7 อุปนิสัย วิถีสู่ความสำเร็จ

7 อุปนิสัย วิถีสู่ความสำเร็จ

7 อุปนิสัยที่ช่วยให้ประสบความสำเร็จ และสามารถฝ่าวิกฤติการณ์ภายใต้สภาพเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ไปได้

ต่อเนื่องจากตอนที่แล้ว ที่จะมาเล่าถึงอุปนิสัยที่จะนำให้เราประสบความสำเร็จได้ ในภาวะปัจจุบันที่ต้องเผชิญกับโรคระบาดและเศรษฐกิจที่ผันผวนนี้ 

โดยเริ่มต้นที่ประการที่ 1 มีความคิดริเริ่ม และรับผิดชอบต่อความคิดริเริ่มนั้นให้กลายเป็นจริงได้ นั่นคือต้องกล้าคิด และกล้าลงมือทำ ไม่ใช่คิดเพียงอย่างเดียว หรือนำเสนอเพียงอย่างเดียวแต่ไม่กล้ารับผิดชอบเพราะกลัวทำไม่สำเร็จ หรือกลัวที่จะต้องทำงานหนัก

ประการที่ 2 มีจุดเริ่มต้นที่ดี และเป็นไปได้เสมอ นั่นคือเมื่อคิดริเริ่มและมีเป้าหมายที่ดีแล้ว ต้องมีแผนงานรองรับที่เป็นไปได้ด้วย เช่น จะไปสู่เป้าหมายที่ 100 ก็ต้องมีขั้นตอนก่อนว่า 1-10 ต้องทำอะไร และถัดจากนั้น 11-50 ต้องทำอะไร ก่อนจะค่อย ๆ ไปสู่เป้าหมายที่ต้องการในท้ายที่สุด

ประการที่ 3 ต้องรู้จักลำดับความสำคัญ และต้องรู้ว่าสิ่งใดควรทำก่อน สิ่งใดควรทำทีหลัง หรืออะไรที่เป็นสิ่งดีแต่ไม่ได้สำคัญถึงขั้นขาดไม่ได้ เพราะบางครั้งเรามักใช้เวลาไปกับเรื่องที่ดูเหมือนจะดีต่องานแต่มันอาจเป็นเพียงแค่ส่วนเสริมที่มีก็ได้ไม่มีก็ได้ จนสุดท้ายก็เหลือเวลาสำหรับเรื่องที่จำเป็นต้องทำจริง ๆ น้อยเกินไป

ประการที่ 4 ต้องเน้นการสร้างความสำเร็จในภาพรวม ไม่ใช่แค่ตัวเองหรือบริษัทของตัวเองเท่านั้น แต่ต้องเป็นผู้คนรอบข้างทั้งเพื่อนร่วมงาน ลูกค้า ผู้ถือหุ้น สังคม ฯลฯ นั่นคือต้องมองให้รอบด้านถึงประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นจากสิ่งที่เราจะทำ อย่าคิดแค่ว่าตัวเราจะได้อะไร แต่ต้องคิดว่าลูกค้าจะได้อะไร เพื่อนร่วมงานจะได้อะไร

ประการที่ 5 ต้องรู้เขารู้เรา คือเรียนรู้จากผู้คนรอบข้างอยู่เสมอ ดังเช่นภาษิตจีนโบราณที่สอนว่าคน 3 คนที่เดินอยู่หน้าเรานั้นอาจมี 1 คนที่เป็นครูให้เราได้ แม้ว่าเขาคนนั้นจะเป็นคู่แข่งก็ต้องทำให้เขาเห็นว่าเราเปิดเผยและยอมรับนับถือเขาเสมอเพราะแม้จะเป็นคู่แข่ง แต่การได้รู้จักและได้เรียนรู้จากเขา ย่อมทำให้เราได้มุมมองความคิดที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น ยิ่งถ้าเขาเปิดใจให้เราได้เรียนรู้ยิ่งทำให้เราได้ประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้น ถึงจะเป็นคนละธุรกิจหรือคนละด้านกับที่เราเชี่ยวชาญแต่แง่มุมใหม่ ๆ ที่ได้รู้ช่วยให้เราทำงานได้ดีขึ้น 1% ก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว

ประการที่ 6 ต้องรู้จักร่วมมือกับผู้อื่น อย่าคิดจะสำเร็จแต่เพียงลำพังเพราะการแข่งขันของโลกธุรกิจในทุกวันนี้เป็นไปได้ยากที่บริษัทเดียวจะเชี่ยวชาญได้ทุกเรื่อง การมีพันธมิตรที่ดีและร่วมมือกันย่อมมีโอกาสสร้างสำเร็จที่ใหญ่กว่าได้เสมอความร่วมมือนี้ครอบคลุมไปจนถึงงานภาครัฐที่เราเห็นแล้วว่าทุกวันนี้การบริหารราชการโดยไม่มีความร่วมมือระหว่างกระทรวงเลยแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะขับเคลื่อนประเทศได้สำเร็จ เพราะทุกกระทรวงจำเป็นต้องผนึกกำลังและกำหนดให้มีเป้าหมายร่วมกัน

ประการที่ 7 ต้องหมั่นเรียนรู้อยู่เสมอ เพราะประสบการณ์ที่เราสะสมมาตลอด 15-20 ปีกำลังจะหมดความสำคัญลงเรื่อย ๆ เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงในโลกธุรกิจและอุตสาหกรรม ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงทั้งธุรกิจ อุตสาหกรรม การเมืองและสังคม

ธุรกิจใหม่ที่เกิดขึ้นและประสบความสำเร็จในห้วงเวลานี้ส่วนมากใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นกลไกหลักในการตอบสนองพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งมีจำนวนไม่น้อยเข้ามาแทนที่ธุรกิจเดิมที่ไม่สามารถปรับตัวได้การหมั่นเรียนรู้สิ่งใหม่จึงช่วยให้เราก้าวทันความเปลี่ยนแปลงและหาทิศทางที่ถูกต้องเพื่อเติบโตต่อไปในอนาคตได้ โดยต้องมองให้ออกว่าการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคนั้นทำให้บทบาทของเราเปลี่ยนไปอย่างเรา หรือจะมีช่องว่างให้เราตอบสนองความต้องการนั้นได้อย่างไร

อุปนิสัยทั้ง 7 ประการนี้ จะช่วยให้เราฝ่าวิกฤตการณ์ภายใต้สภาพเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรค Covid 19 และความไม่แน่นอนต่างๆในอนาคตที่ไม่สามารถคาดเดาได้ การหันมายกระดับความพร้อมของตัวเราเองจึงเป็นเรื่องสำคัญที่สุด