‘โควิดสมุทรสาคร’ พ่นพิษ ทัวริสต์ชะลอจองโรงแรมปีใหม่ทั่วไทย

‘โควิดสมุทรสาคร’ พ่นพิษ ทัวริสต์ชะลอจองโรงแรมปีใหม่ทั่วไทย

ความกังวลต่อสถานการณ์ “การแพร่ระบาดรอบใหม่” ในประเทศจากกรณีโควิดสมุทรสาครพุ่งสูงจนส่งผลกระทบต่อความมั่นใจในการเดินทางของตลาด “ไทยเที่ยวไทย” ช่วงโค้งท้ายปี 2563 และลามไปถึงช่วงหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ 2564

ซึ่งในหลายพื้นที่เตรียมจัดงานอีเวนต์และเคาท์ดาวน์เพื่อกระตุ้นบรรยากาศการท่องเที่ยวและจับจ่ายให้คึกคักเช่นทุกปี โดยบางพื้นที่ได้ทยอยประกาศยกเลิกการจัดงานเคาท์ดาวน์แล้ว

มาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) กล่าวว่า กรณีโควิดสมุทรสาครส่งผลกระทบต่อการจองห้องพักโรงแรมและรีสอร์ททั่วประเทศช่วงหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ เนื่องจากนักท่องเที่ยวกังวลสถานการณ์การแพร่ระบาดรอบใหม่ อาจไม่มั่นใจในการเดินทาง ทำให้โรงแรมหลายแห่งได้รับผลกระทบเรื่องยอดจองห้องพักล่วงหน้า รวมถึงโอกาสการสร้างรายได้จากการจัดอีเวนต์ภายในโรงแรมช่วงปีใหม่ที่อาจน้อยลง ซึ่งมีการลงทุนจ่ายค่าตัวนักร้อง นักแสดง และดีเจไปแล้ว

อย่างไรก็ตามเมื่อเจาะเฉพาะรายเมืองท่องเที่ยว พบว่าเมืองรองอย่างนครศรีธรรมราช น่าน และสุโขทัยที่นักท่องเที่ยวไทยนิยมเดินทางไปเยือน รวมถึงโรงแรมในย่านนิคมอุตสาหกรรม เช่น พระนครศรีอยุธยา และปทุมธานี อาจได้รับผลกระทบในช่วงปีใหม่น้อยกว่าเมืองท่องเที่ยวหลักอื่นๆ ส่วนโรงแรมในบุรีรัมย์ซึ่งเป็นเมืองที่พึ่งพิงรายได้ท่องเที่ยวจากการจัดงานอีเวนต์เป็นหลัก คาดว่าน่าจะได้รับผลกระทบมากพอสมควร

ด้านเมืองท่องเที่ยวหลักอย่างกรุงเทพฯ และหาดใหญ่ สงขลา ซึ่งพึ่งพิงฐานนักท่องเที่ยวต่างชาติ แน่นอนว่ายังได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่องเพราะยังไม่มีการเปิดประเทศ อย่างโรงแรมในกรุงเทพฯ แม้จะคึกคักก็คึกคักเป็นบางโรงแรมเท่านั้น ยังมีโรงแรมอีกจำนวนมากที่ยังไม่กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง หลังวิกฤติโควิด-19 เล่นงานภาคธุรกิจโรงแรมมาตั้งแต่ต้นปี 2563

ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ถ้าไม่เจอกรณีโควิดสมุทรสาคร จำนวนนักท่องเที่ยวไทยตลอดปี 2563 มีลุ้นแตะ 100 ล้านคน-ครั้ง แต่พอเจอกรณีดังกล่าว ททท.จึงประเมินใหม่ว่าน่าจะปิดที่ 95 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ 5 แสนล้านบาท ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติปีนี้คาดปิดที่ 6.7 ล้านคน สร้างรายได้ 3.3 แสนล้านบาท รวมรายได้ทั้งตลาดในและต่างประเทศปีนี้เบื้องต้นปิดที่ 8.3 แสนล้านบาท

“ในช่วงนี้นักท่องเที่ยวไทยอาจจะกำลังช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าพื้นที่เสี่ยงอย่างสมุทรสาคร แต่บางส่วนยังต้องการเดินทางไปท่องเที่ยวพักผ่อนที่เพชรบุรีและหัวหิน ประจวบคีรีขันธ์ จึงต้องปรับแผนการเดินทางขับรถเลี่ยงไปอีกเส้นทางแทน หรือหลายรายอาจปรับแผนเดินทางไปยังจุดหมายระยะไกลที่ต้องนั่งเครื่องบินไปแทนในช่วงหยุดยาวปีใหม่นี้”

ทั้งนี้ ททท.ได้จัดทำข้อมูลติดตามสถานการณ์ฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวไทย (TAT Tourism Recovery Tracker) อัพเดตล่าสุดเมื่อวันที่ 18 ธ.ค.2563 ระบุว่าการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวระหว่างประเทศเมื่อเดือน ต.ค.ที่ผ่านมามีจำนวนเดินทางเข้าไทย 1,201 คน ลดลง 99.96% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว ส่วนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยเมื่อเดือน พ.ย.ที่ผ่านมามีจำนวน 16,017,165 คน เพิ่มขึ้น 10.40% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว และเพิ่มขึ้น 2.63% เมื่อเทียบกับเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา

ด้านสถานการณ์ธุรกิจพักแรมเมื่อเดือน พ.ย.ที่ผ่านมามีอัตราเข้าพัก 37.56% ลดลง 32.77% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว แต่ฟื้นตัวดีขึ้น 3.50% เมื่อเทียบกับเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา

ขณะที่สถานการณ์การขนส่งทางอากาศ พบว่ามีจำนวนผู้โดยสารที่ทำการจองบัตรโดยสารเครื่องบินมายังประเทศไทยในเดือน พ.ย.ที่ผ่านมาจำนวน 9,597 คน ลดลง 99.01% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว แต่ดีขึ้น 6.15% เมื่อเทียบกับเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา

ส่วนจำนวนที่นั่งของแผนการบินระหว่างประเทศขาเข้าเดือน ธ.ค.นี้มีจำนวนกว่า 939,006 ที่นั่ง ลดลง 81.41% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว แต่ถือว่าเพิ่มขึ้น 109.84% เมื่อเทียบกับเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา และเมื่อเจาะเฉพาะแผนการบินภายในประเทศเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมามีจำนวน 4,134,926 ที่นั่ง เพิ่มขึ้น 4.89% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว และเพิ่มขึ้น 6.15% เมื่อเทียบกับเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา