สรรพากรตั้งระบบตรวจจับคนโกงภาษี

สรรพากรตั้งระบบตรวจจับคนโกงภาษี

สรรพากรเผย ยังไม่ได้รับนโยบายช่วยผู้เสียภาษี​ หลังโควิดระบาดรอบใหม่ ขณะที่​ ตั้ง “ทูตภาษี” ให้ความรู้เรื่องการเสียภาษีทั่วประเทศ​ พร้อมติดตั้งระบบตรวจจับคนโกง ยันร่วมโครงการรัฐไม่ต้องเสียภาษีเงินได้

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า กรมสรรพากรยังไม่ได้รับนโยบายการเลื่อนจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในปีภาษี 2564 จากนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เพื่อดูแลประชาชนแม้ปัจจุบันจะมีการระบาดของโควิด-19 รอบใหม่ ซึ่งกรมฯคาดว่าจะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ภายใน 2-3 เดือน

อย่างไรก็ตาม​ ขณะนี้กรมฯ ได้เปิดให้เริ่มยื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับรายได้ที่เกิดขึ้นในปี​ 2563แล้วตั้งแต่ต้นเดือนม.ค.ซึ่งสามารถยื่นได้ถึงวันที่ 31 มี.ค. 2564 ส่วนผู้ที่ยื่นแบบผ่านช่องทางออนไลน์สามารถยื่นได้ถึง วันที่ 8 เม.ย.2564

สำหรับรายได้ของบุคคลที่ได้รับจากมาตรการรัฐนั้น​ยืนยันว่า​ กรมฯจะไม่นำมาคำนวณเป็นเงินได้เพื่อเสียภาษีไม่ว่าจะรายได้จาก โครงการกำลังใจที่สนับสนุนค่าใช้จ่ายให้บุคลากรทางการแพทย์และอาสาสมัครสาธารณสุขประจําหมู่บ้าน (อสม.)โครงการ เราเที่ยวด้วยกัน และคนละครึ่ง เป็นต้น ซึ่งขณะนี้กรมฯมอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) รวบรวมมาตรการต่างๆ ที่ได้ออกมาในปีที่แล้ว เพื่อดำเนินการออกกฎหมายเว้นภาษีจากโครงการดังกล่าวด้วย ดังนั้น​ ขอให้ประชาชนไม่ต้องกังวลเรื่องการเสียภาษีเงินได้

ส่วนการยื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดานั้น ขณะนี้กรมฯได้ตั้งทูตภาษีทั่วประเทศ เพื่อให้คำแนะนำในเรื่องการยื่นแบบภาษี รวมทั้ง​ ได้พัฒนาระบบ Data Analytics สำหรับตรวจจับคนโกงภาษี ซึ่งขณะนี้​ ระบบมีความสมบูรณ์ สามารถเห็นภาพผู้ที่หลีกเลี่ยงจ่ายภาษีได้ ซึ่งกรมฯจะไปเตือนผู้ที่เลี่ยงภาษีก่อนจะปรับตามกฎหมาย โดยถ้าหากพบว่าเสียภาษีไม่ครบและไม่มาจ่ายจะต้องเสียเบี้ยปรับ 0.5 - 1 เท่า ของค่าภาษีที่ต้องจ่าย และเสียเงินเพิ่ม 1.5% ต่อเดือนของภาษีที่ต้องจ่าย

อย่างไรก็ตาม​ จำนวนผู้ที่หลบเลี่ยงภาษี หรือแสดงรายได้ไม่ตามจริงนั้น ยังไม่สามารถระบุได้ คาดว่าจะทราบหลังจากที่สิ้นสุดระยะเวลาการยื่นแบบภาษีปี 2564

ส่วนการจัดเก็บรายได้ของกรมฯ ในปีงบประมาณ 2564 ตั้งเป้าหมายจัดเก็บไว้ที่ 2.085 ล้านล้านบาท ซึ่งมากกว่าเป้าของปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม​ ในช่วงโดย 2 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2564 การจัดเก็บภาษีเป็นไปด้วยดี ติดลบน้อยกว่าการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพสามิต และกรมศุลกากร

“กรมฯจะพยายามจัดเก็บรายได้ เพื่อสร้างความเป็นธรรมให้กับผู้เสียภาษี เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบัน ยังมีบางธุรกิจที่ได้รับผลประโยชน์จากแพร่ระบาดของโควิด-19 เช่น ธุรกิจถุงมือยาง หน้ากากอนามัย เป็นต้น ดังนั้นธุรกิจเหล่านี้จะต้องมีความรับผิดชอบในการชำระภาษี เพื่อแบ่งเบาภาระประเทศด้วย รวมทั้งขอความร่วมมือธุรกิจออนไลน์ และออฟไลน์ หากถึงเกณฑ์รายได้ที่ต้องเสียภาษี ก็ควรทำตามหน้าที่จ่ายภาษีให้ครบถ้วน เพื่อสร้างความเป็นธรรมให้กับผู้ที่เสียภาษีรายอื่นด้วย”