จับตา 3 ค่ายรถ'อีวี'จีนหลังทำไอพีโอทะลุเป้า

จับตา 3 ค่ายรถ'อีวี'จีนหลังทำไอพีโอทะลุเป้า

จับตา 3 ค่ายรถ“อีวี”จีนหลังทำไอพีโอทะลุเป้า ขณะที่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของจีนกำลังเดินมาถึงทางแยกสำคัญผู้เล่นหน้าใหม่จึงต้องเร่งชิงส่วนแบ่งตลาดให้ได้มากที่สุด

ในปีนี้ ค่ายรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าในจีน 3 แห่ง คือ“นิโอ”, “เอ็กซ์เป็ง มอเตอร์ส” และ“หลี่ ออโต้” ประสบความสำเร็จในการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ในช่วงที่ผ่านมา โดยระดมทุนได้มากถึง 12,500 ล้านดอลลาร์ สะท้อนถึงอนาคตที่สดใสของตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะกระแสนิยมรถไฟฟ้าที่กำลังกระหึ่มในตลาดโลกและการตอบรับนี้เองทำให้ราคาหุ้นของบริษัทเทสลาอยู่ในช่วงขาขึ้น จนส่งผลให้ได้รับการปรับอันดับความน่าเชื่อถือ

เอสแอนด์พี โกลบอล เรทติ้งส์ (เอสแอนด์พี) ประกาศเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทเทสลา ขึ้น 1 ขั้น สู่ระดับ BB หลังจากเทสลาขายหุ้นเพื่อทำกำไรได้เป็นมูลค่าถึง 5,000 ล้านดอลลาร์ในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้สถานะเงินทุนของเทสลามีความแข็งแกร่งมากขึ้น

เทสลาขายหุ้นในช่วงที่ราคาหุ้นของบริษัททะยานขึ้นติดต่อกันหลายวัน นับตั้งแต่ S&P Dow Jones Indices LLC ซึ่งเป็นผู้จัดทำดัชนีตลาดหุ้นนิวยอร์ก ประกาศนำหุ้นของเทสลาเข้ารวมในการคำนวณดัชนี S&P500 ในวันที่ 21 ธ.ค. ที่ผ่านมา

เอสแอนด์พีได้ปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือให้แก่เทสลาสู่ระดับ BB ซึ่งสอดคล้องกับอันดับความน่าเชื่อถือที่มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ที่ปรับอันดับความน่าเชื่อถือให้แก่เทสลาเมื่อไม่นานมานี้ และนับเป็นครั้งที่ 3 ที่เทสลาได้รับการปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือ ท่ามกลางภาวะธุรกิจทั่วโลกที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

นอกจากนี้ เอสแอนด์พี ยังระบุว่า มีโอกาสอย่างน้อย 33% ที่บริษัทจะปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือของเทสลาขึ้นอีกครั้งในปีหน้า หากเทสลามีความได้เปรียบด้านการแข่งขันเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

เทสลามีผลกำไรติดต่อกัน 5 ไตรมาส และได้รับการยอมรับมากขึ้นในตลาดหุ้นวอลล์สตรีท โดยเทสลามีเป้าหมายที่จะส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าจำนวน 500,000 คันในปีนี้ ซึ่งถือเป็นหมุดหมายสำคัญของเทสลาที่ดำเนินงานมานาน 17 ปีภายใต้การบริหารของ“อีลอน มัสก์”ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร(ซีอีโอ)

แต่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของจีนกำลังเดินมาถึงทางแยกสำคัญ เนื่องจากมาตรการสนับสนุนของรัฐบาลปักกิ่งจะหมดอายุลงหลังจากปี 2565 ด้วยเหตุนี้บรรดาผู้เล่นหน้าใหม่ในตลาดนี้จึงต้องเร่งชิงส่วนแบ่งตลาดให้ได้มากที่สุด ค่ายรถไฟฟ้าสัญชาติจีนทั้ง 3 แห่งจึงต้องเร่งระดมทุนในตลาดหุ้นสหรัฐเพื่อขยายเครือข่ายการจัดจำหน่ายและสร้างผลกำไรให้ได้เพื่อความอยู่รอดในอุตสาหกรรมนี้ที่เต็มไปด้วยปัจจัยเสี่ยงมากมาย

นิโอ ซึ่งก่อตั้งเมื่อปี 2557 และมีบริษัทเทนเซ็นต์ โฮลดิงส์ บริษัทให้บริการอินเทอร์เน็ตเป็นหนึ่งในกลุ่มนักลงทุนของบริษัท สามารถระดมทุนได้ 3,000 ล้านดอลลาร์ในการเสนอขายหุ้นใหม่เดือนนี้ และเมื่อคำนวณตลอดทั้งปี ค่ายรถแห่งนี้สามารถระดมทุนใหม่ได้คิดเป็นมูลค่ารวม 6,000 ล้านดอลลาร์ รวมทั้งเงินสนับสนุนจากรัฐบาลปักกิ่งด้วย

