แห่ลงทุนหุ้นปลอดภัย ดันโรงไฟฟ้าขึ้นยกแผง

หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าวานนี้ (4 ม.ค.)ปรับตัวเพิ่มขึ้นยกแผง นำโดย บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA)เพิ่มขึ้น 8.63% หรือ 4.25 บาท อยู่ที่ 53.50 บาท รองมา บมจ. โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC ) เพิ่มขึ้น 7.12% หรือ 5.25 บาท อยู่ที่ 79 บาท,บมจ. บี.กริม เพาเวอร์ (BGRIM)เพิ่มขึ้น 5.15% หรือ 2.50 บาท อยู่ที่ 51 บาท ,บมจ. บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF ) เพิ่มขึ้น 3.65% หรือ 1.25 บาท อยู่ที่ 35.50 บาท

นายสรพล วีระเมธีกุล ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย เปิดเผยว่า หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าวานนี้ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจาก นักลงทุนกังวลจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้ต้องหาหุ้นปลอดภัยคือ โรงไฟฟ้า ที่จะยังคงมีรายได้สม่ำเสมอ ไม่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยดังกล่าวมาก ซึ่งจากข้อมูลสถิติ ช่วงที่โควิด-19 ระบาดรอบแรก 18 มี.ค.-14 เม.ย. 2563 หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า เป็นหุ้นกลุ่มที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดกว่า 30% และ ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงกว่าดัชนีหุ้นไทย 15% ซึ่งรอบนี้ก็คล้ายกัน 

ทั้งนี้หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้ายังเป็นกลุ่มที่บริษัทแนะนำลงทุน แต่ต้องเลือกลงทุนเป็นรายบริษัทที่ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นยังไม่เกินปัจจัยพื้นฐาน และราคายังสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ (อัพไซด์) คือ   GPSC โดยบริษัทให้ราคาเหมาะสมที่ 83.25 บาท  และหากได้เข้าถือหุ้นในโรงไฟฟ้าที่เมียนมาร์ กำลังผลิต 600 เมกะวัตต์ สัดส่วน 50% ทำให้ราคามีอัพไซด์ อีก 2.50 บาท และ  EGCO

“ในช่วงแรกดัชนีปรับตัวลดลงนั้น แต่หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าสามารถบวกสวนขึ้นมาได้ เพราะ ในช่วงที่ตลาดปรับตัวลง นักลงทุนก็จะหันมาลงทุนในหุ้นปลอดภัย เช่น โรงไฟฟ้า ทำให้วานนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นทุกตัว แต่แนะนำนักลงทุนเลือกลงทุนเป็นรายตัว ในหุ้นที่ราคายังไม่เกินปัจจัยพื้นฐาน ”

นายปิยะภัทร์ ภัทรภูวดล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บล.หยวนต้า ( ประเทศไทย) จำกัด  กล่าวว่า  นักลงทุนมองหากลุ่มหุ้นที่ราคายังไม่ปรับขึ้นมากและมีผลประกอบการที่ดีต่อเนื่อง ประกอบกับธีมกระแสเทคโนโลยีแบตเตอรี่และรถไฟฟ้ากำลังเป็นเทรนด์หลัก รวมถึงเงินบาทแข็งค่า ปัจจัยดังกล่าวเป็นบวกกับหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า ได้แก่ EA และGPSC ที่ราคาปรับตัวขึ้นมาหนุนตลาด โดยเฉพาะ GPSC ที่ตลาดคาดหวังล่วงหน้าพอสมควรด้วย จากข่าวPTTEP ที่กำลังอยู่หาพาร์ทเนอร์โรงไฟฟ้าและยังไม่ได้ระบุชื่อ