คงมุมมองบวกระยะกลาง คาดหุ้นไทยและเอเชียปรับฐานไม่แรงเท่าสหรัฐฯ

คงมุมมองบวกระยะกลาง คาดหุ้นไทยและเอเชียปรับฐานไม่แรงเท่าสหรัฐฯ

หุ้นสหรัฐฯอาจผันผวนระยะสั้นจากผลการเลือกตั้งส.ว.แต่อาจเป็นบวกต่อเอเชียและตลาดเกิดใหม่

หุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงหลังผลโพลบ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ที่พรรคเดโมแครต อาจจะชนะการเลือกตั้วส.ว.ที่รัฐจอร์เจีย ซึ่งเป็นสิ่งที่ตลาดไม่ชอบ เนื่องเดโมแครตชนะการเลือกตั้งทั้งประธานาธิปดีและส.ส. หากชนะการเลือกตั้งดังกล่าวจะทำให้มีคะแนนเสียงส.ว. 50:50 ซึ่งจะเสียกลไกการถ่วงดุล โดยนโยบายสำคัญที่ตลาดกังวลได้แก่ การปรับขึ้นภาษีนิติบุคคล, การปรับขึ้นภาษีผู้มีรายได้สูง, การควบคุมการผูกขาดของบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ โดยเฉพาะที่อยู่ในกลุ่มเทคโนโลยี ดังนั้นการชนะเลือกตั้งของเดโมแครตอาจเป็นลบต่อจิตวิทยาการลงทุนหุ้นสหรัฐฯ จากความกังวลนโยบายข้างต้นอาจกดดันต่อผลประกอบการบจ.สหรัฐฯได้ อย่างไรก็ตามเรามองปัจจัยดังกล่าวเป็นบวกต่อทิศทางเงินทุนไหลเข้าเอเชียและตลาดเกิดใหม่ รวมถึงมองเป็นบวกต่อหุ้นไทย จากแนวโน้มของการกระจายการลงทุนออกจากสหรัฐฯมากขึ้น

หุ้นไทยและเอเชียอาจปรับฐานระยะสั้น แต่มีแนวโน้มเคลื่อนไหวดีกว่าหุ้นสหรัฐฯ สัญญาณความผันผวนในสินทรัพย์ทางเลือก (บิทคอยน์) และสินทรัพย์ปลอดภัย (ทองคำ) บ่งชี้ว่าตราสารทุนอาจมีความเสี่ยงจากแรงทำกำไร หรืออาจปรับฐานในระยะสั้นหลังฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในช่วงไตรมาสสุดท้ายจากแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังโควิด โดยในระยะสั้นตลาดอาจประเมินผลกระทบจากการระบาดระลอกใหม่ในหลายประเทศ ขณะที่นักลงทุนในประเทศมีแนวโน้มติดตามหนี้เสียและผลประกอบการกลุ่มธนาคารประกอบการตัดสินใจกลับเข้าลงทุน ทำให้ในระยะสั้นหุ้นปลอดภัยและกลุ่มไฟฟ้ามีแนวโน้มเป็นกลุ่มพักเงิน ทั้งนี้เราประเมินหุ้นไทยและเอเชียมีความเสี่ยงทางลงต่ำกว่า และมีแนวโน้มเคลื่อนไหวดีกว่า (Outperform) หุ้นสหรัฐฯ

คงมุมมองเชิงบวกต่อภาพรวมตลาดในระยะกลาง-ยาว. แม้ช่วงเดือน ม.ค. 64 ตลาดมีโอกาสผันผวนจากความเสี่ยงต่อการเพิ่มสูงขึ้นของจำนวนผู้ติดเชื้อหลังเทศกาลปีใหม่ แต่อย่างไรก็ตามเรามองผลกระทบต่อเศรษฐกิจและตลาดหุ้นจำกัด การปรับตัวลงของราคาหุ้นจะเป็นโอกาสทยอยซื้อ (buy-on-weakness) โดยให้น้ำหนักหุ้นกลุ่ม พลังงาน, ปิโตรฯ, และการแพทย์ มากกว่าตลาด  ระยะสั้นคาดกลุ่มโรงไฟฟ้าและหุ้นปลอดภัยมีโอกาสเคลื่อนไหวได้ดีจากความกังวลในระยะสั้น

ภาพรวมกลยุทธ์ คงมุมมองเชิงบวกต่อ ภาพระยะกลาง-ยาว ยังคงกลยุทธ์เลือกรายตัว และเน้นซื้อในเชิงตั้งรับ และหากมีการปรับลงแรง  // หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร GULF*, SUPER*, VNT*, TIP*

แนวรับ 1,450 จุด / แนวต้าน : 1,479 จุด สัดส่วน : เงินสด 60% : พอร์ตหุ้น 40%

 

ประเด็นการลงทุน

อังกฤษเริ่มฉีดวัคซีน AstraZeneca ให้ประชาชนแล้วสัปดาห์นี้. อังกฤษเริ่มฉีดวัคซีนโควิดของบริษัท Oxford/AstraZeneca เพิ่มเติมจากวัคซีนของบริษัท Pfizer-BioNTech โดยชายวัย 82 ปี เป็นผู้ประเดิมเข็มแรกของโลก

การประชุม OPEC+ ยังไม่ได้ข้อสรุป. กลุ่มผู้ผลิตโอเปกและพันธมิตร (OPEC+) ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับนโยบายการผลิตน้ำมันได้ โดยจะเดินหน้าจัดการประชุมอีกครั้งในวันนี้

PMI ภาคการผลิตของสหรัฐพุ่งสูงสุดในรอบกว่า 6 ปี. IHS markit รายงานดัชนีผ็จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหรัฐ เดือน ธ.ค. ดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 57.1 สูงสุดนับตั้งแต่เดือน ก.ย. 2557

ไทยเริ่มผลิตวัคซีนโควิดในประเทศ รอบที่ 2. กระทรวงสาธารณสุขเผยว่า ไทยเริ่มผลิตวัคซีนโควิดภายในประเทศแล้ว โดยเป็นวัคซีนที่ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตมาจาก Oxford และ AstraZeneca ตั้งเป้าฉีดให้คนไทยฟรีไม่น้อยกว่า 50% ของประชากร หรือ ประมาณ 70 ล้านโดส

แบงก์เรียกถกด่วน มาตรการอุ้มลูกหนี้ ฝ่า 'โควิด' รอบใหม่ - สมาคมธนาคารเตรียมถกแบงก์ชาติ งัด 3 มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้เอสเอ็มอีเสนอตั้ง Warehousing บริหารหนี้เสียดึงเงินซอฟท์โลนผุดสินเชื่อเพื่อฟื้นฟูธุรกิจ

ประเด็นติดตาม: - 5 ม.ค. : US manufacturing PMI เดือน ธ.ค. / Georgia Senate Runoff Elections, 7 ม.ค. : TH consumer confidence เดือน ธ.ค. / FOMC meeting minutes

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)