นายกฯ สั่ง 'ประวิตร' ลุยกวาดล้างขบวนการขน'แรงงานเถื่อน'

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) วันนี้ (25 ธ.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจหรือก.ตร.ครั้งที่ 12/2563 โดยกล่าวถึงการตั้งคณะกรรมการสอบสวนพิเศษเอาผิดขบวนการลักลอบแรงงานผิดกฎหมายว่า ได้มอบหมายให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีดำเนินการในเรื่องดังกล่าว เบื้องต้นได้รับรายงานด้าน​การข่าวตอนและกำลังดำเนินการอยู่แต่ไปไม่ถึงผู้อยู่เบื้องหลังจึงขอให้มีการสอบสวน​ต่อเพื่อสาวถึงผู้อยู่เบื้องหลังมากกว่าการจับเป็นรายๆ ไปยอมรับมีคนส่งข้อมูลเข้ามาให้จำนวนมากทั้งทางโชเชียลมีเดีย และขอความร่วมมือประชาชนส่งข้อมูลมาให้ แต่ขอให้อยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริง เราต้องกำจัดคนไม่ดีออกให้ได้ ซึ่งต้องอาศัยผู้ปฎิบัติงานข้างล่าง

วันนี้ต้องให้กำลังใจตำรวจ ทหาร ข้าราชการพลเรือนโดยเฉพาะช่วงปีใหม่ที่จะต้องทำงานหนักอะไรที่จะลดภาระได้ก็ขอให้ช่วยกัน อย่าทำสิ่งที่ผิดกฎหมาย ในช่วงที่ทุกคนมีความสุขไม่อยากให้มีการเผชิญหน้า​กัน สถานการณ์โลกเป็นแบบนี้ การแพร่ระบาดของโควิดเป็นทั่วโลกต้องแก้ปัญหาร่วมมือกันให้ได้เดี๋ยวก็ดีขึ้นเอง

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้กำชับพรรคร่วมรัฐบาล ให้ช่วยแก้ปัญหาโควิดหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ทุกคนมีหน้าที่ในการดูแลรับผิดชอบงานแต่ละคนอยู่แล้ว แต่ส่วนไหนที่จะต้องบูรณาการร่วมกันก็ต้องขอความร่วมมือทุกกระทรวง เพราะมีความเชื่อมโยงกันหมด ทั้งเรื่องแรงงานต่างด้าว การขนส่งสินค้า การเดินทาง มาตรการเว้นระยะห่าง ถ้าไม่ระวังจะเกิดปัญหาและจะทำให้กลับไปสู่ที่เดิม

"ขออย่านำเรื่องโควิดมาโยงกับการเมือง ขอให้ร่วมมือกันทำเพื่อประเทศชาติ ถ้าร่วมมือกันทั้งหมด ประเทศจะเดินหน้าไปได้ ตนและรัฐบาลมีการประชุมแก้ปัญหาเศรษฐกิจในทุกมิติอยู่แล้ว" นายกฯ กล่าว

เมื่อถามต่อว่า การไม่ล็อกดาวน์ช่วงปีใหม่ อาจทำให้โควิดระบาดมากขึ้นหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ถ้าควบคุมได้ ก็ไม่มีปัญหา ขึ้นอยู่กับจะควบคุมได้มากน้อยเพียงใด ซึ่งวันนี้หลายอย่างเริ่มดีขึ้น ข้อสำคัญจะต้องไม่ออกนอกพื้นที่ ขอร้องไปแล้ว วันนี้ยังไม่มีการนำแรงานไปปล่อยทิ้งและแรงงานจะต้องอยู่ในพื้นที่ควบคุมที่ระบุไว้ โดยเจ้าหน้าที่จะต้องดำเนินอย่างเข้มแข็งเด็ดขาด

ทางด้าน พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) กล่าวถึงความคืบหน้าสืบสวนจับกุมขบวนการขนแรงงานต่างด้าว ว่า รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจริงใจที่จะแก้ปัญหาโควิด-19 หมายความว่าใครก็ตามที่อยู่ในประเทศเรา จะเข้ามาจะผิดหรือถูก แต่เราจะดูแลเรื่องสาธารณสุขให้ ช่วงนี้จึงขอทำความเข้าใจกับพี่น้องแรงงาน ขอให้อยู่กับที่นิ่งๆ ทางเจ้าหน้าที่จะไม่ไปยุ่งอะไรกับท่าน แต่ขอให้ท่านอยู่และปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เราต้องการจำกัดการเคลื่อนย้าย ไม่ว่าจะเป็นประชากรส่วนใดก็ตาม เพื่อให้การแพร่ระบาดของโรคน้อยที่สุด ขณะนี้เราไม่มีนโยบายจับกุมข้อหาหลบหนีเข้าเมือง เพราะอยากให้แรงงานต่างด้าวอยู่นิ่งๆ กับที่

พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวอีกว่า ช่วงนี้เราเน้นปราบปรามขบวนการที่นำเข้าแรงงานต่างด้าวเข้ามาจะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่ใช่ก็ตาม เราต้องเร่งจัดการอย่างเด็ดขาด ต้องสาวถึงเบื้องหลัง ไม่ให้เคลื่อนย้ายข้ามชายแดนมาอีก ซึ่งนายกรัฐมนตรีพูดไว้ว่าใครผิดต้องลงโทษหมด และขอให้มั่นใจว่าใครผิดเราไม่เอาไว้

ถามว่าขบวนการแบบนี้มักมีผู้มีอิทธิพลมาเกี่ยวข้อง สังคมจะมั่นใจได้อย่างไรว่าเจ้าหน้าที่จะจริงจังกับเรื่องนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ลงมาควบคุมกำกับด้วยตนเอง ตนเชื่อว่าไม่มีใครใหญ่ไปกว่านายกฯ แน่นอน อย่างไรต้องดำเนินการอย่างเร็วที่สุด

ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า ได้รับรายงานจากพล.ต.ท.ธนา ชูวงษ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (ผบช.ภ.7) จะแถลงผลการสอบสวนทางวินัยกับข้าราชการตำรวจบางนายที่ถูกร้องเรียนกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งจริงๆ มีการสืบสวนมาระยะหนึ่งแล้ว โดยขอให้ทางภูธรภาค 7 เป็นผู้แถลงรายละเอียดให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ตนก็ให้ตรวจสอบทุกพื้นที่โดยเฉพาะ 10 จังหวัดแนวชายแดนภาคตะวันตก แต่ก็ไม่ทิ้งทางภาคตะวันออก เมื่อวานนี้ (24 ธันวาคม) ได้รับรายงานว่ามีเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงจับตำรวจชายแดนฝั่งตะวันออก ซึ่งทราบว่าเป็นตำรวจชั้นผู้น้อย มีภรรยาเป็นคนต่างด้าว แต่ไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย

พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า เมื่อ2-3 วันที่ผ่านมาเราได้นำรถโมบายของ ตม. ไปเก็บภาพใบหน้าลายนิ้วมือ ของแรงงานที่ถูกกักตัวในตลาดกลางกุ้ง ผมได้พูดกับนายกรัฐมนตรีว่าไม่ว่าเขาจะอยู่ผิดหรือถูก เราจะขึ้นทะเบียนไว้ทั้งหมด ลงในระบบไบโอเมทริกซ์ของ ตม. และจะหารือกับกระทรวงแรงงานทำบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของแรงงาน ซึ่งจะทำให้เราสามารถกำกับดูแล มีข้อมูลที่ถูกต้องของแรงงานที่อยู่ในประเทศไทย ไม่ว่าเขาจะเข้ามาด้วยวิธีการใดก็ตาม