ข้อคิด 'การลงทุน' ปีฉลู

เปิดบทวิเคราะห์การลงทุนในปี 2564 กับ 3 ข้อคิดสำหรับนักลงทุน ทั้งการลงทุน การใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังด้วยการเตรียมเงินสดให้เพียงพอสำหรับการใช้จ่ายปกติ 6 เดือน ลดการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลง และมองถึงการลงทุนในตัวเอง

สวัสดีปีใหม่ครับท่านผู้อ่านทุกๆ ท่าน ปีนี้เราก็ยังอยู่กับปีที่ยังมีความไม่แน่นอนของทั้งตลาดเงินตลาดทุน ตลอดจนทิศทางของธุรกิจต่างๆ เช่นปีที่แล้ว จะโชคดีหน่อยที่ปีที่แล้วสินทรัพย์เสี่ยงหลายอย่างมีการปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะหุ้นที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี เฮลธ์แคร์ หรือแม้แต่บิทคอยน์ ในขณะที่ตลาดหุ้นของประเทศไทยและประเทศเกิดใหม่เพิ่งกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งในช่วงปลายปี ไม่เหมือนกับตลาดหุ้นเกาหลีใต้ที่ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากได้รับประโยชน์จากการเติบโตของอุตสาหกรรมเทคโนโลยี

เริ่มต้นปีใหม่นี้ผมอยากเขียนข้อคิดของผม เผื่ออาจเป็นประโยชน์ให้ท่านผู้อ่าน โดยผมแบ่งออกเป็นเรื่องๆ ดังนี้

เรื่องแรกเป็นเรื่องเกี่ยวกับการลงทุน อย่างที่ผมเกริ่นไว้ข้างต้น ตลาดหุ้นหลายตลาด สามารถทำผลตอบแทนได้ดีหรือดีมากจนเรียกว่าทำราคาสูงสุดใหม่ แต่ก็ยังมีอีกหลายสินทรัพย์ที่ราคายังปรับขึ้นไปไม่ถึงจุดเดิม ก่อนเกิดวิกฤติโควิด ดังนั้นในปีนี้หลายคน คาดหวังเรื่องของวัคซีนที่น่าจะเข้ามาช่วยให้ชีวิตกลับมาเหมือนเดิม แต่ผมคิดว่าวัคซีนเป็นปัจจัยบวกที่มีผลค่อนข้างมากก็จริง แต่เราคงต้องเผื่อความไม่แน่นอนที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต

ประกอบกับอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำมาก เราคงคาดหวังน้อยลงกับนโยบายการเงิน แต่คาดหวังมากขึ้นของนโยบายการคลังหรือการช่วยเหลือของภาครัฐในประเทศต่างๆ เป็นตัวช่วยการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ตอนนี้อารมณ์ของนักลงทุนส่วนใหญ่ จึงอยู่ในภาวะที่เรียกว่า “พร้อมรับความเสี่ยง” หรือ Risk on ซึ่งส่งผลบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยงโดยรวม

อย่างไรก็ดีภายใต้ความไม่แน่นอนที่ยังคงมีอยู่ ผมอยากเน้นความสำคัญของการกระจายความเสี่ยงในทุกระดับ โดยรวมนั้นเราอาจจัดพอร์ตที่เพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นมากขึ้นกว่าภาวะปกติ แต่จากการที่ตลาดหุ้นหลายแห่งที่ปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างมาก เราอาจปรับน้ำหนักมาลงทุนในตลาดหุ้นของประเทศเกิดใหม่ที่ยังมีโอกาสเติบโตได้จากความคาดหวังการฟื้นตัวหลังวัคซีนโควิด

ในส่วนที่ลงทุนในตราสารหนี้นั้นเราอาจปรับน้ำหนักลดลงจากภาวะปกติได้บ้าง เนื่องจากเราคงคาดหวังน้อยลงจากผลของนโยบายการเงิน แม้ว่าทุกประเทศจะยังคงนโยบายเชิงผ่อนคลายอยู่ และอาจเลือกกองทุนที่มีการลงทุนในหุ้นกู้ภาคเอกชนเพื่อเพิ่มอัตราผลตอบแทน

ด้านสินทรัพย์ทางเลือกกองทุนรีท ที่ผลตอบแทนติดลบค่อนข้างมากในปีที่ผ่านมา เพราะหลายกองทุนเป็นสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวโดยตรง แต่นักลงทุนยังอาจต้องระมัดระวังอยู่ เราอาจเลือกลงทุนเฉพาะกองทุนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวหรือกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานจะปลอดภัยกว่า เพราะยังให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าตราสารหนี้ ส่วนทองคำนั้นเราอาจคงน้ำหนักการลงทุนเท่าปกติ เพราะหลายคนยังมีมุมมองว่าดอลลาร์ยังมีแนวโน้มที่จะทรงตัวหรืออ่อนค่าลงได้ หากมีการใช้นโยบายการคลังเพิ่มขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีไบเดนเข้ารับตำแหน่ง

เรื่องที่สอง ผมอยากให้พวกเราใช้ชีวิตแบบระมัดระวังเหมือนเดิม ทั้งในเรื่องของการเตรียมเงินสดหรือสินทรัพย์ที่ใกล้เงินสดไว้อย่างน้อยเพียงพอสำหรับการใช้จ่ายปกติ 6 เดือน ลดการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลงเพื่อให้เหลือเงินสำหรับการออมและการลงทุนไว้ให้มากขึ้น และถ้าเป็นไปได้เราอาจเริ่มหารายได้จากแหล่งอื่นเพิ่มเติม ถ้าใครที่มีรายได้จากหลายทางอยู่แล้วก็ดีไปหรืออาจเพิ่มสัดส่วนของรายได้จากแหล่งอื่นให้มากขึ้น ส่วนใครที่ยังไม่มีก็ควรรีบคิดและรีบลงมือทำ

ประเด็นที่สาม การลงทุนให้ตัวเองถือเป็นการลงทุนที่สำคัญไม่แพ้การลงทุนอื่น ปีนี้ผมอยากให้ท่านผู้อ่านให้ความสำคัญกับการลงทุนกับตัวเองให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การหาความรู้จากหนังสือ การเรียนคอร์สออนไลน์ที่ปัจจุบันมีให้เลือกมากมาย การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ นอกจากจะทำให้เราแข็งแรงทั้งในปัจจุบันและอนาคต ยังเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันโรคได้ดีอีกด้วย ทำให้เราอาจลดค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลในอนาคตได้ การภาวนาหรือนั่งสมาธิจะช่วยทำให้เรามีภาวะจิตใจที่สดใสและสงบพร้อมรับมือกับปัญหาต่าง ๆที่จะเกิดขึ้นได้ดียิ่งขึ้น

หวังว่าบทความนี้คงเป็นประโยชน์ต่อท่านผู้อ่านในการเริ่มต้นปีใหม่นี้ไม่มากก็น้อย และท้ายสุดนี้ผมก็ขออวยพรให้ท่านผู้อ่านทุกๆ ท่านมีความสุข ปลอดภัยจากโรคและอุบัติเหตุใดๆ และโชคดีในการลงทุนตลอดปีฉลูนี้ครับ