ไซด์เวย์

ไซด์เวย์

ตลาดการเงินโลกยังคงมีความกังวลต่อการพุ่งขึ้นเร็วของบอนด์ยิลด์สหรัฐฯ ซึ่งจะส่งผลลบต่อระดับของค่าพีอีของตลาดหุ้นได้

มุมมอง SET Index: ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินดัชนีฯ วันอังคารเทรดไซด์เวย์... หลังจากเมื่อวานนี้หุ้นไทยผันผวนตลอดทั้งวันก่อนปิดแทบไม่เปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ ณ ระดับดัชนีสูงสุดของวันที่ 1,550 จุดนั้น พบว่ามีอัพไซด์เหลือเพียง 2.6% จากเป้าหมายดัชนีฯ ไตรมาส 1/2564 ที่เรามองไว้ที่ 1,590 จุด ดังนั้น การปรับฐานของตลาดหุ้นไม่ได้นอกเหนือความคาดหมายนัก สำหรับในวันนี้ ตลาดการเงินโลกยังคงมีความกังวลต่อการพุ่งขึ้น เร็วของบอนด์ยิลด์สหรัฐฯ ซึ่งจะส่งผลลบต่อระดับของค่าพีอีของตลาดหุ้นได้ (ตามสูตรการคำนวณเชิงวิชาการ) ผนวกกับตลาดรับรู้ปัจจัยบวกในช่วงก่อนหน้านี้ไปมากแล้ว ไม่ว่าจะเป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ รวมทั้งการทยอยฉีดวัคซีนของประเทศต่างๆ ดังนั้น ฝ่ายวิจัยฯ มองว่าการปรับฐานของ SET Index น่าจะเกิดขึ้นในระยะหนึ่ง

ปัจจัยต่างประเทศ - เป็นลบเล็กน้อย: i) ล่าสุด ปธน. โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในรัฐวอชิงตัน โดยกล่าวอ้างว่าเพื่อเป็นการควบคุมสถานการณ์ในช่วงพิธีสาบานตนของ ปธน. โจ ไบเดน แต่ประเด็นดังกล่าวสร้างความกังวลต่อนักลงทุนว่าจะเกิดเหตุรุนแรงใดๆ หรือไม่ ii) สภาผู้แทนสหรัฐฯ เริ่มพิจารณาข้อเสนอที่ให้ถอดถอนทรัมป์ ออกจากตำแหน่ง iii) บอนด์ยิลด์ 10 ปีของสหรัฐฯ ล่าสุดปรับขึ้นมาที่ 1.16%... สูงที่สุดตั้งแต่เดือน มี.ค. 2563

ปัจจัยในประเทศ - เป็นกลาง: i) นักลงทุนยังคงติดตามตัวเลขการติดเชื้อ COVID-19 ภายในประเทศ ซึ่งหลายวันที่ผ่านมาทรงตัวแถวๆ 200 คน ซึ่งหากตัวเลขยังอยู่ในระดับดังกล่าวคาดว่าจะมีผลจำกัดต่อ SET Index ii) ในวันนี้ จะมีการประชุม ครม. ประจำสัปดาห์ ซึ่งน่าจะมีการพิจารณามาตรการเยียวยาเพิ่มเติมต่อผู้ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 รอบล่าสุด

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน 

เก็งกำไร SPRC*, MICRO, JMT*

- SPRC* (เป้าพื้นฐาน 9.8 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 8.35 บาท และ 8.15 บาท / แนวต้าน 8.8 - 9.25 บาท (Stop loss 8.0 บาท) 2) วานนี้ฝ่ายวิจัยฯ ออกบทวิเคราะห์ประเมินแนวโน้มค่าการกลั่นฟื้นตัวต่อเนื่องใน 1H64 จากดีมานด์พลังงานที่คาดฟื้นตัว ตามความคาดหวังเรื่องวัคซีนโควิด-19 โดยเฉพาะดีมานด์น้ำมันอากาศยาน และการขนส่ง 3) ฝั่งอุปทาน คาดมีโรงกลั่นบางแห่งปิดการผลิตและเปลี่ยนสายการผลิต ขณะที่ไม่มีกำลังการผลิตใหม่ในภูมิภาคเอเชีย 4) PBV 1.35 เท่า ค่าเฉลี่ยในอดีตราว 1.4 เท่า ขณะที่ผลการดำเนินงานปีนี้คาดจะ Turnaround เป็นกำไรราว 3.7 พันล้านบาท ROAE กลับมาบวกที่ 13.8% … อย่างไรก็ดี ค่าการกลั่นล่าสุดยังอ่อนแอ แต่คาดพ้นจุดตํ่าสุดแล้ว จึงแนะนำ “ซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวที่แนวรับ” อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในบทวิเคราะห์ Commodity วันนี้

