ปรับสูงขึ้น

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้

คาดดัชนีฯ ปรับสูงขึ้น แนวต้าน 1502 / 1515 จุด แนวรับ 1486 / 1470 จุด แนะนำ เก็งกำไร KBANK HANA PSL ทางเทคนิคจะเกิดสัญญาณขาย หากหลุดแนวรับ EMA 10 วัน ที่ 1470 จุด โดยมีแนวรับต่อไปที่ 1440 จุด ปัจจัยบวก คือ ตลาดหุ้นโลกอาจมีแรงเก็งกำไรหุ้นกลุ่มการเงิน หลังจากคาดว่าสหรัฐฯ จะมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่เพิ่ม หลังพรรคเดโมแครตชนะเลือกตั้ง 2 ส.ว. ที่รัฐจอร์เจีย ปัจจัยที่ต้องติดตาม คือ ผลการรับรองให้ไบเดนเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ หลังมีกลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์เดินขบวนบุกรุกอาคารสภา และคลังเตรียมออกมาตรการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ COVID-19 รอบสอง

ประเด็นที่มีผลต่อตลาดวันนี้

       1) พรรคเดโมแครตชนะเลือกตั้งส.ว. ที่รัฐจอร์เจีย ส่งผลบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ (+กลุ่มธนาคาร)

       2) สภาคองเกรสสหรัฐฯ ต้องเลื่อนประชุมรับรองผลเลือกตั้งให้ไบเดนเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ เพราะถูกกลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์บุกรุก (-ตลาดหุ้นสหรัฐฯ หากมีความรุนแรง)

       3) ผลสารวจดัชนีฯ เป้าหมายปีนี้ของสมาคมนักวิเคราะห์อยู่ที่ 1559 จุด (+ตลาดหุ้นไทย)

       4) กกร. ปรับลดเป้าเติบโตเศรษฐกิจปีนี้ลงเป็น 1.5-3.5% ลดลงจากเดิมที่ 2-4% หากรัฐบาลสามารถแก้ปปัญหาได้ภายใน 3 เดือน (-ตลาดหุ้นไทย)

       5) รัฐบาลอยู่ระหว่างพิจารณาออกมาตรการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ COVID-19 รอบสอง (+กลุ่มอิงการบริโภค)

ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้   USA-ISM Non-Mfg. PMI เดือน ธ.ค. คาด 54.6 (Vs เดือน พ.ย. 55.9), Weekly Initial Jobless Claims คาด 800k (Vs สัปดาห์ก่อนหน้า 787k) ดุลการค้าเดือน พ.ย. คาด -USD65.2bn (Vs เดือน ต.ค. -USD63.1bn) / EU-Economic Sentiment เดือน ธ.ค. คาด 90 (Vs เดือน พ.ย. 87.6) ยอดค้าปลีกเดือน พ.ย. คาด -3.4% MoM (Vs เดือน ต.ค. +1.5% MoM)

Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา

- ตลาดหุ้นไทยปิดลบ: ตลาดหุ้นไทยร่วงแรงในภาคบ่าย หลังขึ้นไปสูงสุดที่ 1514.89 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดรอบกว่า 10 เดือน โดยมาปิดตลาดที่ 1492.36 จุด -14.29 จุด หรือ -0.95% วอลุ่มซื้อขาย 1.42 แสนล้านบาท กลุ่มนำลง คือ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ -11.17% สื่อและสิ่งพิมพ์ -2.2% ขนส่งและโลจิสติกส์ -1.52% หุ้นบวก >4% KCE HANA PTTEP IRPC TASCO KTC ESSO BAY RCL TVO SSP DOD WIIK SONIC III SMT หุ้นร่วง >4% GPSC IVL DELTA STGT MINT AMATA VGI RBF AS AEONTS

