"สุวัจน์" ให้คะแนน "รัฐบาล" สอบผ่าน เตือนปี64 ต้องคุมเสถียรภาพการเมืองนอกสภา

ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา ให้คะแนน รัฐบาล ทำผลงานปี63 สอบผ่าน ประเมินปี64 ต้องคุมเสถียรภาพการเมืองนอกสภาฯ แก้รัฐธรรมนูญให้ดี

       นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ  ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา ให้สัมภาษณ์ถึงการประเมินสถานการณ์การเมืองไทยในปี 2564 ว่า ตนเชื่อว่าเสถียรภาพของการเมืองในสภาฯ ไม่มีปัญหา เนื่องจากเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก270 เสียง แต่ต้องดูปัจจัยนอกสภา ที่เกี่ยวข้องกับการลดความขัดแย้ง และการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ส่วนตัวเชื่อว่าหากการแก้ไขรัฐธรรมนูญทำให้เสร็จเร็ว และเป็นที่พอใจของทุกฝ่าย ประชาชนยอมรับ รวมถึงรัฐบาลแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้จะสร้างเสถียรภาพของการเมืองนอกสภาฯ ได้ ขณะที่การสร้างความปรองดอง โดยคณะกรรมการสมานฉันท์  ถือเป็นเรื่องดีกว่าที่ไม่ได้ทำอะไร เพราะการเปิดเวทีให้ทุกฝ่ายคุยกัน เพื่อสร้างสันติภาพจากการเจรจาจะสามารถลดทอนความขัดแย้ง และเงื่อนไขที่สร้างความขัดแย้งได้
 
       "การแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อลดความขัดแย้ง ต้องทำให้เกิดขึ้นโดยประชาชนอย่างแท้จริง มีส.ส.ร.ร่างรัฐธรรมนูญ  ทั้งนี้กระบวนการได้มาของส.ส.ร. หากนำไปสู่การได้ตัวแทนยกร่างรัฐธรรมนูญให้สมบูรณ์ ได้คนดีที่สุดทำเนื้อหา เชื่อว่าจะได้รัฐธรรมนูญที่ดี เป็นฐานการได้รัฐธรรมนูญที่ดี อย่างไรก็ตามผมมองว่าการแก้รัฐธรรมนูญที่จะลดความขัดแย้งได้ ต้องมีกรอบเวลาชัดเจนเพื่อแสดงถึงความจริงใจกับทุกฝ่าย และเพื่อให้รัฐธรรมนูญเป็นไปตามเจตนารมณ์“นายสุวัจน์ กล่าว
      นายสุวัจน์​ กล่าวถึงการเตรียมยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลของพรรคฝ่ายค้าน ว่า ไม่ทราบว่ามีประเด็นใดบ้าง แต่หากรัฐบาลสามารถชี้แจงทำความเข้าใจได้เชื่อว่าไม่มีปัญหา เพราะเสียงสนับสนุนในสภาเป็นเสียงข้างมากของรัฐบาล อย่างไรก็ตามในสถานการณ์เศรษฐกิจ ปี 2564 ตนคาดหวังว่าจะฟื้นตัว และเป็นปัจจัยบวก หากรัฐบาลสามารถดูแลสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้
 
 
       เมื่อถามถึงการประเมินผลงานของรัฐบาลที่ผ่านมา และให้คะแนนเท่าไร เมื่อเต็ม10 คะแนน ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา กล่าวว่า ตนให้สอบผ่าน เพราะรัฐบาลสามารถแก้ปัญหาได้ด้วยดี แม้จะมีปัญหาต่างๆ  แต่สามารถประคองตัวได้ ทั้งนี้ในปี 2564 ตนขอให้กำลังใจพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม และขอให้สุขภาพแข็งแรง  และประสบความสำเร็จตามความปรารถนาดีที่มีต่อประเทศในการแก้ปัญหาต่างๆให้ลุล่วง.