Hotel Sector (8 ม.ค.64)

Hotel Sector (8 ม.ค.64)

ไม่มืดมิด...ก็ไม่เห็นดวงดาว

Event

อัพเดตกลุ่มโรงแรม

Impact

ปรับลดสมมติฐานนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2564F ลงจากเดิม 14 ล้านคนเหลือ 8 ล้านคน

เราปรับลดสมมติฐานจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ในปี 2564F เหลือ 8 ล้านคน (จากเดิม 14 ล้านคน) โดยอิงจาก i) การเลื่อนความชัดเจนของแผน travel bubbles ออกไปเป็น 2Q-3Q64F (จากกำหนดเดิมใน 1Q64F) และ ii) ผู้คนจะเริ่มกลับมามีความมั่นใจในการเดินทางอีกครั้งใน 3Q64F เป็นต้นไป ดังนั้น
เราจึงปรับลดประมาณการผลประกอบการของกลุ่มโรงแรมในปี 2564F ลงจากเดิม 30% เพื่อสะท้อนถึงมุมมองที่อนุรักษ์นิยมมากขึ้นต่อแนวโน้มการฟื้นตัวใน 1H64F

คาดว่ามาตรการคุมเข้มในช่วงนี้จะส่งผลกระทบเบากว่าเมื่อเทียบกับ 2Q63

ประเทศไทยบังคับใช้มาตรการที่เข้มงวดมากขึ้นกับธุรกิจบางประเภท และอิงจากความเสี่ยงของการแพร่ระบาดเป็นรายจังหวัดไป เราคาดว่าไม่น่าจะมีการ lockdown แบบเต็มรูปแบบทั่วประเทศอีกแล้ว เพราะรัฐบาลพยายามจะหาจุดสมดุลระหว่างการลดการแพร่ระบาดและผลกระทบเศรษฐกิจ ดังนั้น เราจึงมองว่ามาตรการคุมเข้มรอบนี้จะส่งผลกระทบกับจังหวะการฟื้นตัวของผลประกอบการในระยะสั้น ในขณะที่แนวโน้มการฟื้นตัวในระยะยาวยังคงเหมือนเดิม

จะมีการนำวัคซีนป้องกัน COVID-19 ออกมาใช้อย่างต่อเนื่อง

จนถึงขณะนี้ ทั้งโลกพากันเร่งฉีดวัคซีนป้ องกัน COVID-19 โดยมีการฉีดไปแล้วกว่า 15.9 ล้านโดสให้กับประชากรใน 37 ประเทศ สำหรับประเทศไทย มีการตั้งเป้ าหมายว่าจะฉีดวัคซีนให้กับประชากรได้ 50% ภายในสิ้นปี 2564F ถึงแม้ว่าการฉีดวัคซีนจะไม่ได้เป็นตัวหยุดการแพร่ระบาดแบบทันทีทันใด แต่เราเชื่อว่าจะส่งผลให้ผู้คนมั่นใจที่จะเดินทางมากขึ้น และช่วยบริหารความเสี่ยงด้าน downside ในอนาคต

ประมาณการผลประกอบการ 4Q63F

เราคาดว่าหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวที่เราศึกษาอยู่จะมีผลขาดทุนปกติรวมกัน 6.1 พันล้านบาทใน 4Q63F (ฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อย 2% QoQ) โดยผลประกอบการของหุ้นทุกตัวยกเว้น Minor International (MINT.BK/MINT TB)* จะฟื้นตัวขึ้นเด่น QoQ จากผลการดำเนินงานที่เร่งตัวขึ้นหลังจากที่ประเทศไทยผ่อนคลายมาตรการ lockdown ในประเทศมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2563

คงให้นํ้าหนักหุ้นกลุ่มโรงแรมที่ Overweight

เรายังคงให้น้ำหนักหุ้นกลุ่มโรงแรมของประเทศไทยที่ Overweight เพราะมาตรการคุมเข้มที่กลับมาใช้ในช่วงนี้น่าจะส่งผลให้ผลการดำเนินงานสะดุดลงชั่วคราวเท่านั้น ในขณะที่เรามองว่าการที่ทั่วโลกนำวัคซีนออกมาใช้จะช่วยหนุนความเชื่อมั่นในระยะยาว สำหรับหุ้นเด่นในกลุ่มนี้ เราเลือก Siam Wellness
Group (SPA.BK/SPA TB) (แนะนำซื้อ ราคาเป้ าหมาย 9.50 บาท), MINT (แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย32.00 บาท) และ Central Plaza Hotel (CENTEL.BK/CENTEL TB)* (แนะนำซื้อ ราคาเป้ าหมาย 31.00 บาท) แต่ในอีกด้านหนึ่ง เรายังคงมุมมองเป็นกลางกับ The Erawan Group (ERW.BK/ERW TB) (แนะนำถือ ราคาเป้าหมาย 3.60 บาท) เพราะยังมีความไม่แน่นอนจากความเสี่ยงทางการเงินอยู่

Risks

การระบาดของ COVID-19 ยืดเยื้อ และเกิดปัญหาความวุ่นวายทางการเมือง