Partial Lockdown

ประกอบกับแรงขายทำกำไรก่อนเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาวในเทศกาลปีใหม่ ส่งผลให้ดัชนี SET ปิดตลาดที่ 1,449.35 จุด -12.6 จุด -0.86% มูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 8.75 หมื่นลบ.

ปัจจัยบวก

+ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวกเมื่อวันที่ 30 ธ.ค.63 เพิ่มขึ้น 73.89 จุด +0.24% แตะ New High ทั้งปี 63 DJIA +7.3%
+ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดเพิ่มขึ้น 12 เซนต์ +0.3% ปิดที่ 48.52 ดอลลาร์/บาร์เรล ขานรับแนวโน้มศก.ที่ดีขึ้นในปี 64 หลังฉีดวัคซีนโควิด-19 และมีความหวังว่ารัฐบาลสหรัฐจะออกมาตรการกระตุ้นด้านการคลังมากขึ้น
+สธ.เร่งรัดจัดหาวัคซีนต้านไวรัสโควิดเข้ามาเพิ่ม โดยตั้งเป้าหมาย 50% ของประชากรไทย หรือ 70 ล้านโดส แบ่งเป็นผลิตในไทย 26 ล้านโดส คาดผลิตออกมาได้ในปลายเดือน พ.ค. 64 ส่วนที่เหลือจะเป็นการนำเข้า โดยคาดว่าล็อตแรก 2 แสนโดสจะเข้ามาเดือน ก.พ.64

ปัจจัยลบ

-อังกฤษพบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่สูงกว่า 5 หมื่นรายติดต่อกันเป็นวันที่ 6 คาดว่า อาจมีการใช้มาตรการล็อคดาวน์เข้มงวดมากขึ้น
-สหรัฐฯ เริ่มกระบวนการเพิกถอน 3 บริษัทเทเลคอมจีน พ้นจากตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก
-นายกฯเซ็นมาตรการคุมโควิด ร้านอาหารเปิดทานในร้านจำกัด-งดเดินทางข้ามจว.มีผล 4 ม.ค.
-จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ภายในประเทศที่เร่งตัวขึ้นต่อเนื่อง
-เงินบาทเปิด 30.01 ทรงตัวแม้ภูมิภาคแข็งค่าจากกังวลโควิด-19 ระบาดหนักในประเทศ
-ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิด ลบ วันโตเกียวประกาศภาวะฉุกเฉินรอบสองเพื่อควบคุมการแพทยระบาดของไวรัสโควิด-19

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลง จากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในอัตราเร่ง ส่งผลให้รัฐบาลประกาศใช้ Partial Lockdown ประกอบกับนายกฯได้ออก 8 มาตรการลดเสี่ยงแพร่โควิด-19 ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาการประชุม ศบค.ชุดใหญ่วันนี้ คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,420-1,450 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

• หุ้นได้ประโยชน์จากการ Work from home ADVANC DTAC TRUE JAS COM7 SIS SYNEX VCOM IIG AS YGG
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 STGT STA TQM AJ SCGP

หุ้นรายงานพิเศษ

       HARN   “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 2.60 บาท

รายได้ในอนาคตมีโอกาสเติบโตใน 1) กลุ่มผลิตภัณฑ์ระบบทำความเย็น (สัดส่วน 18% ของยอดขาย) ตามการเติบโตของเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติที่มี CAGR 25% ต่อปีระหว่างปี 2557-2561 โดยเฉพาะตู้ขายเครื่องดื่มที่ต้องแช่เย็น 2) กลุ่มผลิตภัณฑ์ระบบพิมพ์ดิจิตอลด้านการพิมพ์ 3D (สัดส่วน 30% ของยอดขาย) ได้รับการตอบรับดีในวงการแพทย์มีมาร์จิ้นสูง 3) ผลิตภัณฑ์ระบบไอโอที (Internet of Thing) สำหรับอาคารอัจฉริยะเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ในยุค new normal ที่มีโอกาสเติบโตสูงในอนาคต

งวด 3Q63 มีกำไรสุทธิ 18 ล้านบาท -51%YoY -34%QoQ อัตรากำไรขั้นต้นรวมลดเหลือ 28.3% จาก 31.4% ในช่วง 3Q62 อัตรากำไรสุทธิลดเหลือ 6% จาก 11% ใน 3Q62 งวด 9M63 กำไรสุทธิ 80 ล้านบาท ลดลง 24%YoY คาด