+ ตลาดหุ้นปิดบวก: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดคละ DJIA +1.44% (+437.80 จุด) S&P500 +0.57% Nasdaq -0.61% นำขึ้นโดยกลุ่มการเงิน +4% หลังจากพรรคเดโมแครตชนะเลือกตั้งส.ว. ที่รัฐจอร์เจีย ส่งผลให้มีโอกาสสูงที่ประธานาธิบดีไบเดนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ลดช่วงบวกลง หลังมีข่าวการบุกรุกไปที่สภาคองเกรส ทำให้การประกาศผลไบเดนชนะการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการต้องถูกเลื่อนออกไป ส่วนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วง -1.8% วิตกการออกกฎหมาย เพื่อลดอำนาจครองตลาดของบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก DAX +1.76% FTSE +3.47% CAC40 +1.19% หลังองค์กรยายุโรปอนุมัติให้ใช้วัคซีน Moderna ในกรณีฉุกเฉิน

+ น้ำมันดิบขึ้นต่อ แต่ทองร่วงแรง: WTI +USD0.70 ปิดที่ USD50.63/บาร์เรล สูงสุดรอบ 11 เดือน Brent +USD0.70 ปิดที่ USD54.30/บาร์เรล รับข่าวรายงานสต็อกน้ำมันดิบสัปดาห์ก่อน ลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่สี่ สูงถึง -8 ล้านบาร์เรล (Vs คาดลดลง -1.2 ล้านบาร์เรล) ส่วนราคาทองคำปิดดิ่งลง -USD45.80 ปิดที่ USD1,908.60 ต่อออนซ์ จากแรงขายทำกำไร

ประเด็นสำคัญ

- USA: CDC เผย COVID-19 แอฟริกาใต้ ที่เรียกว่า 501.V2 เป็นภัยที่น่ากลัว เพราะอาจกลายพันธุ์และทาให้วัคซีนฯ ไม่มีประสิทธิภาพสร้างภูมิคุ้มกันได้

+ COVID-19: ศบค. รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อวันพุธที่ 6 ม.ค. มีจานวนผู้ติดเชื้อลดลงจากวันก่อน โดยเพิ่มขึ้น 365 ราย (จากวันก่อนหน้า 527 ราย) แบ่งเป็น 1. การติดเชื้อในประเทศ +250 ราย (จากวันก่อนหน้า 82 ราย) 2. การตรวจแรงงานต่างด้าวเชิงรุก +99 ราย (จาก 439 ราย) และ 3. ผู้เดินทางมาจากต่างประเทศและอยู่ในสถานกักกันที่รัฐจัดให้ 16 ราย (จาก 6 ราย) ส่วนผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย เป็น 66 ราย + ไทย: มาตรการเยียวยา-นายกฯ สั่งให้ รองนายกฯ และคลัง ออกมาตรการเยียวยาประชาชน 40 ล้านคน คาดเป็นกลุ่มเดิมที่จะได้รับการช่วยเหลือและมาตรการเดิม

+/- USA: ผลการเลือกตั้งส.ว. รัฐจอร์เจีย พบว่า พรรคเดโมแครตของไบเดนชนะทั้งสองที่นั่ง ทำให้โอกาสออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่มีสูงขึ้น

- World Bank: ปรับลดเป้าหมายเติบโตเศรษฐกิจโลกปี 2021-22E เป็น 4% และ 3.8% (Vs เดิมปี 2021E คาด + 4.2%) แต่ปรับเพิ่มปี 2020E เป็น-4.3% (Vs เดิม -5.2%)

- กกร.: คาดว่า GDP ปี 2021 จะเติบโตได้ในกรอบ 1.5-3.5% ลดลงจากประมาณการเดิมเมื่อเดือน ธ.ค. 2020 ที่คาดขยายตัวได้ 2.0-4.0%

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: RBF INTUCH SYNEX

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: KBANK HANA PSL

Derivatives: แนะรอเปิด Long หรือ Short S50H21 ตามเงื่อนไขที่ให้ (ติดตามรายละเอียดเพิ่มใน KTZ-D Report)