สร้างประสิทธิภาพด้านพลังงาน
การสร้างประสิทธิภาพด้านพลังงาน การลดอัตราการบริโภคเชื้อเพลิงต่อระยะทางการขนส่งที่ธุรกิจค้าปลีกนิยมดำเนินการ
สำหรับการสร้างประสิทธิภาพด้านพลังงานแล้ว การลดอัตราการบริโภคเชื้อเพลิงต่อระยะทางการขนส่งที่ธุรกิจค้าปลีกนิยมดำเนินการคือ การลงทุนในยานพาหนะที่ประหยัดพลังงานหรือใช้พลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น พลังงานไฟฟ้า และเชื้อเพลิงทางเลือก (Alternative fuel) โดยในปัจจุบันหลายๆ ห้างค้าปลีกได้มีการทดลองริเริ่มใช้รถขนส่งที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ร่วมกับการวางแผนเส้นทางขนส่งที่มีประสิทธิภาพ (Route optimization) ที่จะช่วยลดการเผาผลาญเชื้อเพลิงฟอสซิลที่เป็นสาเหตุสำคัญของการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในธุรกิจค้าปลีก
๐ Kroger ค้าปลีกของสหรัฐอเมริกาได้ลงทุนในยานยนต์ไฟฟ้า โดยเฉพาะกลุ่มรถบรรทุก โดยการจัดหารถเทสลา 10 คันตามแผน สำหรับใช้ขนส่งสินค้าไปยังศูนย์กระจายสินค้าในแคลิฟอร์เนีย รวมถึงการใช้ไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งสามารถผลิตไฟฟ้าได้ 4.28 million kWh ต่อปี
๐ Amazon ได้สั่งซื้อรถขนส่งสินค้าไฟฟ้าจำนวน 100,000 คัน จาก Rivian ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในสหรัฐฯ รวมถึงเริ่มคิดค้นและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ในการขนส่งสินค้าเพื่อลดปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ โดยคาดว่าจะมีรถขนส่งไฟฟ้าอยู่บนท้องถนนจำนวน 100,000 คัน ภายในปี 2030 หรือเร็วกว่านั้น
๐ Woolworths ร้านค้าปลีกรายใหญ่ของออสเตรเลียก็ได้มีการทดลองใช้รถบรรทุกไฟฟ้าที่สามารถบรรทุกได้ถึง 14 พาเลท
๐ Loblaw ร้านค้าปลีกอาหารสัญชาติแคนาดา ได้ติดตั้งเครื่องทำความเย็นที่ใช้พลังงานไฟฟ้าบนรถบรรทุกที่ใช้กระจายสินค้าไปยังร้านค้าย่อย แทนการใช้เชื้อเพลิงจากฟอสซิล
๐ สำหรับการสร้างประสิทธิภาพด้านพลังงาน โดยการเปลี่ยนไปใช้พลังงานทางเลือก เทสโก้ โลตัส ได้เปลี่ยนรถขนส่งสินค้าขนาดใหญ่มาใช้น้ำมันไบโอดีเซล (Biodisel) แทนน้ำมันดีเซล ทำให้สามารถลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงได้ถึง 3 ตันต่อปี ตามนโยบาย Zero Carbon ของบริษัท
นอกจากการลงทุนในยานพาหนะที่ประหยัดพลังงานแล้ว การลดอัตราการบริโภคเชื้อเพลิงยังสามารถทำได้โดยการเลือกใช้ขนาดยานพาหนะให้เหมาะสมกับปริมาณสินค้า การเพิ่มขีดความสามารถในการบรรทุกให้มากขึ้น ไปจนถึงการนำเทคโนโลยีมาเพิ่มประสิทธิภาพด้านพลังงาน เช่น การที่ Amazon เพิ่มประสิทธิภาพรถขนส่งและรถพ่วงขนาดต่างๆ ในอเมริกาเหนือและยุโรป โดยนำระบบการเติมลมยางแบบไนโตรเจนมาใช้ เพื่อให้ยางแบนช้าลงและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงสูงสุด นอกจากนี้ ยังมีการใช้แผ่นกันโคลนที่ออกแบบมาเพื่อให้กระแสลมและน้ำไหลผ่าน เพื่อลดการลากและประหยัดน้ำมันดีเซลเฉลี่ย 100 แกลลอนต่อตันต่อปี และในยุโรปได้มีการติดตั้งรถพ่วงสองชั้นที่ขับเคลื่อนด้วยระบบไฮดรอลิกกว่า 500 คัน โดยรถพ่วงสองชั้นช่วยเพิ่มพื้นที่บรรทุกได้มากถึง 70% เมื่อเทียบกับรถกึ่งพ่วงมาตรฐาน
Walmart ใช้วิธีการเพิ่มจำนวนพาเลทในรถขนส่งสินค้า ร่วมกับการวางเส้นทางการขนส่งที่มีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถขนส่งสินค้าได้มากขึ้น 65 ล้านกล่อง ในขณะที่ใช้ระยะทางลดลง 28 ล้านไมล์ เทียบเท่ากับการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 41,000 เมตริกตัน เสมือนกับการเอารถ 7,900 คัน ออกจากระบบถนน
ในการวิเคราะห์รูปแบบของบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสม Walmart พบว่าบรรจุภัณฑ์ที่ใช้สำหรับหีบห่อสินค้าประเภทรถบรรทุกของเล่น (Toy) มีขนาดใหญ่เกินความจำเป็นต่อการปกป้องสินค้าในระหว่างการขนส่ง ซึ่งการลดขนาดบรรจุภัณฑ์ของสินค้าหมวดนี้สามารถช่วย Walmart ประหยัดค่าขนส่งได้ 3.5 ล้านดอลลาร์ ในขณะเดียวกันก็สามารถลดการตัดต้นไม้ได้ 5,100 ต้น รวมถึงลดการใช้น้ำมันลงถึง 1,300 บาร์เรล
จะเห็นได้ว่าการสร้างระบบกระจายสินค้าสีเขียวจะต้องอาศัยทั้งความสามารถในการจัดการที่มีประสิทธิภาพ อาทิ การวางเส้นทางและการจัดตารางการขนส่ง ควบคู่ไปกับการลงทุนในเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อทำให้การปล่อยก๊าซเรือนกระจกลดลงจนกลายเป็นศูนย์