กนอ.เร่งพัฒนามาบตาพุด กัลฟ์ตอกเสาเข็มมี.ค.นี้

กนอ.เร่งพัฒนามาบตาพุด  กัลฟ์ตอกเสาเข็มมี.ค.นี้

กนอ.เดินหน้าท่าเรือมาบตาพุดเฟส 3 ติดตามความคืบหน้า “กัลฟ์” เริ่่มก่อสร้างต้นปี 2564 มั่นใจเสร็จตามกำหนดในปี 2569

นางสาวสมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า ความคืบหน้าการก่อสร้างท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 หลังได้รับใบอนุญาตให้ปลูกสร้างสิ่งล่วงล้ำลำแม่น้ำจากสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาระยองแล้ว ซึ่ง กนอ.จะเร่งเดินหน้าการก่อสร้างโดยให้บริษัท กัลฟ์ เอ็มทีพี แอลเอ็นจี เทอร์มินัล จำกัด ผู้ร่วมทุนดำเนินการออกแบบและก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานเป็นลำดับแรก คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในช่วงเดือน มี.ค.2564 

ส่วนการขุดลอกและถมทะเล 1,000 ไร่ แบ่งเป็น พื้นที่ใช้ประโยชน์ 550 ไร่ และพื้นที่เก็บกักตะกอน 450 ไร่ การขุดลอกร่องน้ำและแอ่งกลับเรือ การก่อสร้างเขื่อนกันคลื่น การก่อสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานการติดตั้งอุปกรณ์ควบคุมการเดินเรือ ท่าเทียบเรือบริการ และท่าเทียบเรือก๊าซรองรับปริมาณการขนถ่ายก๊าซธรรมชาติที่จะเปิดบริการปี 2569

สำหรับก่อนหน้านี้ได้ลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์ชี้แจงข้อมูลโครงการ รวมทั้งรับฟังข้อคิดเห็นจากประชาชน โดยกำชับให้กัลฟ์ฯ ดำเนินการให้อยู่ภายใต้กรอบรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม สำหรับโครงการหรือกิจการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงทั้งทางด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพ (EHIA) และ กนอ.ตั้งคณะกรรมการกำกับการติดตามตรวจสอบและการปฏิบัติตามมาตรการด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีผู้แทนจากหน่วยงานราชการ สถาบันวิชาการและชุมชนเข้าร่วม

นอกจากนี้ กนอ.กำลังศึกษาการตั้งกองทุนหลักประกันความเสียหายฉุกเฉินและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนแบ่งเป็น 2 กองทุน คือ 1.กองทุนหลักประกันความเสียหายฉุกเฉิน เพื่อเป็นเงินสำรองจ่ายในการเยียวยาความเสียหาย 2.กองทุนเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนโดยรอบ ซึ่งมีผู้แทนจากหน่วยงานราชการ ผู้แทน กนอ. ผู้รับเหมาก่อสร้าง ผู้ดำเนินการถมทะเลและผู้แทนภาคประชาชนเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการกองทุน

ทั้งนี้ การพัฒนาท่าเรือมาบตาพุด ระยะที่ 3 จะสนับสนุนนโยบาย LNG Hub ในภูมิภาคอาเซียน โดยรองรับสินค้าผ่านท่า (ปิโตรเคมีและก๊าซธรรมชาติ) ได้เพิ่ม15 ล้านตันต่อปี

สำหรับมาบตาพุดคอมเพล็กซ์และท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด เป็นพื้นที่ลงทุนอุตสาหกรรมปิโตรเคมีติดอันดับ 1 ใน 5 ของภูมิภาคอาเซียน ปัจจุบันกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมคอมเพล็กซ์มีจำนวน 5 นิคม ประกอบด้วย นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอตะวันออก นิคมอุตสาหกรรมเอเชีย นิคมอุตสาหกรรมอาร์ไอแอล นิคมอุตสาหกรรมผาแดง และท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ปัจจุบันมีโรงงาน 151 โรง จำนวนแรงงาน 30,000 คน มูลค่าการลงทุน 1 ล้านล้านบาท