ปรับประมาณการกำไรปี 63 ลดลง 14% เหลือ 115 ล้านบาท หดตัว 23%YoY จากการปรับประมาณรายได้รวมลดลง 14% โดยยังคงสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นตามเดิมที่ 30.7% แต่ยังคงประมาณการกำไรปี 64 เท่าเดิมที่ 150 ล้านบาท +9%YoY

ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกต่อปัจจัยพื้นฐานฐานะการเงินที่แข็งแกร่งโดยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E Ratio) ต่าเพียง 0.2 เท่า และมีสภาพคล่องรองรับโอกาสในการลงทุนเพิ่ม ราคาหุ้นยังมีอัพไซต์ คาด Dividend Yield ราว 3.7%

หุ้นมีข่าว

(+) GULF (Bloomberg Consensus 38.93 บาท) เก็บหุ้น INTUCH เข้าพอร์ตเพิ่มเป็น 461.55 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วนเกือบ 15% คาดฟาดเงินปันผลครึ่งหลังปี 63 อีกกว่า 600 ล้านบาท จ่อบันทึกเข้างบไตรมาส 2/64 โบรกฯ เชียร์ "ซื้อ" GULF ราคาเป้าหมาย 39 บาท (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) PTTEP (Bloomberg Consensus 104.33 บาท) คว้าสิทธิ์พัฒนาโรงไฟฟ้า Gas to Power กาลังการผลิต 600 เมกะวัตต์ ในเมียนมาสำเร็จ มูลค่าลงทุน 6 หมื่นล้านบาท ลุยพัฒนาแบบครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงการผลิตไฟฟ้า โบรกฯ ประเมินช่วยเพิ่มมูลค่าหุ้นอีก 11 บาท เชียร์ "ซื้อ" ราคาพื้นฐานใหม่ 109 บาท (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) EA (Bloomberg Consensus 56.85 บาท) ประกาศชัดปี 2564 ถึงเวลาเก็บเกี่ยวผลการลงทุน เทคโนโลยีอนาคต ทั้งแบตเตอรี่-โรงงานประกอบรถ-เดินเรือ-PCM ชี้แบตเตอรี่ 1 กิกะวัตต์เสร็จไตรมาส 1 เน้นใส่รถอีวี ชี้แค่ใส่รถ 4,000 คัน เต็มกาลังการผลิต ขณะที่ยานยนต์ไฟฟ้า ทั้งเรือ รถ ขสมก. มาแล้ว ชี้รัฐเร่งส่งเสริมได้ผลดีทวีคูณ พร้อมเดินหน้าหาตลาดเองเพิ่มเติม ด้าน PCM สู่ตลาดใหญ่สิ่งทอ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) STGT (Bloomberg Consensus - บาท) พาร์ใหม่พรุ่งนี้ (5 ม.ค.) คาดเทรดสนั่น จากจำนวนหุ้นเพิ่มขึ้น-ใช้เงินซื้อต่อหุ้นน้อยลง และเป็นผลเชิงจิตวิทยา เหตุราคาใกล้เคียงยักษ์ถุงมือยางมาเลเซีย โชว์สเต็ปต่อไปนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ ไตรมาส 2/2564 ด้านโบรกเกอร์ส่องประเมินกำไรในปี 2563-2564 เติบโตแบบก้าวกระโดด อัพไซด์ยังเพียบเป้า 92 บาท (ที่มา ทันหุ้น)

ปัจจัยจับตา

ในประเทศ

4 ม.ค. จับตาศบค.พิจารณาออกมาตรการเพิ่มเติมสกัดโควิด-19 เพิ่มเติม
5 ม.ค. ประชุมครม.

ต่างประเทศ

4 ม.ค. จีนเปิดเผยดัชนี PMI ภาคการผลิต
         อียูเปิดเผยดัชนี PMI ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายสหรัฐเปิดเผยดัชนี PMI ภาคการผลิตขั้นสุดท้าย และการใช้จ่ายด้านการก่อสร้าง

5 ม.ค. สหรัฐเปิดเผยชนีภาคการผลิต ธ.ค.

6 ม.ค. จีน เปิดเผยดัชนี PMI ภาคบริการ อียูเปิดเผยดัชนี PMI ภาคบริการขั้นสุดท้ายสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชน ดัชนี PMI ภาคบริการขั้นสุดท้าย ยอดสั่งซื้อภาคโรงงาน และสต็อกน้ำมัน

7 ม.ค. จีนเปิดเผยดุลการค้าและทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ อียู เปิดเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคและยอดค้าปลีกเดือนพ.ย. สสหรัฐ เปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน ดุลการค้า และดัชนีภาคบริการ

8 ม.ค. อียูเปิดเผยอัตราว่างงานเดือนพ.ย.
          สหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรและสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่ง