ธุรกิจและชีวิตปีฉลู มั่นคง ยั่งยืนด้วยพลัง AI

ธุรกิจและชีวิตปีฉลู   มั่นคง ยั่งยืนด้วยพลัง AI

สวัสดีปีฉลู “ปีแห่งความมั่นคงของคนซื่อสัตย์สุจริต ขยันอดทน มุ่งมั่นเพียรพยายาม ไม่ย่อท้อต่อวิกฤติต่าง ๆที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง”

สวัสดีปีฉลู “ปีแห่งความมั่นคงของคนซื่อสัตย์สุจริต ขยันอดทน มุ่งมั่นเพียรพยายาม ไม่ย่อท้อต่อวิกฤติต่าง ๆที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง คำกล่าวข้างต้นคนส่วนใหญ่เชื่อว่าถูกต้องแต่หลายคนอาจมองว่าในโลกแห่งความเป็นจริงที่ชีวิตต้องดิ้นรนแข่งขันฟันฝ่าวิกฤติทั้งเรื่องเศรษฐกิจ สุขภาพและสังคมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเช่นปัจจุบัน ความมั่นคงและยั่งยืนของชีวิต ครอบครัว หรือธุรกิจสังคมไม่สามารถสร้างหรือรักษาไว้ได้ ผู้เขียนขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่าน ทุกธุรกิจ สร้างความเชื่อมั่นในศักยภาพความรู้ความสามารถของตนและมาร่วมกันสร้างพลังความมั่นคง ยั่งยืนตลอดปีฉลูด้วยนวัตกรรม AI ที่เหมาะสมกับตนเองหรือกิจการของท่าน

คำว่า AI คนส่วนใหญ่เข้าใจว่าคือ Artificial Intelligence หรือปัญญาประดิษฐ์เท่านั้น แต่หลายคนก็มีความเข้าใจในเรื่องปัญญาประดิษฐ์นี้แตกต่างกันมาก บ้างเข้าใจว่าเป็นเรื่องของความฉลาดของหุ่นยนต์ในการทำงานและช่วยตัดสินใจแทนคน บ้างก็เข้าใจว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความชาญฉลาดของระบบคอมพิวเตอร์ หรือระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่สามารถวิเคราะห์และประมวลผลได้คล้ายกับที่มนุษย์สามารถทำได้แต่มีประสิทธิภาพมากกว่าจึงเริ่มได้รับความนิยมจากผู้บริหารระดับสูงของธุรกิจชั้นนำทั่วโลก 

หรือบางคนเข้าใจอย่างลึกซึ้งและกว้างขวางว่า AI เป็นระบบปัญญาที่เสมือนปัญญามนุษย์ที่นวัตกรรมเทคโนโลยีประดิษฐ์ขึ้นมาเพื่อใช้แก้ไขปัญหาต่าง ๆของมนุษย์ แม้แต่ปัญหาด้านสุขภาพของมนุษย์ในยุควิกฤติโควิด-19 สำหรับประเทศไทยแม้ว่าปีที่ผ่านมาอัตราการใช้ AI ในการสร้างความมั่นคงของธุรกิจและชีวิตยังอยู่ในระดับที่น้อยมากเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศสหรัฐอเมริกา ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน และประเทศสิงค์โปร์ แต่ก็มีการตื่นตัวที่จะเรียนรู้และปรับตัวมาใช้ AI กันอย่างจริงจังและกว้างขวางมากขึ้นเพื่อให้สามารถสร้างความมั่นคงภายใต้ประโยชน์จาก AI อย่างรวดเร็วทั่วโลก 

ตัวอย่างการใช้ประโยชน์ของ AI ในประเทศไทยส่วนใหญ่เป็นเป็นกลุ่มธุรกิจการเงิน และธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือแม้แต่เริ่มมีการใช้ในวงการสาธารณสุข และในปีฉลูนี้ AI ที่เป็นปัญญาประดิษฐ์จะสามารถสร้างพลังที่แข็งแกร่งส่งเสริมธุรกิจและชีวิตให้มั่นคงและยั่งยืนได้นั้นต้องร่วมกับพลัง AI ในอีกมิติที่เรียกว่า Appreciative Inquiry ที่ใช้เรียกในภาษาไทยที่หลายคนไม่คุ้นเคยหรือจำได้ยากกว่า “สุนทรียสาธก” หรือ “สุนทรียปรัศนีย์” เพราะในสภาวะที่ทั่วโลกและแม้แต่ประเทศไทยกำลังเผชิญวิกฤติโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง คนไทยจะรอการใช้ประโยชน์จากปัญญาประดิษฐ์จากนวัตกรรมเทคโนโลยีอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ 

คนไทยทุกคนต้องมาเสริมสร้างพลัง AI ที่สามารถขุดค้นสิ่งที่แข็งแกร่งในคนไทยโดยเฉพาะในยามที่บ้านเมืองวิกฤติรอบด้าน (Discovery) คนไทยสามารถฟันฝ่าและผ่านพ้นได้ด้วยการค้นพบแนวคิดการบริหารวิกฤติที่ดีและยั่งยืน ที่สำคัญแม้อยู่ในสภาวะที่หลายคนอาจมองว่ามืดมิดไม่มีทางออกความเข้มแข็งของคนไทยที่สามารถมีความฝันหรือมีปณิธานที่แน่วแน่ (Dream) ว่าถ้าคนไทยทุกคนรักและศรัทธาซึ่งกันและกันร่วมด้วยช่วยกันความฝันที่จะร่วมสร้างความมั่นคงและยั่งยืนก็เป็นจริงได้ด้วยการออกแบบวิธีการ (Design) บริหารจัดการชีวิตและธุรกิจแบบไทยไทยภายใต้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงที่กระทำสิ่งใดบนหลักของความสมดุลพอดี ท้ายที่สุดเป้าหมายของคนไทยและนักธุรกิจไทย (Destiny) ที่ต้องการให้ทุกคนในประเทศไทยมีความปลอดภัย มั่นคง ยั่งยืนก็เป็นจริงได้ด้วยการร่วมกันดำเนินการตามที่ได้วางแผนไว้

แต่เพื่อความยั่งยืนอย่างแท้จริงคงต้องใช้พลัง AI ที่เรียกว่า Academic Integrity หรือที่เรียกว่า ความซื่อสัตย์สุจริตทางวิชาการ เพราะการที่จะใช้ปัญญาประดิษฐ์ และการใช้หลักการบริหารภายใต้วิกฤติด้วยแนวคิดเชิงบวกคงไม่เพียงพอต้องอาศัยหลักความรู้คู่คุณธรรมและต้องเป็นการศึกษาทบทวนความรู้ การสร้างสรรค์นวัตกรรมความรู้และการต่อยอดความรู้ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตอย่างแท้จริง