- MICRO (เป้าพื้นฐาน 5.9 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 4.9 บาท / แนวต้าน 5.2 – 5.3 บาท (Trailing stop 4.8 บาท) 2) ประเมินแนวโน้มกำไรโต 29% CAGR 2563 – 66 จาก i) สถาบันการเงินปลดล๊อกเพดาน DE ratio จาก 1.5 เท่า เป็น 2.0 เท่า ii) คาดพอร์ตสินเชื่อรถบรรทุกมือสองจะขยายตัวแตะระดับ 5 พันล้านบาทในปี 2565 (คาดปี 2563 พอร์ตสินเชื่อแตะ 2.45 พันล้านบาท) iii) ตลาดสินเชื่อรถบรรทุกมือสองใหญ่ราว 2 หมื่นล้านบาท ขณะที่ MICRO มี Market share เพียงราว 5-10% และผู้ปล่อยสินเชื่อฯ ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการรายเล็ก 3) ประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่ำต่อเนื่อง และมีโอกาสลดลงอีก

- JMT* (เป้าพื้นฐาน 40 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 35.5 บาท / แนวต้าน 38 - 39 บาท หากผ่านกรอบแนวต้านนี้ไปได้ประเมินแนวต้านถัดไป 41 บาท (Stop loss 34 บาท) 2) ประเมินผลการดำเนินงาน 4Q63 และมีโอกาสที่ Consensus จะปรับประมาณการฯทัง้ ปีขึ้น ทั้งนี้กำไร 9M63 คิดเป็น 84% ของประมาณการฯทั้งปีของฝ่ายวิจัยฯแล้ว 3) ประเมินธุรกิจบริหารหนี้เสียกำลังเข้าสู่วัฏจักรขาขึ้นต่อ(สะสมพอร์ตหนี้เสียในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ และทยอยรับรู้รายได้เมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัว + รับ Sentiment บวกโอกาสลดดอกเบี้ยนโยบาย) 4) PE ปี 2564 = 30 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 36 เท่า และคาดมีโอกาสปรับประมาณการฯขึ้น (PE มีโอกาสต่ำกว่า 30 เท่าหลังปรับประมาณการฯ)

หุ้นมีข่าว

(ลบเล็กน้อยต่อกลุ่มสื่อสาร) คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม แห่งชาติ (กสทช) เปิดเผยมาตรการสนับสนุนการใช้งานอินเตอร์เน็ตสำหรับการทำงานที่บ้าน (Work From Home-WFH) ในระหว่างการระบาดของโควิด 19 ดังนี้ i) ให้ผู้ประกอบการปรับความเร็วให้แก่ผู้ใช้บริการบรอดแบนด์ (อินเตอร์เน็ตบ้าน) ขึ้นเป็นไม่ต่ำกว่า 100 Mbps และ ii) ให้มีการออกแพ็คเกจเสริมในราคา 79 บาท ใช้งานได้ 30 วัน ไม่จำกัดปริมาณการใช้งาน ที่ความเร็ว 10 Mbpsเพื่อรองรับการใช้งานบนแอพพลิเคชั่นผ่านอินเตอร์เน็ตผ่านมือถือเพื่อ WFH เช่น Zoom, Microsoft Team เป็นต้น

ความเห็น คาดมาตรการดังกล่าวมีผลกระทบเชิงลบเพียงเล็กน้อยต่อผู้ให้บริการโทรคมนาคมอย่าง บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) บมจ.โทเทิ่ล แอคเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) บมจ. จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) และ บมจ. โทรคมนาคมแห่งชาติ (NT) เนื่องจาก
i) เราเชื่อว่าผู้ที่ทำงานแบบ WFH ส่วนใหญ่จะใช้งานอินเตอร์เน็ตบ้าน ii) ผู้ใช้บริการอินเตอร์เน็ตบ้านส่วนใหญ่จะใช้แพ็คเกจที่มีความเร็วสูงกว่า 100 Mbps อยู่แล้ว และ iii) แพ็คเกจเสริมอินเตอร์เน็ตมือถือ 79 บาท ที่จะออกมานั้นจะสนับสนุนแอพพลิเคชั่นที่รองรับ WFH เท่านั้น ไม่ได้รองรับการใช้งานอื่นๆ จึงเชื่อ
ว่าแพ็คเกจนี้จะดึงดูดผู้ใช้งานกลุ่มคนที่ WFH โดยใช้อินเตอร์เน็ตมือถือ ซึ่งคาดจะมีจำนวนจำกัดและส่งผลกระทบต่อผู้ให้บริการมือถือไม่มากนัก

