หยวนต้ายก ‘RS’กำไรโดดเด่น สวนกระแสโควิด

หยวนต้ายก ‘RS’กำไรโดดเด่น สวนกระแสโควิด

บล.หยวนต้า ยก “RS” กำไรปี 2564 โดดเด่น สวนกระแสโควิดระบาด คาดกวาดกำไร 685 ล้านบาท เพิ่มจากปีก่อน 31% จากธุรกิจ RS Mall ที่เป็นสินค้าแมส

บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) จำกัด คาดกำไรสุทธิ 4Q63 ของบริษัทอาร์เอส จำกัด(มหาชน) หรือ RS  ที่ 112 ล้านบาท (-14%QoQ , +70YoY) โดยยอดขายสินค้า RS MALL ยังทำสถิติสูงสุดต่อเนื่องที่ 666 ล้านบาท (+4%QoQ,+43%YOY)  จากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ในสินค้า กลุ่ม food supplement กอปรกับการจัดโปรโมชั่นช่วยกระตุ้นยอดขายช่วงปลายปี  โดยสินค้าที่ขายดีจะเป็นกลุ่มสินค้าเพื่อสุขภาพ และกลุ่มสินค้าประเภท lifestyle 

ส่วนธุรกิจสื่อทีวีดิจิทัล แม้ว่ารายได้จะชะลอตัวตามอุตสาหกรรมโฆษณา แต่คาดประสิทธิภาพในการทำกำไรดีขึ้นเนื่องจากผลบวกมาตรการช่วยเหลือจาก กสทช.ซึ่งไม่ต้องจ่ายค่า MUX และค่าใบอนุญาต งวดที่ 5–6

ภาพรวมปี 2563 เราคงประมาณการกำไรที่ 524 ล้านบาท +44%YoY  ซึ่งผลประกอบการของ RS ถือว่าดีกว่ากลุ่มทีวีดิจิทัลรายอื่นๆ เนื่องจากปัจจุบันสัดส่วนรายได้กว่า 70% มาจากธุรกิจขายสินค้า ซึ่งได้รับผลกระทบต่ำกว่ากลุ่มผู้ประกอบการทีวี และยังได้แรงหนุนจากการขายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ ที่รับรู้รายได้ในปีนี้ราว 200 ล้านบาท ในด้านประสิทธิภาพในการทำกำไรคาดว่าจะดีขึ้น เนื่องจากรายได้จากการขายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ของบริษัทเองมีต้นทุนที่ต่ำมาก  และได้ผลบวกจากมาตรการช่วยเหลือทีวีดิจิทัล  

คาดปี 64 จะเติบโตโดดเด่นต่อเนื่อง     

แนวโน้มปี 2564 เราคาดกำไรเติบโตดีต่อเนื่อง 31%YoY เป็น 685 ล้านบาท ซึ่งหลักๆคาดว่ายังคงมาจากธุรกิจขายสินค้า RS Mall จากการขยายตลาดสินค้าที่เป็น MASS อาทิ ตลาดรังนก  ตลาดอาหารสัตว์ และการเพิ่มสินค้าใหม่มากขึ้น ส่วนสินค้าจากพาร์ทเนอร์จะเพิ่มขึ้นเป็น 110 SKU ในปี 2564 จากปีนี้ที่ 75 SKU และ บริษัทเพิ่มช่องทางการขายใหม่ ได้แก่ Watson, Boots และช่องดาวเทียม

ส่วนประเด็นข่าวที่ทางกลุ่มแพทย์ชนบท จี้ให้ กสทช.คุมโฆษณาถั่งเช่า และตัดออกจากรายการอาหารสุขภาพ ซึ่งผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับถั่งเช่ าถือเป็นหนึ่งในสินค้าขายดีสัดส่วนราว 6% ของยอดขาย ซึ่งบริษัทแจ้งว่ายังไม่เห็นผลกระทบ และในปี 2564 จะมีสินค้าตัวใหม่ๆมาทดแทนได้

ขณะที่อุตสาหกรรมทีวีดิจิทัลคาดว่าจะฟื้นตัวตามอุตสาหกรรมโฆษณา และบริษัทยังมีแผนในการรุกตลาด OTT โดยการจับมือกับพันธมิตร บริษัท iQIYI ซึ่งถือเป็นเจ้าของแพลต์ฟอร์มวีดีโอออนไลน์ อันดับหนึ่งของประเทศจีน โดยร่วมผลิตละครฉายพร้อมกัน 2 ประเทศ แบบคู่ขนาน (Simulcast) ทั้งหมด 10 เรื่อง เพิ่มจากปี 63 ที่มี 1 เรื่อง ซึ่งคาดการรายได้จากการขายลิขสิทธิ์ปีหน้าที่ราว 240 ล้านบาท 

คงคำแนะนำ “ซื้อ”

เราคงมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการ RS ที่เติบโตดีกว่าเมื่อเทียบกับกลุ่มทีวีดิจิทัลรายอื่นๆ จากกลยุทธที่เน้นการเติบโตจากธุรกิจขายสินค้าแทนธุรกิจทีวีดิจิทัลที่เป็นขาลง และในปีนี้ยังได้แรงหนุนจากการขายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ มาช่วยชดเชยผลกระทบจาก COVID-19  โดยคาดกำไรปีนี้เติบโต 44%YoY และปี 64 เติบโตต่อเนื่อง 31%YoY ซึ่งคาดว่าจะรับผลบวกเต็มปีจากการขยายธุรกิจขายสินค้าที่เป็น Mass มากขึ้น อีกทั้งมีแผนการควบรวมกิจการ (M&A) ในธุรกิจที่มช่วยเสริมธุรกิจขายสินค้า ทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ ไปจนถึงปลายน้ำ  ซึ่งคาดเห็นความชัดเจนใน 1Q64 

เรามีการปรับมูลค่าพื้นฐานปี 2564 จากเดิมที่ 20.10 บาท  เป็น 23.40 บาท จากการประเมินมูลค่าด้วยวิธี DCF เราปรับสมติฐาน Rm จากเดิมที่ 10% เป็น 9% ส่งผลให้  WACC ปรับลดลงจากเดิมที่ 8.5% เหลือ 7.8%