Sideway

Sideway

ตลาดหุ้นวานนี้ปิดปรับตัวขึ้นราว 7 จุด ตามทิศทางตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่ที่อยู่ในแดนบวก ประกอบกับดัชนีภายในประเทศได้แรงหนุนจากกลุ่ม ENERG ที่ปรับตัวขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมัน

ขณะที่จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ภายในประเทศเริ่มเห็นตัวเลขที่ลดลง อย่างไรก็ดี ดัชนีลดช่วงบวกจากขึ้นไปบวกสูงสุดกว่า 20 จุด คาดนักลงทุนขายทำกำไรหลังจากดัชนีปรับตัวขึ้นหลายวัน และชะลอการลงทุนก่อนเข้าสู่ช่วงประกาศผลประกอบการงวด 4Q63 โดยดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,547.31 จุด 7.46 จุด 0.48% มูลค่าการซื้อขาย 106,700 ลบ. ต่างชาติ +124.47 ลบ. TFEX +417 สัญญา ตราสารหนี้ -2,400 ลบ.

ปัจจัยบวก

+สหรัฐเผยจำนวนผู้ขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยพุ่ง เหตุกังวลดอกเบี้ยดีดตัว
+/-สหรัฐเผยดัชนี CPI ดีดตัว 0.4% ในเดือนธ.ค. สอดคล้องคาดการณ์
+ก.คมนาคมกางแผนงบลงทุนปี 65 ดันโลจิสติกส์ 3.27 แสนลบ. 86 โครงการทั่วประเทศ
+ม.หอการค้าไทย คาด"เราชนะ" ช่วยดัน GDP ปีนี้มีโอกาสโตได้มากกว่า 2.5%
+ เงินบาทเช้านี้เปิด 30 บาท แข็งค่าจากดอลลาร์อ่อนค่า นักลงทุนต่างชาติทยอยขายบอนด์ไทยติดต่อกันเป็นวันที่ 7
-ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดลดลง 9.69 จุด -0.27%
+ดัชนีนิกเกอิปิดเพิ่มขึ้น 292.25 จุด +1.04% และแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 30 ปีเช้านี้เปิดบวกจากหุ้นเทคโนโลยีปรับขึ้นตาม Nasdaq

ปัจจัยลบ

-ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 8.22 จุด -0.03% หลังสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติถอดถอนปธน.ทรัมป์และกำลังส่งต่อญัตติการถอดถอนให้วุฒิสภาพิจารณา
-ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 30 เซนต์ -0.6% ปิดที่ $52.91 ต่อบาร์เรล ได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์และสต็อกน้ำมันเบนซินและน้ำมันกลั่นที่เพิ่มขึ้นมากกว่าคาด
-รัฐบาลเนเธอร์แลนด์และเยอรมันส่งสัญญาณว่าอาจล็อคดาวน์ต่ออีก 3 ถึง 8 สัปดาห์จากการแพร่ระบาดของโควิด-19
-ญี่ปุ่นประกาศภาวะฉุกเฉินเพิ่มอีก 7 จังหวัดเพื่อสกัดโควิด-19
-การแพร่ระบาดของโควิด-19 ภายในประเทศ ขณะที่วัคซีนซิโนแวคของจีนชนิดเดียวกับที่ไทยจะนำเข้า 2 ล้านโดสมีข่าวผลทดลองจากประเทศบราซิลว่ามีปสภ.แค่ 50.4%

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในลักษณะ Sideway ออกข้าง โดยนักลงทุนจับตาสถานการณ์การเมืองในสหรัฐ โดยล่าสุดสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แล้ว และกำลังส่งให้วุฒิสภาพิจารณาต่อ ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังขาดปัจจัยใหม่เข้ากระทบตลาด คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,535-1,560 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

• หุ้นได้ประโยชน์จากการ Work from home : ADVANC DTAC TRUE JAS COM7 SIS SYNEX VCOM IIG AS YGG
• Defensive และได้ผลดีจากนโยบายไบเดน : BGRIM GPSC
• Laggard play : ADVANC INTUCH BBL
• Value play : STANLY IRC TSC JUBILE XO BIZ SKN LALIN HARN
• หุ้นเด่น IAA : ADVANC BDMS CPALL KBANK PTTGC

หุ้นรายงานพิเศษ

            INSET : เทรนด์ 5G หนุนผลประกอบการปี 64

• แนวโน้มผลประกอบการ 4Q63 ยังอยู่ในทิศทางที่ดี บริษัทคาดว่าจะยังเติบโต YoY ได้ ซึ่งจะส่งผลให้ผลประกอบการปี 2563 เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ว่าจะมีการเติบโต 10-15% โดยการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด -19 เป็นแรงกระตุ้นให้เอกชนเร่งขยายการลงทุนด้านไอทีมากขึ้นทำให้บริษัทมีโอกาสได้รับงานใหม่ต่อเนื่อง