(0) ผู้บริหาร AOT* เผยว่า การระบาดรอบใหม่ของ COVID-19 ส่งผลให้จำนวนผู้โดยสารในประเทศลดลง 29% YoYมาอยู่ที่ระดับ 3.4 ล้านคนในเดือน ธ.ค.63 รวมทั้งลดลงเมื่อเทียบกับเดือนพ.ย.63 ที่ระดับ 3.8 ล้านคน อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคาดว่า การฟื้นตัวของการบินระหว่างประเทศจะเกิดขึ้น ในเดือน ต.ค.64 หลังจากที่การฉีดวัคซีนเกิดขึ้น อย่างต่อเนื่อง (ข่าวหุ้น)

ความเห็น เรามองว่า มีความเสี่ยงด้านลบต่อประมาณการของเราต่อบริษัทสำหรับผลประกอบการใน FY64 (ต.ค. 63 - ก.ย.64) เนื่องจากจำนวนผู้โดยสารในประเทศที่อาจลดลงกว่าคาดการณ์จากการระบาดรอบใหม่ของ COVID-19 แต่ยังคงคาดการณ์การฟื้นตัวที่แรงขึ้น ตั้งแต่ FY65F หนุนโดยการฉีดวัคซีนมา
อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี 2564 และการออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของรัฐให้กับทุกประเทศ เรายังคงแนะนำ ซื้อ AOT โดยให้ราคาเป้าหมายปี 2565 ไว้ที่ 79.00 บาท

(0) NER ไม่สะดุดภาษียาง ชูรายได้ปีนี้ 2.2 หมื่นล. (ทันหุ้น) NER ย้ำสหรัฐเก็บภาษี AD ยางรถยนต์ไทยกระทบเล็กน้อย มองราคาเฉลี่ยยางแผ่นรมควันในปีนี้น่าจะอยู่ในระดับ 60-75 บาทต่อกิโลกรัม ความต้องการใช้ยังสูง จับตารายได้ปี 2564 ไม่ตํ่ากว่า 2.2 หมื่นล้านบาท มียอดขายทะลุ 4.1 แสนตัน ฟากโบรกชี้พื้นฐาน 5 บาท หลังลูกค้ากลับมาผลิต รวมถึงการเดินเครื่องกำลังการผลิตใหม่ได้เต็มที่มากขึ้น

(+) TPIPP* จัดเต็มไฟฟ้าขยะ จับตาฮุบ 17.8 เมกะวัตต์ (ทันหุ้น) TPIPP* ลุยประมูลโรงไฟฟ้าขยะชุมชนภาครัฐ 400 เมกะวัตต์ ชี้มกราคมนี้รู้ผลประมูล 2 โครงการ กำลังการผลิต 17.8 เมกะวัตต์ พร้อมเดินหน้าเจรจาอีก 5-6 โครงการ ขณะที่ดีลซื้อโรงไฟฟ้าขยะที่มี PPA แล้วอีก 14 เมกะวัตต์ ส่วนปี 2564 ตั้ง
เป้ารายได้ แตะ 1.33 หมื่นล้านบาท คาด 3-5 ปี มีกำลังการผลิตรวม 600 เมกะวัตต์

(+) KEX อยู่บ้านขนส่งผงาด ลุย M&A เพิ่มธุรกิจใหม่ (ทันหุ้น) ผู้บริหาร KEX รับโควิดระบาด ดันปริมาณขนส่งเพิ่มขึ้น เร่งเตรียมแผนรับมือ ประเมินปีนี้ขนส่งโตไม่หยุดด้วยเลขสองหลัก พร้อมวางเกมปั๊มรายได้จากเครือข่ายพันธมิตร เตรียมเดินหน้าธุรกิจเดลิเวอรี่ใหม่เพิ่มมาร์จิ้น พร้อมวางเกม M&A ซื้อกิจการ ผลตอบแทนลงทุนไม่ตํ่ากว่า 10-15% แย้ม Q4/2563 ผลงานดีกว่า Q3/2563

(+) EGCO* แปลงที่ดินโรงไฟฟ้า สร้างนิคมฯที่ระยอง 621 ไร่ (ข่าวหุ้น) EGCO* ผนึกกนอ. ตั้ง“นิคมอุตสาหกรรมเอ็กโกระยอง” ที่เขตเทศบาลเมืองมาบตาพุด บนพื้นที่ 621 ไร่ คาดใช้เวลาพัฒนาพื้นที่และระบบสาธารณูปโภค 2 ปี เล็งเปิดให้บริการปี 65 รองรับการลงทุนอุตสาหกรรมเป้าหมาย S-Curve
และ New S-Curve ในอีอีซี