยไม่รุนแรงเท่าระลอกแรกแม้จะมีขอบเขตการแพร่ระบาดที่กว้างและเร็วกว่า จากมาตรการควบคุมที่เข้มงวดน้อยกว่ารวมถึงพัฒนาการวัคซีนที่มีความชัดเจนมากขึ้น

JPMorgan คาดหุ้นเอเชียโดนผลกระทบจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ. นาย Sullivan หัวหน้านักวิเคราะห์หุ้นเอเชียของ JPMorgan ระบุว่ากระแสเงินทุนมีแนวโน้มไหลออกจากกลุ่มตลาดหุ้นเอเชียกลับสู่สหรัฐจากแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลโจ ไบเดน มูลค่า $1.9 ล้านล้าน

โจ ไบเดน เตรียมเปลี่ยนนโยบายเศรษฐกิจหลังเข้ารับตำแหน่ง. ปธน.โจ ไบเดน เผยเตรียมออกคำสั่ง-เปลี่ยนนโยบายสวนทางรัฐบาลทรัมป์หลังเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีวันที่ 20 ม.ค.นี้

ปลดล็อกซอฟต์โลน 5 แสนล้าน. รัฐบาลหารือแบงก์ชาติ ชงแก้พ.ร.ก.ซอฟต์โลน 5 แสนล้าน เร่งแก้ล็อกกฎหมายแก้ปัญหาโควิด-19 แพร่ระบาดระลอกสอง อุ้มธุรกิจเอสเอ็มอี ขยายเวลาขอกู้ ยืดเวลาชำระหนี้ได้ 5 ปี เพิ่มวงเงินกู้ รัฐรับชดเชยหนี้เสียเพิ่ม 80% เปิดทางแบงก์ขึ้นดอกเบี้ย 5% บาลานซ์ความเสี่ยงหนี้เสีย

 

ประเด็นติดตาม: - 18 ม.ค. : Chinese GDP 4Q63, Chinses Industrial Production เดือน ธ.ค. // 20 ม.ค. : พิธีสาบานตนของประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ // 21 ม.ค. : ECB meeting // 27 ม.ค. – ฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)