‘บิทคับ’รุดแก้ระบบหลังลูกค้าแห่เทรดบิทคอยน์ พร้อมตั้งกองทุน100ลบ. การันตี ‘เงิน”ไม่หาย

‘บิทคับ’รุดแก้ระบบหลังลูกค้าแห่เทรดบิทคอยน์ พร้อมตั้งกองทุน100ลบ. การันตี ‘เงิน”ไม่หาย

“บิทคับ”ผุดกองทุนพิเศษ 100 ล้านบาท การันตี ‘เงินลงทุนไม่หาย’ สร้างความอุ่นใจ และฟรีเครดิตค่าธรรมเนียม 500บาทให้ลูกค้าใหม่หากKYCล่าช้าเกิน24ชม. เหตุราคาคอยน์แตะ1ล้านบาท คนไทยแห่เทรดบิทคอยน์ เว็บ-แอพฯล่ม มียอดลูกค้าโต1,000% และยอดเทรดโต10เท่าในสัปดาห์เดียว ยันขณะนี้ปรับระบบพร้อมแล้ว

นายจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้งเว็บซื้อขายเงินดิจิทัล Bitkub.com  หรือ บิทคับ  เปิดเผยว่า  สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหารองรับการขยายตัวของฐานลูกค้าอย่างรวดเร็วจนทำให้ระบบมีความล่าช้าไปนั้นเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและมั่นใจให้กับลูกค้า

ล่าสุด บริษัทตั้งกองทุนพิเศษ 100ล้านบาทในปีนี้ หรือ Bitkub Customer Protection Fund โดยกองทุนนี้จะเข้ามาดูแลลูกค้าที่ได้รับผลกระทบหรือเกิดปัญหาจริงๆ เช่น การจ่ายค่าเสียโอกาส ซึ่งบริษัทจะพิจารณาเป็นรายกรณี และกำลังพิจารณาว่าจะตั้งกองทุนนี้เป็นการถาวรอีกด้วย

อีกทั้ง สำหรับลูกค้าใหม่ที่ระบบยืนยันตัวตนKYC ล่าช้าเกิน24ชมบริษัทจะให้ฟรีเครดิตค่าธรรมเนียมอัตโนมัติมูลค่า500บาทต่อราย มาใช้ภายใน1เดือนหลังจากได้รับการอนุมัติ  คาดว่าใช้งบดูแลส่วนนี้อีก20ล้านบาท 

ช่วงระบบล่มที่ผ่านมานี้ มีลูกค้าแจ้งมาว่า เงินหาย  แต่จริงๆแล้ว ยืนยันว่า เงินลูกค้าไม่ได้หาย แต่เป็นช่วงปรับระบบทำให้หน้าแอพฯ ยังไม่โชว์จำนวนเงิน ในตอนนี้ปรับระบบแล้วและได้ทยอยแจ้งทำความเข้าใจลูกค้าหมด อีกทั้งเพื่อความรับผิดชอบและทำให้ลูกค้ามั่นใจมากขึ้น เราจึงตั้งกองทุนนี้เพื่อการันตีว่า เงินลงทุนของเขาไม่หายแน่นอน และเงินที่ใช้จัดกองทุนนี้มาจากกำไรของบริษัท ไม่ได้มาจากเงินลงทุนของลูกค้า อีกทั้งมองว่าเงินส่วนนี้คงไม่ได้ใช้ เพียงเราแต่ตั้งขึ้นมาเพื่อให้ลูกค้าอุ่นใจ


นายจิรายุส กล่าวต่อว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ บริษัทได้เร่งแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว ปัจจุบันพร้อมรองรับการขยายตัวของฐานลูกค้าระดับ 1,000%ได้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนปรับปรุงโครงสร้างระบบ รวมทั้งแอพพิลเคชั่นบนมือถือและเว็บไซต์ เพิ่มจำนวนพนักงานปฏิบัติการและติดต่อลูกค้า ระบบคอลเซ็นเตอร์ด้วยเงินลงทุนราว100ล้านบาทภายในสัปดาห์เดียว และในปีนี้เตรียมงบลงทุนไว้ราว400-500ล้านบาท จากปีก่อนลงทุนแล้ว200 ล้านบาท

สำหรับการลงทุนของบริษัทในปีนี้จะเน้นการสร้างความมั่นคงของระบบ การซื้อขายฝากถอนไม่มีปัญหา สร้างประสบการณ์ที่ดีกับลูกค้า และในไตรมาสถัดไปของปียังเตรียมผลิตภัณฑ์ด้วย 

ทางด้านการเติบโตของบริษัทในปีนี้ เราจะเติบโตเกินคาดหมายแน่นอน เพราะปัจจุบันทำได้ตามเป้าหมายแล้ว ที่เดิมบริษัทตั้งเป้าหมายเติบโต1,000 %ในปีนี้ จากปีก่อนเติบโต 600% แต่ในสัปดาห์แรกของปีนี้สามารถเติบโต1,000%ได้แล้ว หลังจากราคาบิทคอยน์แตะ1ล้านบาทในช่วงปีใหม่ จากนั้นแต่ละวันก็มียอดสมัครเข้ามากว่า40,000 คนต่อวัน ยอดเทรดเพิ่มขึ้นถึง10เท่า จาก600ล้านบาทต่อวันเพิ่มเป็น4,500 ล้านบาทต่อวัน

เราก็ไม่คาดคิดมาก่อนถึงการโตเร็วในสัปดาห์เดียวจากเดิมคาดการณ์ใช้เวลาทั้งปี แต่เราก็พยายามปรับระบบภายใน1สัปดาห์ที่ผ่านมา ยอมรับว่า การปรับระบบต้องใช้เวลาพอสมควรเพื่อรองรับการเติบโตสูงในระดับนี้ ระบบอาจล่าช้าไปบ้างและมีความขัดข้องจนทำให้ลูกค้าเกิดความกังวลใจ ก็ทยอยทำความเข้าใจลูกค้าแล้ว ส่วนการยืนยันตัวตนนั่นเราต้องเป็นไปตามมาตรฐานปล่อยผ่านไม่ได้ บางครั้งมาจากความผิดพลาดจากลูกค้าด้วย เช่น ถ่ายรูปไม่ชัด ไม่ได้ถ่ายรูปคู่บัตรประชาชน หรือ การโอนเงินถ้าใช้บัญชีคนอื่นโอนเงินก็จะไม่เข้า เป็นต้น ในส่วนนี้เราจะชี้แจ้งแนวทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมด และอธิบายขั้นตอนต่างๆที่จะทำให้เกิดข้อผิดพลาดต่างๆ เพื่อสร้างให้ความรู้และความเข้าใจกับลูกค้าใหม่ๆอาจไม่คุ้นเคยกับระบบและให้ความรู้กับต่อไป