“เกษตร”วางนโยบายปี65 เน้นยกระดับเทคโนโลยี

“เกษตร”วางนโยบายปี65 เน้นยกระดับเทคโนโลยี

เกษตรฯ แจงนโยบายสำคัญปี 65 มั่งเน้นการนำเทคโนโลยีปรับปรุงการผลิต เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก และนำภาคเกษตรสู่ความยั่งยืน

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการประชุมแนวทางการจัดทำงบประมาณปี 2565 ว่า กระทรวงเกษตรฯเกี่ยวข้องกับคนส่วนใหญ่ของประเทศ ที่ยังต้องการการสนับสนุนในด้านต่าง ๆ หากสร้างความเข้มแข็งภาคการเกษตรได้ ก็จะช่วยสร้างความมั่นคงให้กับประเทศ

โดยแนวทางหลัก ๆ จะเข้าไปส่งเสริมในด้านเทคโนโลยีมากขึ้น ได้แก่ 1. การใช้ประโยชน์จากฐานข้อมูล Big Data ในการเชื่อมโยงการทำการเกษตรร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยให้เจ้าหน้าที่และเกษตรกรมีข้อมูลที่ดีและเพียงพอต่อการตัดสินใจที่ถูกต้องและเหมาะสม เพื่อใช้ประโยชน์ในการวิเคราะห์และวางแผนด้านการเกษตรได้อย่างทันต่อสถานการณ์ 2. การพัฒนาช่องทางการตลาดให้กับเกษตรกร โดยเพิ่มช่องทางตลาดให้หลากหลาย ทั้งในรูปแบบตลาดออนไลน์และออฟไลน์ 3. มาตรฐานการรับรองสินค้าเกษตร เพราะทั่วโลกให้ความสำคัญต่อความปลอดภัย จึงต้องมีเครื่องมือที่ทันสมัยและเป็นที่ยอมรับจากนานาชาติ

4. การลดต้นทุนการผลิต เพื่อสร้างโอกาสในการแข็งขัน 5. การพัฒนาเมล็ดพันธุ์ให้มีคุณภาพ การพัฒนาพันธุ์พืช สัตว์ ประมง เพื่อให้เกษตรกรมีพันธุ์พืช-พันธุ์สัตว์คุณภาพดี มีความหลากหลาย และเพียงพอกับความต้องการใช้ในการทำการเกษตร 6. การบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ มีการกระจายน้ำอย่างเหมาะสมและทั่วถึง รวมทั้งพัฒนาแหล่งน้ำในไร่นาของเกษตรกรและชุมชน เพื่อให้เกษตรกรมีน้ำเพียงพอสำหรับใช้ในการอุปโภคบริโภคและทำการเกษตร ป้องกันและบรรเทาปัญหาอุทกภัย 7. การป้องกันโรคระบาดจากพืชและสัตว์ ช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของสินค้าเกษตร และ8. การส่งเสริมอาชีพ ทั้งด้านประมงและปศุสัตว์

"กระทรวงเกษตรฯ มีเป้าหมายกระตุ้นการสร้างเศรษฐกิจรากฐานให้กับประเทศ จึงดำเนินการตามกรอบยุทธศาสตร์ชาติ โดยเร่งผลักดันแผนงานต่างๆ เพื่อยกระดับรายได้เกษตรกรให้สูงขึ้น"

ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ในด้านของการตลาด กระทรวงเกษตรฯ มุ่งเน้นในการขยายตลาดให้กับเกษตรกร โดยในส่วนของ อ.ต.ก. พร้อมขับเคลื่อนภารกิจในการเป็นตลาดกลางให้กับเกษตรกร นอกจากนี้ ยังมุ่งเน้นภารกิจของกรมฝนหลวงและการบินเกษตรเพื่อสนับสนุนภารกิจในด้านการเพิ่มปริมาณน้ำด้วย

นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า พร้อมดำเนินภารกิจในการส่งเสริมระบบสหกรณ์และการอบรมในด้านการทำบัญชีสหกรณ์ เพื่อเป็นรากฐานในการสร้างความมั่นคงให้กับเกษตรกร นอกจากนี้ ยังเน้นนำงานวิจัยมาช่วยพัฒนาการทำการเกษตร เพื่อให้เกษตรกรสามารถลดต้นทุนได้อีกทางหนึ่ง

นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ประชากรในประเทศไม่น้อยกว่า 40 ล้านคน มีอาชีพที่เกี่ยวข้องกับด้านเกษตรกรรม กระทรวงเกษตรฯ จึงต้องมีการสนับสนุนในด้านต่าง ๆ โดยในส่วนของกรมที่กำกับดูแล จึงต้องมีการทำงานเชิงรุก ทั้งด้านปศุสัตว์ ในการสนับสนุนการปรับเปลี่ยนอาชีพและการป้องกันโรคต่าง ๆ เป็นต้น รวมถึงการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวให้เพียงพอและได้คุณภาพด้วย