นิโอ ผลิตรถสปอร์ตอเนกประสงค์(เอสยูวี) รุ่นอีเอส6 ที่มีราคาขายเริ่มต้น 358,000 หยวน(54,700 ดอลลาร์)แม้จะมีราคาขายสูงกว่าเทสลา โมเดล3 ซึ่งเป็นรุ่นยอดนิยม แต่รถไฟฟ้าอีเอส6ก็ได้รับการตอบรับจากผู้ขับหน้าใหม่ผ่านทางการบอกปากต่อปาก

“มีกลุ่มลูกค้าที่เป็นครอบครัวจำนวนมากที่มองหารถคันที่สอง หรือ ลูกค้ากลุ่มหนุ่มสาวที่โปรดปรานรถยนต์ที่มาพร้อมนวัตกรรมหรือเทคโนโลยีก้าวหน้า”ดีลเลอร์รายหนึ่งในกว่างโจวที่ขายรถเอสยูวีของนิโอจนหมดเกลี้ยง กล่าว

ในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ นิโอขายรถได้ประมาณ 37,000 คัน เพิ่มขึ้น 110% จากช่วงเวลาเดียวกันในปี 2562 แม้บริษัทยังคงอยู่ในอันดับ 7 ของตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าในจีน

“รถยนต์ของเราดีกว่ารถยนต์ขับเคลื่อนด้วยน้ำมันทั่วไปอยู่มากเมื่อเทียบกันในแง่ของราคา”หลี่ บิน ซีอีโอบิโอ ให้สัมภาษณ์ในงานอีเวนท์งานหนึ่งในกรุงปักกิ่งช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา

แต่บริษัทนี้ของจีนก็ยังทำกำไรไม่ได้ เนื่องจากมีต้นทุนการผลิตที่ตายตัว ส่วนหนึ่งเป็นเพราะบริษัทยังคงมีความสามารถในการผลิตรายปีอยู่ที่ 200,000 คัน ซึ่งกัวเซน ซิเคียวริตีส์ ของจีนประเมินว่า ค่ายรถแห่งนี้จำเป็นต้องทำยอดขายให้ได้ปีละ 180,000 คันเพื่อที่จะถึงจุดคุ้มทุนและมีผลกำไร

บริษัทนิโอ ระบุว่า “การเสนอขายหุ้นใหม่ในเดือนธ.ค.จะเป็นการเสนอขายหุ้นเพื่อระดมทุนมาใช้กับการวิจัยและพัฒนารถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่ติดตั้งเทคโนโลยีขับเคลื่อนรุ่นต่อไป รวมทั้งขยายเครือข่ายจัดจำหน่ายและบริการหลังการขาย”

นอกจากนี้ นิโอ ยังมีแผนขยายบริการเปลี่ยนแบตเตอรี่โดยลูกค้าสามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่เป็นแบตเตอรี่ใหม่โดยไม่ต้องรอชาร์ตแบตเตอรี่ตามจุดเปลี่ยน 1,000 แห่งจากปัจจุบันที่มีประมาณ 140 แห่งซึ่งการสร้างจุดแลกเปลี่ยนแบตเตอรี่นี้บริษัทใช้เงินในการก่อสร้างประมาณ 480,000 ดอลลาร์

“ถัง จิน”นักวิเคราะห์จากธนาคารมิซูโฮะ ให้ความเห็นว่า “หากนิโอไม่เร่งปรับตัวเพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขัน ด้วยการออกกลยุทธใหม่ๆ บริษัทจะต้องสูญเสียลูกค้าและอาจจะทำยอดขายในตลาดไม่ได้ตามเป้า”

ส่วนบริษัทหลี่ และเอ็กซ์เป็ง ที่ต่างเสนอขายหุ้นในตลาดสหรัฐเดือนก.ค.และส.ค.ตามลำดับ ก็สามารถระดมทุนได้หลายพันล้านดอลลาร์แม้ว่าบริษัทจะผลิตรถไฟฟ้าออกมาไม่กี่รุ่นและยังไม่สามารถทำกำไรได้เลยก็ตาม ซึ่งการระดมทุนได้อย่างประสบความสำเร็จของค่ายรถไฟฟ้าจีนทั้ง 3 แห่ง เป็นเพราะกระแสหุ้นรถไฟฟ้าอยู่ในช่วงขาขึ้น โดยเฉพาะราคาหุ้นเทสลา ที่ทะยานกว่า 600%ในปีนี้