แกว่งตัว รอปัจจัยใหม่

แกว่งตัว รอปัจจัยใหม่

คาดนักลงทุนจะจับตาไปที่การประกาศแผนกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของนายโจ ไบเดน

ตลาดหุ้นวานนี้

SET ปิดที่ 1,547.31 จุด +7.46 จุด (+0.48%) มูลค่าการซื้อขาย 1 แสนล้านบาท โดยเป็นแรงซื้อในกลุ่มหลัก เช่น พลังงาน โรงไฟฟ้า ปิโตรเคมี ตามราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้น รวมถึงความคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของสหรัฐ อย่างไรก็ตามดัชนีสลับอ่อนตัวลงจาก Valuation ที่ตึงตัว

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้     

คาด SET แกว่งตัว 1,535 – 1,560 จุด เนื่องจากคาดว่านักลงทุนจะจับตาไปที่การประกาศแผนกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของนายโจ ไบเดน ,สถานการณ์การเมืองในสหรัฐหลังสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ รวมถึงการประกาศงบปี 2563 ของกลุ่มธนาคารในช่วงกลางเดือนม.ค. นอกจากนี้ Fund flow ต่างชาติที่เริ่มชะลอตัวจะเป็นอีกปัจจัยให้ดัชนีผันผวน

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

  • หุ้น Green energy และ EV car: EA  GPSC  KCE
  • PTTEP PTTGC TOP IVL ราคาน้ำมันดิบอยู่ระดับสูงและคาดงบ 4Q20 โต 
  • กลุ่มเดินเรือ PSL TTA RCL ค่าระวางเรือมีแนวโน้มปรับตัวขึ้น

หุ้นแนะนำวันนี้

  • TOP (ปิด 60 ซื้อ/เป้า 64) คาดกำไรสุทธิ 4Q20 เพิ่มขึ้นเป็น 6.9 พันล้านบาท+859%qoq และ +246%yoy กำไรการดำเนินงานเป็นบวก และมีกำไรจาก Stock gain, FX Gain รวมถึงกำไรจากการขายเงินลงทุนในหุ้น GPSC
  • CBG (ปิด 119.5 ซื้อ/เป้า 145) คาดการณ์กำไรสุทธิ 4Q20 พุ่งทำ New high มาตรการคนละครึ่งและผลิตภัณฑ์ใหม่ Woody C+ Lock หนุนยอดขาย ขณะที่ต้นทุนลดลงจากการเดินเครื่องโรงงานผลิตขวดและแพ็คเกจจิ้งเอง

บทวิเคราะห์วันนี้

HMRPO (ปิด 13.8 ซื้อ/เป้า 16.2), LH (ปิด 8.3 ซื้อ/เป้า 9.1), TOP (ปิด 60 ซื้อ/เป้า 64)

ประเด็นสำคัญวันนี้

  • (-) สภาผู้แทนฯ สหรัฐมีมติถอดถอน ทรัมป์ ออกจากต่ำแหน่ง ปธน.: ด้วยคะแนนเสียง 232 ต่อ 197 จากข้อหาปลุกระดมมวลชนบุกอาคารรัฐสภาเพื่อขัดขวางกระบวนการประกาศรับรองชัยชนะของนายโจ ไบเดน เมื่อวันพุธที่ผ่านมา หลังจากนี้สภาผู้แทนฯจะส่งญัตติการถอดถอนปธน.ทรัมป์ให้กับวุฒิสภาสหรัฐเพื่อพิจารณาเป็นลำดับต่อไป
  • (+/-) คืนนี้ติดตามสหรัฐออกมาตรการกระตุ้น ศก. ชุดใหม่: ตลาดคาดหมายกันว่า โจ ไบเดน จะประกาศมาตรการกระตุ้น ศก.ชุดใหม่หลายล้านล้านดอลลาร์ในวันนี้ ปัจจัยนี้มีความสำคัญต่อการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐและตลาดหุ้นทั่วโลก โดยเฉพาะหากมาตรการนี้ออกมาน้อยกว่าที่ตลาดคาดไว้จะทำให้นักลงทุนเทขาย sell on fact หรือขายทำกำไรออกมากดดันตลาด
  • (-) น้ำมันดิบลดลงหลังสต๊อกน้ำมันสำเร็จรูปของสหรัฐเพิ่มขึ้นเกินคาด: EIA รายงานสต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐลดลง 3.2 ล้านบาร์เรลมากกว่าที่ Consensus คาดว่าจะลดลง 1.9 ล้านบาร์เรล อย่างไรก็ตามในส่วนของสต๊อกน้ำมันสำเร็จรูปกลับเพิ่มขึ้นโดยสต๊อกน้ำมันเบนซินและดีเซลเพิ่มขึ้น 4.4 และ 4.8 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 2.1 และ 1.9 ล้านบาร์เรล ตามลำดับ