ปี 63 โควิดเผาหลอก อย่าให้ปีนี้เผาจริง

ปี 63 โควิดเผาหลอก อย่าให้ปีนี้เผาจริง

เมื่อความรุนแรงของสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 สามารถคาดการณ์ได้ล่วงหน้า ทำไมจึงไฟเขียวให้ประชาชนเดินทางช่วงปีใหม่ ปัจจัยหลักมาจากความกังวลเศรษฐกิจจะไม่ฟื้นตัว ซึ่งล่าสุด ครม.ยังมอบให้ทีมเศรษฐกิจออกมาตรการเยียวยาเพิ่มเติมในระยะเวลา 2 เดือนข้างหน้า

สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประจำวันที่ 5 ม.ค.2564 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงว่าประเทศไทยมียอดผู้ป่วยสะสม 8,966 ราย เสียชีวิต 65 ราย ผู้ป่วยที่รักษาหายแล้ว 4,397 ราย มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 527 ราย แบ่งเป็นการติดเชื้อภายในประเทศ 82 ราย การค้นหาเชิงรุกในกลุ่มแรงงานข้ามชาติ 439 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศ 6 ราย อยู่ในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ ยังทำสถิติสูงสุดหลายวันติดต่อกัน

วันนี้ แนวโน้มการแพร่ระบาดยังไม่มีวี่แววที่จะลดลง ในทางตรงกันข้ามน่าเพิ่มขึ้นจนยอดผู้ติดเชื้อทะลุ 10,000 ราย ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ที่สำคัญกว่านั้นคนไทยอาจจะต้องเตรียมความพร้อมทั้งด้านร่างกายและจิตใจ เพราะอีก 12-13 วันข้างหน้า หรือหลังจากประชาชนเดินทางช่วงปีใหม่กลับมา ระยะเวลาดังกล่าวตกประมาณวันที่ 18 ม.ค.64 เป็นช่วงที่ติดเชื้อจะแสดงอาการออกมา ดังนั้นยอดผู้ติดเชื้อน่าจะมีจำนวนมากขึ้นอีกหลายเท่า การแพร่เชื้อกระจายอาจจะครบ 77 จังหวัด จากปัจจุบันอยู่ที่ 56 จังหวัด

ประเด็นคำถามจากประชาชนก็คือหากคาดการณ์ได้ล่วงหน้าได้ โดยเฉพาะกลุ่มแพทย์ที่เห็นสัญญาณอันตรายและคัดค้าน ทำไมจึงมีการไฟเขียวให้ประชาชนเดินทางช่วงปีใหม่ คำตอบคือทีมเศรษฐกิจรัฐบาลกังวลว่าเศรษฐกิจจะไม่ฟื้นตัว เราเห็นว่าการที่โควิด-19 เป็นโรคอุบัติใหม่ เหตุผลคือการลองผิดลองถูก เวลาจะเป็นเครื่องตัดสิน ขอเพียงแค่เมื่อถึงเวลานั้นจะต้องมีคนแสดงความกล้าหาญ แสดงความรับผิดชอบ อย่างน้อยนำมาเป็นบทเรียนในการให้คำแนะนำ คัดค้านหรือกระทั่งผู้นำที่ต้องตัดสินใจในครั้งต่อไป

เมื่อวานนี้ ได้มีแอ็คชั่นจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม โดยแถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มอบหมายให้ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ออกมาตรการเยียวยาผลกระทบจากโควิดเพิ่มเติมในระยะเวลา 2 เดือนข้างหน้า เพื่อดูแลผลกระทบที่เกิดขึ้นให้ครอบคลุมคนไทย 40 ล้านคน นายกรัฐมนตรียังบอกด้วยว่าแม้จะต้องใช้เงินจำนวนมากแต่รัฐบาลมีเงินเพียงพอ

ไม่ใช่คนละครึ่งหรือเราเที่ยวด้วยกัน เพราะเป็นมาตรการหลังจากล็อกดาวน์แล้วเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโควิดระลอกแรก แต่เป็นการช่วยเหลือเหมือนที่เคยใช้เมื่อครั้งยังไม่มีโควิด ได้แก่ ลดค่าครองชีพ ลดค่าน้ำ ค่าไฟ โดยจะคู่ขนานไปกับคนละครึ่งและเราเที่ยวด้วยกัน ที่จะมีการขยายระยะเวลาออกไป รายละเอียดเรื่องนี้ศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ (ศบศ.) สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและกระทรวงการคลัง จะประชุมร่วมเพื่อออกแบบที่เหมาะสม สอดคล้องกับการแพร่ระบาดโควิดในวันข้างหน้า ที่อาจกินเวลานานนับเดือนหรือนับปี เราเห็นว่าข้อมูลทางการแพทย์จะแม่นยำที่สุด ส่วนฝ่ายการเมืองต้องเป็นผู้ฟังที่ดี และจำเป็นต้องเสียสละผลประโยชน์ ที่ไม่ควรจะได้ นับแต่นี้ เป็นต้นไป