วิเคราะห์สถานการณ์"ราคาน้ำมัน" (14 ม.ค.64)
ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น ขณะที่ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ลดลง
- ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนท์ปรับลด หลังความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกได้รับแรงกดดันจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้หลายประเทศในทวีปยุโรปยกระดับมาตรการล็อกดาวน์ให้มีความเข้มข้นและยาวนานขึ้น นอกจากนี้ จีนยังพบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 5 เดือน
+ สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 8 ม.ค. 64 ปรับตัวลดลง 3.2 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 482.2 ล้านบาร์เรล ลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะปรับตัวลดลงเพียง 2.3 ล้านบาร์เรล หลังโรงกลั่นในสหรัฐฯ เพิ่มกำลังการผลิต
+ ซาอุดิอาระเบียปรับลดปริมาณการจัดสรรน้ำมันดิบให้แก่โรงกลั่นน้ำมันบางแห่งในทวีปเอเชียในเดือน ก.พ. 64 หลังสมัครใจปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลง 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยโรงกลั่น 2 แห่งในเอเชียเหนือถูกลดการจัดสรรน้ำมันดิบลง 10% ขณะที่ โรงกลั่น 3 แห่งในอินเดียถูกลดการจัดสรรลง 15 - 26%
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น ท่ามกลางความต้องการใช้ในภูมิภาคเอเชียที่ได้รับแรงกดดันจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังความต้องการใช้น้ำมันดีเซลในภูมิภาคยังคงทรงตัว ท่ามกลางแรงกดดันจากอุปทานน้ำมันดีเซลในภูมิภาคเอเชียและตะวันออกกลางที่ปรับเพิ่มขึ้น