• ทิศทางผลการดำเนินงานปี 64 บริษัทคาดว่าจะยังเติบโตได้โดดเด่น เพราะจะมีงานประเภท Data Center และโครงข่าย 5G เข้าสู่ระบบจำนวนมาก โดยคาดว่าจะเห็นการลงทุนใหม่หลายโครงการ เนื่องจากปัจจุบันกลุ่มผู้ประกอบการโอเปอเรเตอร์รายใหญ่ ได้มีการวางแผนการลงทุนไว้แล้ว โดยมูลค่าโครงการรวมกว่า 3-4 หมื่นล้านบาท โดยล่าสุดบริษัทเพิ่งได้งานโครงการงานก่อสร้างและงานปรับปรุงสถานีโทรศัพท์เคลื่อนที่ มูลค่ารวม 250 ล้านบาท จากบริษัท ไวร์เออ แอนด์ ไวร์เลส จำกัด อายุสัญญา 1 ปี ส่งผลให้มียอด Backlog ปัจจุบันอยู่ที่ 2.9 พันล้านบาท

• ความเห็น : เรามองว่าหุ้นกลุ่มรับเหมาวางระบบ ICT จะได้รับความสนใจในปี 64 นี้ เนื่องจากโอเปอเรเตอร์ทยอยเปิดให้บริการ 5G ซึ่งจะส่งผลให้เม็ดเงินใหม่ไหลเข้าอุตสาหกรรม ประกอบกับความต้องการใช้การ Data Center ที่เพิ่มสูงขึ้น ตามกระแส New Normal ปัจจุบัน INSET ซื้อขาย PER ที่ระดับ 14.8 เท่า ซึ่งต่ำกว่า PER กลุ่ม ICT ที่ 21.6 เท่า จึงแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร”

หุ้นมีข่าว

(+) JAS Bloomberg Consensus 3.56 บาท) เตรียมส่งบริษัทย่อย JSTC เจรจาประนีประนอมกับ NT เพื่อยุติข้อพิพาทคดีชำระส่วนแบ่งรายได้ตามสัญญาร่วมลงทุนสร้างโครงข่ายเคเบิลใต้น้ำที่ค้างมากว่า 10 ปี คาดได้ข้อสรุปภายในไตรมาส 2/64 จ่อบันทึกเงินสดพร้อมดอกเบี้ยกว่า 4.5 พันล้านบาท (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) ACE (Bloomberg Consensus - บาท) เซ็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) โรงไฟฟ้าคลองขลุง กำลังการผลิตติดตั้ง 20 เมกะวัตต์ พร้อมลุ้นเซ็น PPA โครงการ SPP Hybrid ที่เหลืออีก 3 โครงการ ก้าลังผลิตรวม 73 เมกะวัตต์ในเร็วๆ นี้ เล็งร่วมชิงโรงไฟฟ้าชุมชนนำร่อง-โรงไฟฟ้าขยะชุมชน (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) AUCT (Bloomberg Consensus 13.60 บาท) ส่งสัญญาณจำนวนรถยึดจากไฟแนนซ์พุ่งขึ้น เตรียมพร้อมเคลียร์พื้นที่จัดเก็บรถ 3-4 หมื่นคัน เน้นเจาะฐานผู้ใช้งานโดยตรง ลุยประมูลช่องทางออนไลน์ 40-50% ฟากโบรกคาดกำไรไตรมาส 4/2563 ฟื้นตัว หลังลูกหนี้หมดมาตรการช่วยเหลือ มอง Dividend Yield ยังจูงใจราว 3.8-4.8% ต่อปี (ที่มา ทันหุ้น)

(+) EA (Bloomberg Consensus 56.85 บาท) จับมือ TFG ลุยโซลาร์ลอยน้ำ ประเดิมจ่ายไฟ 4 โรงงาน ขนาดกำลังการผลิตรวม 13.78 เมกะวัตต์ เผยช่วยประหยัดต้นทุนค่าใช้จ่ายพลังงานไฟฟ้าและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เล็งต่อยอดไปสู่โปรเจ็กต์โซลาร์รูฟท็อปในอนาคต ด้าน AI คว้างานก่อสร้างสถานีไฟฟ้าศรีราชา 2 ของกฟภ. มูลค่า 200.70 ล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

ปัจจัยจับตา

ในประเทศ 

ภายใน 21 ม.ค. หุ้นธนาคารส่งงบการเงินประจ้าปี 63 คาดการณ์วันส่งงบ : 18 ม.ค. TISCO lภาธุรกิจตลาดทุนไทย แถลงดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน
สภาผู้ส่งออกแถลงสถานการณ์การส่งออก

29 ม.ค. ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย

3 ก.พ. ประชุมกนง.นัดแรก

ต่างประเทศ

14 ม.ค. ญี่ปุ่นเปิดยอดสั่งซื้อเครื่องจักรเดือนพ.ย.

           จีนเปิดเผยดุลการค้าเดือนธ.ค.

           ยอดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) เดือนธ.ค. ยอดขายรถเดือนธ.ค. ยอดปล่อยกู้สกุลเงินหยวนเดือนธ.ค.

           สหรัฐ เปิดเผย จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ราคานำเข้าและราคาส่งออกเดือนธ.ค.

20 ม.ค. พิธีสาบานตนรับตำแหน่งของว่าที่ปธน.สหรัฐของนายโจ ไบเดน